“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ในขณะมองเจ้าหญิงน้อยสุดที่รักมิเชลก็ได้บ่นกับยูอิลฮาน… มีมังกรอยู่ในอ้อมแขนภรรยาที่งดงามของเขา ยูอิลฮานได้ตอบเขากลับมาด้วยคำถามแทน
“คุณสมิธสัน คุณเป็นเผ่าพันธ์อะไรล่ะ?”มันไม่ได้มีปัญเลยสักนิด นี่มันปกติมากๆ เจ้าหญิงน้อยในอ้อมแขนคาริน่า มาเลเทสต้า ไม่สิ คาริน่า สมิธสันได้ยิ้มออกมาอย่างสดใส
“ยี้ฮ่าห์!”เด็กนี่เข้าใจคำพูดได้ในทันทีที่คลอดออกมา! เมื่อคำนึงถึงพื้นฐานของเธอที่สูงมากๆเนื่องจากเธอเกิดมาเป็นลูกสองของมังกรที่แท้จริงทำให้พัฒนาการของเธอไม่ธรรมดาเลย คาริน่า สมิธสันได้คิดว่าเธอได้เลือกพ่อทูนหัวที่ดีและหันมาถามเรา
“พ่อทูนหัวช่วยดูแลเด็กคนนี้ด้วย คุณจะรับเธอเข้าดราก้อนเนสใช่ไหม?”ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาในขณะที่ลูบหัวของเธอ รอยยิ้มของเด็กได้สดใสมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมซะอีก
“แต่ว่าเธอน่ารักมากๆเลย~ เธอจะต้องสวยเหมือนแม่แน่นอน”เนื่องจากว่ามีชีวิตใหม่เกิดขึ้นมาทำให้แทบจะทุกๆคนได้มารวมตัวกันในที่แห่งนี้ นายูนาที่ก็ไม่ได้ชอบมิเชล สมิธสันมากนักก็ได้เข้ามาลูบหัวยูนิเช่นกัน มิเชลได้ที่ได้กลายมาเป็นคนเอาจริงเอาจังหลังจากเป็นพ่อคนก็หัวเราะออกมาเท่านั้น
เขาได้เปลื่ยนไปแล้วจริงๆ
“อิลฮาน”
เลียร่าที่กำลังมองยูนิในอ้อมแขนคาริน่า ได้ตาเป็นประกายออกมา
“มามีลูกกันเถอะ!”เลียร่าได้เข้าไปเกาะแกะยูอิลฮาน แต่ว่าเขาก็ยังตอบกลับอย่างหนักแน่น และเหตุผลก็คือ
“ฉันไม่ชอบมันก็เพราะว่ามันรู้สึกเหมือนบทส่งท้ายใกล้จะมาถึงแล้ว”เธออยากจะเถียงกลับไป แต่ว่าเธอก็ไม่รู้จะเถียงกลับไปยังไงทำให้เธอได้แต่เงียบ ยูอิลฮานได้แตะไหล่ของเธอและรับเอายูนิมาจากคาริน่า ในเมื่อเขาได้กลายมาเป็นพ่อทูนหัวแล้ว อย่างน้อยเขาจะต้องทำหน้าที่ของเขา
[ยูนิ เธอจะต้องงดงามและมีความสุข เธอจะกลายเป็นคนที่สามารถแบ่งปันความสุขและความทุกข์ร่วมกันคนอื่นๆได้ เธอจะต้องมีหัวใจที่อบอุ่นเฉกเช่นเดียวกับกรงเล็บที่แข็งและมีอารมณ์ความรู้สึกมากเท่ากับความฉลาดของเธอ เธอจะกลายเป็นคนที่ถูกรักและคนที่จะมอบความรัก]
ประกาศิตยูอิลฮานได้กลายเป็นความปรารถนาที่จริงใจห้อมล้อมยูนิเอาไว้ มันเป็นความปรารถนาที่จะมอบศักยภาพที่สดใสให้กับเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สมบูรณ์แบบก็ตาม
“ว้าว ดูมานาทั้งหมดนั่นสิ น่าทึ่ง…”ยูนิจะรู้หรือไม่ว่าพรจากประกาศิตของยูอิลฮานมากขนาดไหน? ยูอิลฮานได้จับนิ้วยูนิก่อนที่จะส่งเธอกลับคืนไปให้ครอบครัวของเธอ
“ยินดีด้วยนะ ฉันยุ่งกับงานจนไม่รู้เลยว่าพวกเธอสองคนแต่งงานกัน”ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมา และพูดถึงสิ่งที่เขาต้องการออกมา
หากเขาบอกว่าภาพของพ่อไม่ได้โผล่เข้ามาในหัวของเขาก็คงจะเป็นการโกหก ไม่ว่าเขาจะแกร่งยังไง มันก็คงไร้ความหมายหากว่ากาเบรียลได้เผชิญกับเรื่องโชคร้ายไปก่อนแล้ว
‘…พ่อไม่น่าจะเป็นอะไร’
เขาได้ยืนยันกับตัวเองว่าพ่อเขาไม่เป็นอะไร ถึงกังวลไปก็ไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลง เขาได้แต่ทำในสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้เหมือนอย่างที่เคยทำมา
“ถ้างั้นสมิธสันทั้งสองคนคงจะต้องยุ่งกับการเลี้ยงลูก…”หลังเขกหัวเลียร่าแล้ว ยูอิลฮานได้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เลียร่าได้ถามออกมาด้วยใบหน้าเศร้าๆ
“แล้วเราจะถ่ายทำบทส่งท้ายกันเมื่อไหรล่ะ?”หลังจากนั้นเวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยูอิลฮานได้ใช้เวลาไปกับการฝึกฝนพร้อมสมาชิกต่อสู้หลักคนอื่นๆ ส่วนคนธรรมดาก็ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันอย่างมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ไม่มีภัยคุกคามจากมอนสเตอร์ และพวกเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่อารยธรรมและธรรมชาติได้รวมเป็นหนึ่ง นี่พูดได้เลยว่าพวกเาได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขที่สุดแล้วนับตั้งแต่เกิดมหาภัยพิบัติขึ้นมา
แน่นอนยูอิลฮานก็ได้ทำในสิ่งที่เขาทำเพียงลำพังเช่นเดิมโดยไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ ถึงแม้ว่ายูอิลฮานจะได้เข้าสู่ก้าวแรกในฐานะผู้สร้างแล้ว แต่ว่าเส้นทางของเขายังอีกยาวไกล จนว่าเขาจะได้ไปถึงปลายทาง เขาจะไม่มีวันหยุดก้าวต่อ
***
เดิมทียูอิลฮานมีความสามารถที่มากอยู่แล้วในการละเลยการไหลของเวลา แต่ว่าเนื่องจากคนมีคนที่แสดงถึงการเปลื่ยนแปลงของเวลาที่ชัดเจนอยู่ทำให้เขาจะไม่รู้เรื่องการไหลของเวลาก็ไม่ได้
“คุณพ่อทูนหัวคะ!”
เด็กสาวตัวน้อยน่ารักที่ผมสีทองถูกมัดเป็นหางม้าได้ตะโกนออกมาพร้อมๆกับรอยยิ้มกว้าง เธอได้วิ่งเข้ามาในพื้นที่ฝึกซ้อมภายในป้อมปราการลอยฟ้า ยูอิลฮานได้โบกมือด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“เป็นเธอนี่เองยูนิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี