“ว้าว! ผมจะลองทั้งสองเมนูเลยครับลิซ่า” คริสเตียนโน่บอกพร้อมกับขยับตัวให้เมดสาวตักเมนูสุดแปลกให้
“คริส! อย่าเรียกผู้หญิงของฉันว่าลิซ่าอีก ฉันไม่ชอบ!” คาเรนเทียบอกอย่างโมโห
“โอเคๆ ผมไม่เรียกแล้วก็ได้” คริสเตียนโน่รีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อขอสงบศึก
“แกรีบทาน แล้วก็รีบกลับไปซะ” คาเรนเทียบอกอย่างเหลืออด
“พระเจ้า! ได้ยินใช่ไหมอันนา? ผมเพิ่งจะมาได้ไม่ถึงสิบนาที พี่คาเรนเอ่ยปากไล่สองครั้งแล้ว” คนโดนไล่หันไปฟ้องแม่บ้านคนสนิททันใด
“เอ่อ...” อันนาอักอึก ไม่กล้าสมทบตามหนุ่มหล่อหน้าทะเล้น
“ไม่ต้องไปสนใจมัน” คาเรนเทียหันไปบอก
“ท่านลองทานส้มตำดูหน่อยไหมคะ” เมลิสสาตักส้มตำไทยส่งให้คนที่ทำหน้าบูดบึ้งอย่างเอาใจ
“ครับ” คาเรนเทียรีบพยักหน้ารับ เมื่อเห็นสาวเจ้าเทคแคร์ตน
“ให้ตายสิ! เมื่อกี้คุณเรียกพี่คาเรนว่าท่านเหรอครับเมลิซ่า” คริสเตียนโน่ถามพร้อมกับจ้องหน้าของหญิงสาวนิ่ง
“เอ่อ...คือว่า...” เมลิสสาถึงกับไปไม่ถูก ไม่รู้จะเอ่ยถึงที่ไปที่มาของตัวเองยังไง
“ไม่ต้องยุ่งสักเรื่องจะได้ไหม” คาเรนเทียกลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่ญาติ ผู้น้องทำตัวจุ้นจ้าน สอดรู้เรื่องชาวบ้านประหนึ่งคนไม่มีอะไรทำ
“อะไร? ผมแค่สงสัยก็เท่านั้น”
“กินซะ! จะได้หยุดพูดซะที” คาเรนเทียตักเท้าไก่ตุ๋นซีอิ๊วลงในจานให้กับญาติผู้น้อง
“พะ...พี่กินหรือเปล่า?” คริสเตียนโน่ถามพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง
“กินสิ” คาเรนเทียรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอย่างไรที่ต้องกินเท้าไก่ตุ๋นเป็นครั้งแรก
“โอเค! กินก็กิน” คนหล่ออารมณ์ดีถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะใช้ส้อมจิ้มเข้าปาก “อื้ม! ชักจะติดใจแล้วสิ”
คาเรนเทียกลอกตาก่อนจะตักส้มตำทานอย่างไม่สนใจ
“อันนา! ผมขอเบียร์สักแก้วสิ” คริสเตียนโน่บอกก่อนจะวางส้อมลง แล้วใช้มือหยิบเท้าไก่ตุ๋นซีอิ๊วในชามของตัวเองทานต่อ
“ฉันเอาด้วย” คาเรนเทียดึงแขนเสื้อขึ้นแล้วใช้มือตามจับเท้าไก่ตุ๋นตามญาติผู้น้อง เพราะกลัวว่าจะกินไม่ทันอีกฝ่าย
“ค่ะท่าน” อันนายิ้มรับ แล้วรีบเดินตรงไปยังบาร์เครื่องดื่ม
เมลิสสามองสองหนุ่มเริ่มแข่งกันกินด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย ก็อดขำไม่ได้ ไม่คิดว่าเมนูเท้าไก่จะเป็นที่โปรดปรานถึงเพียงนี้
หลังจากที่ทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จ เมลิสสาก็เอ่ยขอตัวขึ้นห้องแล้วปล่อยให้สองหนุ่มนั่งดื่มเบียร์คุยกันต่อจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงสี่โมงเย็น คริสเตียนโน่ก็ขอตัวกลับ คาเรนเทียจึงรีบตรงดิ่งไปยังห้องนอนของตน พอเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นสาวเจ้านอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ จึงอุ้มไปวางบนเตียงอย่างเบามือ จากนั้นก็ขยับตัวเข้าไปนอนกอดและหลับตามไป
พอหกโมงเย็น คาเรนเทียก็สะกิดคนที่หลับลึกให้ตื่นไปทานมื้อค่ำ ที่เดือนนภาเตรียมเอาไว้ให้ พอทานเสร็จก็ไปนั่งดูหนังที่ห้องรับแขกด้วยกัน พอหนังจบก็พากันกลับเข้าห้องนอน โดยไม่รู้ว่าเรื่องราวของตนกับเมลิสสาถูกนำไปขยายความให้คนใน กลุ่มฟีนิกซ์ กลุ่ม R&R และไคเลอร์ ฟังจากปากของญาติผู้น้อง
เวลา 22:07 น. เมลิสสาใส่เสื้อคลุมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยหัวใจสั่นๆ รู้ดีว่าคืนนี้จะต้องทำอะไรก่อนนอน พอหลังจากที่ทานข้าวเสร็จเธอจึงเอ่ยชวนเขาดูหนัง เพราะคิดว่ามันอาจจะทำให้เขาหลงลืมบางสิ่งบางอย่างไปได้ แต่ให้ตายเถอะ! ใครจะรู้ว่าหนังเรื่องเดียวที่เขามีคือ Fifty Shades of Grey
คลิก! เสียงหมุนลูกบิดทำให้คนที่กำลังจะเดินไปห้องแต่งตัวสะดุ้งเบาๆ พอเห็นว่าใครเดินเข้ามา พลัน! แข้งขาก็ไม่มีแรงขึ้นมาดื้อๆ “ทะ...ท่านไปไหนมาคะ?”
“ฉันไปอาบน้ำที่ห้องข้างๆ มา” คาเรนเทียบอกขณะมองสำรวจเรือนร่างบอบบางด้วยสายตาแวววาว
“เอ่อ...หนูกำลังจะไปใส่ชุดนอนค่ะ” เมลิสสากำลังจะเดินหนี
“คืนนี้ไม่ต้องใส่” คาเรนเทียบอกพร้อมกับถอดเสื้อคลุมของตัวเองโยนทิ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)