ซ่างชิวก้าวออกมาพูดเป็นคนแรก “อวี้เฟิ่ง เจ้าพูดอะไรของเจ้า”
“ก่อนหน้านี้เจ้าพูดเองว่าคนเหล่านี้มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน”
“เจ้ายังบอกว่าพวกเขาขโมยแม่ไก่แก่ที่บ้านเจ้าเลี้ยงไว้มาหลายปีไปอีกต่างหาก พวกข้าถึงได้มาทวงคำอธิบายจากพวกเขา”
“แต่พอมาถึงที่นี่ เจ้ากลับให้พวกข้าทุบบ้านคนอื่นเสียอย่างนั้น”
ชายอีกคนก็ก้าวออกมาเหมือนกัน เขาชี้หน้าด่าทออวี้เฟิ่ง
“หน็อยแน่ อวี้เฟิ่ง เจ้าช่างกลับดำเป็นขาวเก่งจริงๆ”
“บ้านหลังนี้เดิมทีเป็นบ้านท่านย่าหลี่ เจ้ายังพูดว่าเจ้าสนิทกับท่านย่าหลี่ที่สุดแล้ว”
“ตอนนี้พวกเขาไม่อยู่แล้ว เจ้าพูดว่าถึงทุบบ้านหลังนี้ทิ้งก็ไม่มีทางเป็นเรื่อง”
“อะไรกัน ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว เจ้าก็ปัดความรับผิดชอบเสียหมด แล้วโยนมาให้พวกข้ารับผิดแทนอย่างนั้นรึ?”
ผู้ชายคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าทออวี้เฟิ่งเช่นกัน
“ใช่แล้ว ต่อให้แจ้งความ ถ้าจะจับก็ต้องจับอวี้เฟิ่ง จะมาจับพวกเราไม่ได้”
“ข้าเสียใจจริงๆ ทำไมถึงหลงเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนี้มาทุบผนังบ้านคนอื่นได้นะ”
“ข้าบอกตั้งนานแล้วว่าอย่าไปเชื่อคำนาง นางทำร้ายพวกเราจริงๆ แล้วเนี่ย”
อวี้เฟิ่งมองดูพวกเขาแต่ละคนผลัดกันด่าทอนางอย่างดุเดือด
จนถึงตอนนี้ ข้อมือนางยังคงเจ็บปวดทรมานยิ่ง
นางทรุดตัวนั่งลงบนพื้น เริ่มดีดดิ้นร้องไห้โฮ
“ไร้คุณธรรมน้ำมิตรสิ้นดี พวกเจ้าช่วยพูดแทนคนนอก ข้าไม่อยู่มันแล้ว ข้าจะตายให้พวกเจ้าดู!”
อวี้เฟิ่งว่าแล้วก็คืบคลานลุกขึ้นมา ปรี่เข้าหาผนังทำท่าจะพุ่งชน
ท่านปู่เฉินตวาดเสียงเกรี้ยว “พอแล้ว น่าอับอายขายหน้าสิ้นดี!”
เห็นกับตาว่าศีรษะอวี้เฟิ่งกำลังจะชนผนังอยู่รอมร่อ
เซิ่งฟางก้าวไวๆ ไม่กี่ก้าวเข้าไปคว้าหลังคอเสื้อของอวี้เฟิ่งเอาไว้
เขาหิ้วอวี้เฟิ่งกลับมาเหมือนลูกไก่ตัวหนึ่ง
เจี่ยนอันอันกล่าวกับพวกผู้ชายที่ทุบผนังบ้านหลายคนนั้น “แม้พวกท่านจะเป็นคนทุบผนัง แต่คนบงการคือนาง”
“เงินก้อนนี้ข้าก็จะไม่ให้พวกท่านใช้คืนแล้ว ข้าจะให้นางชดใช้”
ความจริงแม่ไก่แก่ตัวนั้นถูกนางเชือดแล้วนำมาต้มแกงไก่กินตั้งแต่เย็นวานแล้ว
ตอนนี้อยู่ต่อหน้าคนตั้งมากมาย ถ้านางไม่สามารถหาแม่ไก่แก่เจอในบ้านหลังนี้ นางก็จะต้องชดใช้เงิน
คิดถึงตรงนี้ อวี้เฟิ่งก็ขาอ่อนทำท่าจะทรุดฮวบลงบนพื้น แต่หลังคอเสื้อถูกเซิ่งฟางจับไว้ไม่ปล่อย
นางมองคนในหมู่บ้านบริเวณนั้นด้วยสายตาอ้อนวอน
หวังว่าพวกเขาจะช่วยพูดจาแทนนาง
แต่ทุกคนกลับหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่มองนางสักแวบเดียว
มาถึงเวลานี้ อวี้เฟิ่งเริ่มอยากตายขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว
ท่านปู่เฉินเห็นว่าถ้าไม่สามารถมอบคำอธิบายให้กับเรื่องนี้ เกรงว่าฝ่ายนั้นคงไม่ยอมปล่อยอวี้เฟิ่งไป
เขารีบขอร้องอ้อนวอน “แม่นาง ครอบครัวสามีของอวี้เฟิ่งเป็นครอบครัวที่ยากจนที่สุดในหมู่บ้านชิงสุ่ย”
“นางยังอายุไม่น้อยแล้ว เจ้าช่วยใจกว้างไม่ถือสา ปล่อยนางไปเถอะนะ”
“ข้าขอโทษเจ้าด้วย จากนี้ไปนางจะไม่มาหาเรื่องพวกเจ้าอีกแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ...