ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์) นิยาย บท 27

[ฮึก...ผมเมา...ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา ขอโทษครับแม่] คนที่ลึกๆ ก็โหยหาคำว่าครอบครัว กดวางสายแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ ตลอดเวลาเขาเสแสร้งว่าโตพอที่จะรับเรื่องการแยกทางของพ่อกับแม่ได้ แต่ทุกครั้งที่อยู่คนเดียว ความเหงาและความโดดเดี่ยวมันก็หวนกลับมาเล่นงานจนต้องออกไปหาหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างมาเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหาย กระทั่งได้มาเจอกับเมลิสสา เธอทำให้เขามั่นใจและพร้อมจะหยุดทุกๆ อย่างเอาไว้ที่เธอ แต่ขณะเดียวกันเขารู้สึกกลัวว่าชีวิตของตัวเองจะเดินซ้ำรอยของบิดากับมารดาเข้า

วันต่อมา...เวลา 10:47 น. แอนดรูต้องรีบตามขึ้นไปปลุกผู้เป็นนาย เพราะใกล้จะได้เวลานัดเซ็นสัญญากับทางฮอลลี กรุ๊ป

คาเรนเทียที่ดื่มหนักจนเมาแล้วหลับไป ลืมตาขึ้นมองคนสนิทอย่างมึนๆ งงๆ พยายามตั้งสติครู่หนึ่งก่อนจะรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

แอนดรูมองตามพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ ‘เฮ้อ...สงสัยจะงอนคุณมิราอีกแล้วแน่ๆ’

ด้านเมลิสสาก็กำลังสนุกกับการทำอาหารและการทำแยมผลไม้ตระกูลเบอร์รี ที่ไปช่วยกันเก็บมาเพิ่มเมื่อช่วงเช้า โดยหลงลืมเรื่องของ คาเรนเทียไปชั่วขณะ เพราะสองสาวต่างพากันชวนคุยนู่นนั่นนี่ไปไม่ขาดสาย ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายแล้วก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

คาเรนเทียเดินทางไปเซ็นสัญญาและทานมื้อเที่ยงกับเดซีที่ห้องอาหารในโรงแรมหรูที่อีกฝ่ายไปนั่งสั่งอาหารรอ

พอเซ็นสัญญาเสร็จก็เดินทางไปดูการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่โรงงานของตนกับคนสนิท กระทั่งเวลาผ่านเลยมาจนถึงหนึ่งทุ่ม คนที่ตั้งปณิธานกับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่สนใจสาวเจ้าอีกต่อไป แต่วันนี้ทั้งวันกลับเอาแต่คิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มแทบจะทุกๆ ลมหายใจเข้าออก ทำให้เขาทนต่อไปไม่ไหว รีบล้วงมือถือมาเตรียมจะกดต่อสายไปสอบถามกับอันนา แต่ก็ดันไปเห็นข้อความของญาติผู้น้องที่ส่งมาทางไลน์นับสิบข้อความ พอกดเปิดอ่าน ก็เห็นรูปของเมลิสสาที่กระท่อมกลางป่า กำลังนั่งทานอาหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทำเอาคาเรนเทียโกรธจนหน้าแดงก่ำ รีบขับรถตรงดิ่งไปที่กระท่อมทันที

20:47 น. กระท่อมกลางป่า

ขณะที่เมลิสสา อันนาและไมย่ากำลังนั่งดูรายการแข่งทำอาหารกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด ทำให้สามสาวพากันหันไปมอง ก็เห็นคาเรนเทีย ก้าวลงจากรถ และเดินตรงเข้ามาเมลิสสาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“ไอ้คริสมันอยู่ไหน?”

“คะ...คุณคริส กะ...กลับไปแล้วค่ะ” อันนาบอกเสียงสั่น

“มันรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่” คาเรนเทียถามเสียงดังลั่นพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามด้วยดวงตาแดงก่ำ

“คะ...คือคุณคริสมาตกปลาแล้วเห็นอันนากับคุณมิรากำลังเก็บของป่าอยู่ ก็เลยข้ามลำธารมาหา แล้ว...เอ่อ...อยู่ทานมื้อค่ำด้วยค่ะ” อันนาตอบแทนอีกครั้งอย่างใจคอไม่ดี

“เธอนัดมันมาใช่ไหม” คาเรนเทียไม่สนใจคำตอบของคนสนิท แต่หันไปเล่นงานคนที่เอาแต่เงียบต่อ

“คะ...คุณพูดอะไร” เมลิสสาเอ่ยถามทั้งน้ำตา ไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้เขาคิดว่าเธอจะทำแบบนั้น

“อย่ามาตีหน้าซื่อนะมิรา” คาเรนเทียต่อว่าด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

“เอ่อ...ทะ...ท่านค่ะ ใจเย็นก่อนคะ” ไมย่ากลั้นใจเอ่ยห้ามปรามผู้เป็นนายที่กำลังเข้าใจผิด

“กลับไป! พวกเธอสองคนกลับไปที่คฤหาสน์เดี๋ยวนี้” คาเรนเทียหันไปไล่คนสนิทที่พยายามจะปกป้องหญิงสาว

“ตะ...แต่ว่า...” ไมย่าน้ำตาคลอขึ้นมาทันใด

“ออกไป!” คาเรนเทียหันไปตวาดเสียงดัง ทำเอาอันนากับไมย่า ถึงกับตกใจ รีบวิ่งตรงไปยังประตูทางออกอย่างรวดเร็ว

“อ๊ะ...จะ...จะทำอะไรหนู” เมลิสสานิ่วหน้าอย่างรู้สึกเจ็บ เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็บีบข้อมือของเธอ แล้วดึงลากให้เดินตามไปที่บันได

“จะทำให้เธอหายร่านไง ฉันไม่อยู่แค่คืนเดียว ถึงกับแอบนัดผู้ชายมาหาเลยเหรอ” คนที่รักและหวงอย่างที่ไม่เคยจะหึงหวงในตัวสาวคนไหนมาก่อนบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ

“ไม่ใช่! นะ...หนูไม่ได้ทำแบบนั้น ปะ...ปล่อยนะ” เมลิสสาพยายาม จะอธิบาย แต่คนตรงหน้าก็ไม่รับฟังเหตุผลใดๆ

คาเรนเทียไม่ตอบ! แต่เข้าไปลากหญิงสาวขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นห้องนอนใหญ่ แล้วจัดการสำเร็จโทษด้วยบทรักที่เร่าร้อน ดุดันและดิบเถื่อน

เมลิสสากรีดร้องและดิ้นหนีอย่างหวาดกลัว แต่ก็ไม่อาจจะต้านทานแรงของอีกฝ่าย น้ำตาแห่งความน้อยใจ เสียใจ ไหลอาบแก้มทุกๆ ครั้งที่เขาถาโถมตัวเข้าใส่

เช้าวันต่อมา...เวลา 05:42 น.

คาเรนเทียตื่นขึ้นในตอนเช้ามืด อย่างเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นแผ่นหลังบางเต็มไปด้วยรอยช้ำเป็นจ้ำๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการดูดของเขาเมื่อคืน ความละอายใจและความรู้สึกผิดแล่นเข้ามากระแทกตรงกลางแสกหน้า เมื่อเสียงร้องไห้และเสียงกรีดร้องสาวเจ้ายังคงดังกึกก้องในหัว

คนที่เผลอทำตัวป่าเถื่อน ถอนหายใจ ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมาใส่ แล้วรีบเดินออกจากห้องลงไปยังด้านล่าง จากนั้นก็ขับรถกลับไปที่คฤหาสน์ บอกให้อันนาและไมย่าไปอยู่เป็นเพื่อนแม่กระต่ายน้อย โดยตนรีบออกไปทำงานที่บริษัทแต่เช้า เพราะไม่อาจจะอยู่สู้หน้าของสาวเจ้าได้

กระท่อมกลางป่า...

“คุณคริสมาที่นี่ค่ะ แค่แวะมาเอาของแล้วก็ไป คุณมิรานั่งทานข้าวกับไมย่าข้างในนี้ เธอไม่รู้เรื่องค่ะท่าน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณคริสมา” คนที่รู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างรีบบอก

“เธอแอบดูต้นทางให้ไอ้คริสมันใช่ไหมอันนา” คาเรนเทียหันมา เล่นงานแม่บ้านคนสนิทด้วยสายตาขุ่นเคือง

“ดิฉันพูดความจริงค่ะท่าน” อันนาส่ายหน้าปฏิเสธทั้งน้ำตา

“ใช่ค่ะ! หนูโทรไปนัดคุณคริสมาทานข้าวด้วย” เมลิสสากัดฟันบอกอย่างรู้สึกสงสารสองสาวที่พยายามจะปกป้องเธอ

“คะ...คุณมิรา” อันนาตาโตไม่คิดว่าหญิงสาวตรงหน้าจะใจกล้าท้าทายผู้เป็นนายที่กำลังโกรธ

“คนเขาไม่เชื่อ ต่อให้เราพูดอะไรออกไปเขาก็ไม่เชื่อ ฉะนั้นบอกในสิ่งที่เขาอยากจะได้ยินไปเลยค่ะ จะได้จบๆ ไป” เมลิสสาเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่กลัว มันคงไม่มีอะไรจะเลวร้ายกว่าสิ่งที่เธอเจอมาเมื่อคืนอีกแล้ว

“เธออยากลองดีใช่ไหม!” คาเรนเทียถามกลับเสียงดัง

“ทะ...ท่านค่ะ” อันนารีบเข้าไปห้าม

“กลับไปที่คฤหาสน์” คนที่กำลังถูกไฟแห่งความหึงหวงแผดเผา หันไปชี้นิ้วไล่แม่บ้านคนสนิททันที

“อะ...เอ่อ...” อันนาอึกอักอย่างไม่รู้จะทำยังไง อยากช่วยเมลิสสาก็อยาก แต่ก็เกรงกลัวผู้เป็นนายอย่างจับใจเช่นกัน

“ทั้งสองคน!” คาเรนเทียสั่งการอีกครั้งเมื่อเห็นทั้งสองยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

“ค่ะๆ” อันนาและไมย่าจำต้องรีบเดินไปที่ประตูอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่หวังว่าผู้เป็นนายจะไม่ทำรุนแรงกับสาวเจ้า

“ฮึก...อ๊ะ! ปล่อยหนูนะ ปล่อย!” เมลิสสาพยายามสะบัดแขนของอีกฝ่าย แต่กลับถูกบีบแรงขึ้นกว่าเดิม

“วันนี้เธอจะโดนหนักกว่าเมื่อคืน” คาเรนเทียคาดโทษก่อนจะลากคนปากดีขึ้นไปยังห้องนอน แล้วจัดการระบายอารมณ์ขุ่นมัวในหัวใจกับเรือนร่างบอบบางไปหลายต่อหลายครั้งโดยไร้ซึ่งความอ่อนโยนใดๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)