“เอ่อ...ฉะ...ฉันจะพาไตรตั้นออกไปเดินเล่น” คาเรนเทียพยักหน้าให้ลูกชายตัวโปรด แล้วรีบเดินตรงไปที่ประตูหน้าอย่างรวดเร็ว
“ค่ะ” เมลิสสาขานรับเบาๆ พร้อมกับมองตามอย่างรู้สึกไม่สบายใจ
สองชั่วโมงต่อมา...
เมลิสสานั่งรอพ่อเทพบุตรสุดหล่อที่หายไปนานจนรู้สึกเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับอีกฝ่าย เธออยากจะไปตามหา ก็กลัวจะหลงป่า จึงได้แต่รออย่างกระสับกระส่าย กระทั่งมีรถแล่นเข้ามาจอดที่ด้านหน้ากระท่อม และเห็นอันนากับไมย่าหิ้วของต่างๆ ลงจากรถพร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสองคน
“สะ...สวัสดีค่ะคุณมิรา คือว่าท่านให้ดิฉันกับไมย่ามาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ” อันนาบอกพลางส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้
“เอ่อ...แล้วท่านไปไหนเหรอคะ?” เมลิสสาขมวดคิ้วถามอย่างเต็มไปด้วยความสงสัย
“ท่านนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่คฤหาสน์ค่ะ / ท่านมีธุระด่วนน่ะค่ะ” ไมย่าและอันนาตอบพร้อมกัน แต่คนละความหมาย
“ ? ” เมลิสสามองหน้าทั้งสองอย่างเต็มไปด้วยคำถาม
“ไมย่า! ท่านมีธุระด่วนต่างหาก” อันนารีบส่งสายตาเตือนไปยังหลานสาวที่ดันซื่อจนเซ่อ ดูไม่ออกว่าหนุ่ม-สาวกำลังงอนกันอยู่
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ หนูขอตัวไปเก็บของก่อนนะคะ” เมดสาวรีบหิ้วถุงกระดาษใบใหญ่หายเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว
“กะ...เกิดอะไรขึ้นเหรอคะอันนา ทำไมท่านต้องดื่มเหล้า แถมกลับไปที่คฤหาสน์โดยไม่บอกมิราสักคำ” คนที่เป็นห่วงและคิดไปต่างๆ นานา กลัวว่าคาเรนเทียจะถูกงูกัดหรือไม่ก็เป็นลมในป่า แต่ที่ไหนได้! อีกฝ่ายกลับทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่ แล้วชิ่งหนีไปนั่งดื่มอยู่ที่คฤหาสน์ซะงั้น
“คะ...คือว่า...”
อันนาอึกอักอย่างไม่รู้จะแถต่อไปทางไหน เพราะไมย่าดันพูดความจริงออกไป และหญิงสาวตรงหน้าก็ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าเธอกำลังปิดบังบางอย่างอยู่
“ได้โปรดเถอะค่ะ” เมลิสสาอ้อนวอน
“คือ...ท่านเดินกลับไปที่คฤหาสน์พร้อมกับไตรตั้น แล้วบอกให้ดิฉันกับไมย่ามาหาคุณมิราที่นี่ค่ะ” อันนาจำต้องเล่าเหตุการณ์ให้ฟังอย่างเลี่ยงไม่ได้
“พระเจ้า!” เมลิสสายกมือขึ้นทาบหน้าอกอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคาเรนเทียจะเดินเท้ากลับไปที่คฤหาสน์ที่อยู่ห่างไปเกือบสามพันเมตร
“ตอนแรกดิฉันตกใจมาก นึกว่ารถท่านเกิดเสียกลางทาง”
“ละ...แล้วท่านดื่มเหล้าจริงเหรอคะ” เมลิสสาถามเข้าเรื่อง
“ค่ะ! ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรรบกวนจิตใจหรือเปล่า เห็นท่านซึมๆ แล้วก็เหม่อลอยแปลกๆ เอ่อ...ไม่ทราบว่าก่อนท่านออกไปได้ทะเลาะกับคุณมิราหรือเปล่าคะ” อันนาถามกลับอย่างอยากรู้
“มะ...ไม่ได้ทะเลาะค่ะ ท่านบอกว่าจะพาไตรตั้นไปเดินเล่นข้างนอก หนูทำเบอร์เกอร์รอตั้งนาน ก็ไม่เห็นท่านกลับมาสักที” เมลิสสาบอกด้วยสีหน้าเศร้าๆ พลางนึกไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่อีกฝ่ายจะออกไป ‘พระเจ้า! นี่เขาโกรธที่เธอไม่ตอบคำถามนั่นหรือเปล่านะ?’
“คะ...คุณมิราไม่ต้องคิดมากนะคะ ปล่อยให้ท่านได้มีเวลาคิดอะไรหน่อย อีกเดี๋ยวก็คงจะดีขึ้น อ้อ! ที่สำคัญคือมีไตรตั้นจอมดื้ออยู่ด้วยหายห่วงค่ะ” อันนารีบปลอบ ไม่อยากให้สาวตรงหน้าเป็นกังวล
“ค่ะ” เมลิสสาพยักหน้ารับเบาๆ
“ได้ข่าวว่าคุณมิราทำปลาแซลมอนรมควันเอาไว้ใช่ไหมคะ” อันนารีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“ใช่ค่ะ คุณอันนาไปลองชิมดูไหมคะ” เมลิสสาเอ่ยถามยิ้มๆ
“ค่ะ” อันนารีบเดินตามเข้าไปด้านในครัว
Barlensent Villa...
ด้านคนที่ตั้งคำถามเอง แต่ไม่อาจจะทนฟังคำตอบได้ จึงพาสุนัขคู่ใจออกมาเดินเล่นตามทาง ขณะที่สมองคิดเรื่องนั้นผสมเรื่องนี้ จับโยงกันไปมา จนก่อเกิดเป็นความน้อยอกน้อยใจ ที่แม้ว่าจะทำดีแค่ไหน ก็ไม่ทำให้สาวเจ้าอยากจะอยู่ด้วย
ช่วงเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาไม่เคยเบื่อหน่ายหรืออยากจะอยู่ห่างจากเธอแม้แต่เสี้ยววินาที เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นโรคจิต ชอบแอบหอมแก้มตอนที่เธอหลับ แล้วบอกกับตัวเองว่า...พระเจ้าสร้างเธอมาเพื่อเขา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเติมเต็มความรู้สึกของเขาได้แบบเธอมาก่อน แต่ทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้ หากว่าเธอรู้สึกแบบเดียวกัน
คนที่กำลังเสียใจ ผิดหวัง นั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองได้เพียงครู่ก็มีสายเรียกเข้าจากบิดาดังขึ้น จึงกดรับพร้อมกับส่ายหัวไปมานิดๆ เพื่อตั้งสติ
[สวัสดีครับพ่อ]
[พระเจ้า! กว่าจะติดต่อลูกได้] ปลายสายบอกด้วยน้ำเสียงดีใจ เพราะติดต่อมาหลายครั้ง แต่บุตรชายก็ไม่ยอมรับสายสักที
[ขอโทษครับ พอดีว่างานมันยุ่งนิดหน่อย คิดว่าเย็นๆ จะโทรหาพ่อ]
[งานยุ่งจริงเหรอ? ลูกไม่เข้าบริษัทมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ แถมยังโกหกใครๆ ว่าไปอังกฤษอีก]
[โอเค! คือผมชอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ครับ] คาเรนเทียสารภาพตามตรง
[ชอบมากขนาดไหน?]
[ก็มากจนไม่รู้ว่า...ถ้าขาดเธอไปแล้ว ผมจะอยู่ยังไง]
[พระเจ้า! พ่อเคยรู้สึกแบบนี้ตอนที่ขอแม่ของลูกแต่งงาน] วินเซ่นบอกอย่างดีใจ เพราะเขาเฝ้าภาวนาให้มีใครสักคนมาเติมเต็มและอยู่เคียงข้างบุตรชายมานาน
[จริงเหรอครับ] คาเรนเทียถามก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมด
[จริงสิ! ตอนนี้พ่อก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่นะ เพียงแต่แม่ของลูกคงจะไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันแล้ว] วินเซ่นบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ แม้เวลาจะผ่านมาร่วมสิบปี ตนก็ยังคงรักและคิดถึงอดีตภรรยาอยู่เฉกเช่นวันแรกที่ได้เจอ
[...] คาเรนเทียน้ำตาคลอ รับรู้ความรู้สึกของบิดาได้ดี
[คาเรน! ลูกโอเคไหม?] วินเซ่นถามเมื่ออยู่ๆ บุตรชายก็เงียบไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)