“พระเจ้า! หาเรื่องกันชัดๆ เลยใช่ไหมครับคุณเดือน” คาเรนเทียหันไปหาตัวช่วย
“เอ่อ...คุณมิราคงหมายความว่าถ้าหากคุณคาเรนอยู่ด้วย เธอจะไม่มีสมาธิน่ะค่ะ” คนที่ถูกดึงเข้าไปสู่สมรภูมิรบที่กำลังร้อนระอุ พยายามไกล่เกลี่ย
“งั้น...ผมออกไปรอที่ข้างนอกก็ได้ครับ” คาเรนเทียยอมสงบศึก
“เดี๋ยวเสร็จแล้วเดือนจะให้เด็ก ตั้งโต๊ะตรงระเบียงด้านนอกนะคะ” เดือนนภารีบบอก
“ครับ!” คาเรนเทียยิ้มให้แม่ครัวใหญ่ ก่อนจะลุกเดินออกไป
“หนูขอโทษนะคะที่ทำให้คุณเดือนลำบากใจ” เมลิสสายกมือไหว้อย่างรู้สึกผิด ที่เผลอไปต่อล้อต่อเถียงกับคนหื่นเมื่อครู่
“ไม่เป็นไรค่ะ เรามาทำซอสหมักเนื้อกับน้ำจิ้มกันดีกว่า” เดือนนภาส่งยิ้มให้อย่างเข้าใจความรู้สึกของสาวตรงหน้า
“ได้ค่ะ” เมลิสสายิ้มอย่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงมือทำ
“เอ่อ...ไม่ทราบว่าพอจะมีอะไรเป็นกับแกล้มให้คุณคาเรนบ้างไหมคะ พอดีท่านสั่งให้ดิฉันยกเบียร์ไปเสิร์ฟ” อันนาเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้าเจื่อนๆ หลังจากได้รับคำสั่งของผู้เป็นนายมาเมื่อครู่
“อืม...คุณมิรายำเบคอนให้หน่อยได้ไหมคะ เดือนจะเตรียมเครื่องปรุงสำหรับทำซอสรอ” เดือนนภาหันไปบอกลูกศิษย์คนสวย
“ได้ค่ะ” เมลิสสายิ้มก่อนจะเดินไปเตรียมเครื่องยำ
“คุณอันนายกเบียร์ไปเสิร์ฟก่อนได้เลยค่ะ ถ้าทำกับแกล้มเสร็จแล้ว เดี๋ยวเดือนจะยกไปเสิร์ฟเอง”
“โอเคค่ะ” อันนายิ้มก่อนจะเดินออกไปที่บาร์เครื่องดื่มด้านนอก หยิบแก้วในตู้เย็นกับเบียร์ใส่ถาด แล้วยกไปเสิร์ฟให้ผู้เป็นนายที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ตรงระเบียง
คาเรนเทียหยิบมือถือมาต่อสายหาคนสนิทที่เข้าบริษัทแทน เพื่อจะสอบถามถึงงานที่ตนไม่มีกะจิตกะใจอยากจะทำ นอกเสียจากการได้อยู่ใกล้ๆ กับเมลิสสา ซึ่งเขายอมรับกับตัวเองอย่างไม่อายว่าทั้งรักและหลงเธอจนหัวปักหัวปำ
[ครับบอส] แอนดรูขานรับทันทีหลังกดรับสาย
[งานมีปัญหาอะไรไหม?]
[ไม่ครับ แต่อีกสองวันบอสจะต้องเซ็นสัญญากับคุณเดซี ฮอลลี ลูกสาวของคุณทอมสัน ที่เพิ่งจะขึ้นมารับตำแหน่งแทน”
[ชื่อคุ้นๆ] คาเรนเทียพยายามนึกว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
[แหม...ไม่คุ้นอย่างเดียวมั้งครับ บอสเคยขึ้นเตียงกับคุณเดซีมาสองครั้ง] แอนดรูกลอกตาอย่างรู้สึกเพลียๆ
[ให้ตายสิ! ทำไมโลกมันถึงได้กลมขนาดนี้วะ]
[ผมว่าคุณเดซี่น่าจะติดใจบอสอยู่นะครับ เดือนก่อนเธอโทร. มาขอดินเนอร์กับบอสด้วยครับ]
[ฉันจำใครไม่ได้หรอก พวกเธอหน้าเหมือนๆ กันหมด]
[แล้วถ้าเป็นคุณมิราล่ะครับ?]
[เห็นแค่ปลายผมด้านหลัง ฉันก็จำได้ เพราะเธอพิเศษกว่าทุก ๆ คนที่ผ่านมา] คนที่โลกทั้งใบกำลังเป็นสีชมพู อมยิ้มนิดๆ เมื่อนึกไปถึงใบหน้างามของหญิงสาวที่ขโมยลมหายใจเข้า-ออกของเขาไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอหน้า
[งั้นก็ขอแต่งงานเลยสิครับ] แอนดรูเอ่ยหยอก เพราะเห็นผู้เป็นนายออกอาการคลั่งไคล้สาวเจ้าขนาดหนัก
[บ้า! ฉันยังไม่มั่นใจว่าเราจะไปกันได้หรือเปล่า] คนหล่อเลือกได้มาตั้งแต่เกิดรีบบอกอย่างไว้เชิง
[นี่ยังเรียกว่าไม่มั่นใจอีกเหรอครับ] แอนดรูแซวอย่างขำๆ
[อัปเดตข่าวรอบโลกให้ฟังหน่อย] คาเรนเทียรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
[วันนี้! อาการหึงหวงของคุณแพททริกลดลงแล้วครับ เป็นเรื่องดีหากว่าบอสจะโทรไปเคลียร์ทุกอย่างให้กระจ่างแบบจริงๆ จังๆ สักที]
[พรุ่งนี้ฉันจะโทร. รายงานเรื่องต่อไป]
[เอ่อ...คุณคริสส่งข่าวบอกทุกคนในฟีนิกซ์, R&R รวมไปถึงไคเลอร์ ว่าบอสมีคนรักเป็นของตัวเองแล้วครับ]
[ให้ตาย! ฉันเกลียดมันสุดๆ เลย] คาเรนเทียกลอกตาอย่างเซ็งๆ
[อ๋อ! เห็นว่าเย็นนี้จะมาทานมื้อเย็นกับบอสด้วยนะครับ] แอนดรูบอกยังไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตหรูก็ขับแล่นเข้ามาจอดที่ลานน้ำพุด้านหน้าคฤหาสน์
ปรื้นนนนน
[พระเจ้า! แกต้องไม่เชื่อแน่ๆ] คาเรนเทียจ้องมองคนที่ก้าวลงจากรถอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
[คะ...คุณคริสใช่ไหมครับ] ปลายบอกอย่างสายจำเสียงเครื่องยนต์ได้
[ใช่! แค่นี้ก่อนนะ] คาเรนเทียกดวางสายพร้อมกับจ้องมองคนที่เดินตรงมาหาตนอย่างรู้สึกเซ็งในอารมณ์
“แหม...ดื่มแต่วันเลยนะครับ” คริสเตียนโน่เอ่ยแซว ก่อนจะนั่งลงแล้วหยิบเบียร์อีกขวดที่วางอยู่ มาดื่มแก้กระหาย
“นายมาทำไมวะ?” คาเรนเทียถามด้วยสีหน้ากวนๆ
“มาหาลิซ่า เอ๊ย! มาหาพี่น่ะสิ” คริสเตียนโน่เอ่ยหยอก
“เห็นหน้ากันมาตั้งแต่เด็กยันโต แกไม่เบื่อบ้างหรือไง”
“ไม่ครับ” คริสเตียนโน่ตอบก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นใครบางคนถือถาดเดินตรงมาที่โต๊ะ
“ว้าว! น่ากินจังเลยครับ” คริสเตียนโน่เอ่ยชมแม่ครัวใหญ่
“น้ำซุปกลิ่นหอมจัง” คาเรนเทียบอกก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ แม่กระต่ายน้อย มานั่งข้างๆ ตน
“ไม่รู้จะถูกปากหรือเปล่า ลองชิมดูก่อนนะคะ” เดือนนภาบอกยิ้มๆ หลังจากจัดวางของต่างๆ เสร็จ
“ครับ/ครับ” สองหนุ่มขานรับพร้อมๆ กัน
เมลิสสาที่ตอนแรกตั้งใจจะขอเข้าไปทานข้างในครัวกับเดือนนภา แต่พอเห็นสายตาของพ่อเทพบุตรสุดหื่น เอ๊ย! สุดหล่อ ก็จำต้องนั่งลงข้างๆ อีกฝ่ายอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“อื้ม! น้ำซุปมีกลิ่นหอมของเนย” คนที่แอบตักน้ำซุปชิม บอกยิ้มๆ
“สุดยอดมากครับคุณเดือน” คริสเตียนโน่หยิบช้อมาตักชิมตาม ญาติผู้พี่ ก็รีบยกนิ้วให้อย่างเห็นด้วย
“ต้องเอาของทุกอย่างมาจิ้มกับซอสอันนี้ใช่ไหม” คาเรนเทียหันไปถามแม่กระต่ายน้อย
“ใช่ครับ! พี่จะเอาเนื้อไปย่างหรือว่าจุ่มลงในน้ำซุปร้อนๆ ก็ได้ แล้วค่อยเอามาจิ้มกับซอส” คริสเตียนโน่ชิงบอก เพราะไปกินชาบู หมูกระทะ เป็นประจำทุกครั้งที่เดินทางไปประเทศไทย
“ถ้าขาดอะไรก็บอกอันนาได้นะคะ เดือนขอตัวก่อนค่ะ” เดือนนภาบอกหลังจากที่เมดสาวสองคนจัดของบนโต๊ะเสร็จ
“ขอบคุณมากๆ ครับคุณเดือน” คาเรนเทียบอกพร้อมกับก้มลงเล็กน้อย เพื่อให้เกียรติแม่ครัวคนสนิทของมาดามแจสมิน
“ยินดีค่ะ” เดือนนภายิ้มก่อนจะเดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์
“เธอทำเมนูนี้ได้ไหม?” คาเรนเทียหันไปถามคนข้างๆ
“ได้ค่ะ” เมลิสสาพยักหน้ารับ ก่อนจะช่วยคริสเตียนโน่คีบเนื้อที่สไลซ์บางๆ ขึ้นย่างที่เตา
“งั้นถ้าคุณเดือนกลับไทยไปแล้ว เธอทำให้ฉันทานนะ” คนที่ติดใจในน้ำซุปเอ่ยอ้อนเสียงหวาน
“ค่ะ” เมลิสสายิ้มตอบ แล้วหันไปหยิบผักกับเห็ดใส่ลงไปในหม้อต้ม ที่กำลังเดือด
“แหม...คุยอะไรกันครับ?” คนที่กำลังย่างเนื้ออย่างเมามันหันมาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“พระเจ้า! ฉันขอชิ้นนั้น” คาเรนเทียไม่ตอบ แต่หันไปหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อย่างที่กำลังสุกได้ที่ มาจิ้มซอส แล้วลิ้มลองรสชาติอย่างอดใจ ไม่ไหว “อื้ม! เห็นพวก R&R ทานกันบ่อยๆ เพิ่งจะรู้ว่ามันฟินแบบนี้นี่เอง”
“คิกๆๆ” เมลิสสาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าเคลิบเคลิ้มของพ่อเทพบุตรสุดหล่อ
“ผมรักอาหารไทยสุดๆ” คริสเตียนโน่บอกพลางคีบเนื้อย่างวางลงในจานให้กับญาติผู้พี่อย่างเอาใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)