[ฮึก...ผมเมา...ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา ขอโทษครับแม่] คนที่ลึกๆ ก็โหยหาคำว่าครอบครัว กดวางสายแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ ตลอดเวลาเขาเสแสร้งว่าโตพอที่จะรับเรื่องการแยกทางของพ่อกับแม่ได้ แต่ทุกครั้งที่อยู่คนเดียว ความเหงาและความโดดเดี่ยวมันก็หวนกลับมาเล่นงานจนต้องออกไปหาหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างมาเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหาย กระทั่งได้มาเจอกับเมลิสสา เธอทำให้เขามั่นใจและพร้อมจะหยุดทุกๆ อย่างเอาไว้ที่เธอ แต่ขณะเดียวกันเขารู้สึกกลัวว่าชีวิตของตัวเองจะเดินซ้ำรอยของบิดากับมารดาเข้า
วันต่อมา...เวลา 10:47 น. แอนดรูต้องรีบตามขึ้นไปปลุกผู้เป็นนาย เพราะใกล้จะได้เวลานัดเซ็นสัญญากับทางฮอลลี กรุ๊ป
คาเรนเทียที่ดื่มหนักจนเมาแล้วหลับไป ลืมตาขึ้นมองคนสนิทอย่างมึนๆ งงๆ พยายามตั้งสติครู่หนึ่งก่อนจะรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
แอนดรูมองตามพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ ‘เฮ้อ...สงสัยจะงอนคุณมิราอีกแล้วแน่ๆ’
ด้านเมลิสสาก็กำลังสนุกกับการทำอาหารและการทำแยมผลไม้ตระกูลเบอร์รี ที่ไปช่วยกันเก็บมาเพิ่มเมื่อช่วงเช้า โดยหลงลืมเรื่องของ คาเรนเทียไปชั่วขณะ เพราะสองสาวต่างพากันชวนคุยนู่นนั่นนี่ไปไม่ขาดสาย ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายแล้วก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
คาเรนเทียเดินทางไปเซ็นสัญญาและทานมื้อเที่ยงกับเดซีที่ห้องอาหารในโรงแรมหรูที่อีกฝ่ายไปนั่งสั่งอาหารรอ
พอเซ็นสัญญาเสร็จก็เดินทางไปดูการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่โรงงานของตนกับคนสนิท กระทั่งเวลาผ่านเลยมาจนถึงหนึ่งทุ่ม คนที่ตั้งปณิธานกับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่สนใจสาวเจ้าอีกต่อไป แต่วันนี้ทั้งวันกลับเอาแต่คิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มแทบจะทุกๆ ลมหายใจเข้าออก ทำให้เขาทนต่อไปไม่ไหว รีบล้วงมือถือมาเตรียมจะกดต่อสายไปสอบถามกับอันนา แต่ก็ดันไปเห็นข้อความของญาติผู้น้องที่ส่งมาทางไลน์นับสิบข้อความ พอกดเปิดอ่าน ก็เห็นรูปของเมลิสสาที่กระท่อมกลางป่า กำลังนั่งทานอาหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทำเอาคาเรนเทียโกรธจนหน้าแดงก่ำ รีบขับรถตรงดิ่งไปที่กระท่อมทันที
20:47 น. กระท่อมกลางป่า
ขณะที่เมลิสสา อันนาและไมย่ากำลังนั่งดูรายการแข่งทำอาหารกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด ทำให้สามสาวพากันหันไปมอง ก็เห็นคาเรนเทีย ก้าวลงจากรถ และเดินตรงเข้ามาเมลิสสาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“ไอ้คริสมันอยู่ไหน?”
“คะ...คุณคริส กะ...กลับไปแล้วค่ะ” อันนาบอกเสียงสั่น
“มันรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่” คาเรนเทียถามเสียงดังลั่นพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามด้วยดวงตาแดงก่ำ
“คะ...คือคุณคริสมาตกปลาแล้วเห็นอันนากับคุณมิรากำลังเก็บของป่าอยู่ ก็เลยข้ามลำธารมาหา แล้ว...เอ่อ...อยู่ทานมื้อค่ำด้วยค่ะ” อันนาตอบแทนอีกครั้งอย่างใจคอไม่ดี
“เธอนัดมันมาใช่ไหม” คาเรนเทียไม่สนใจคำตอบของคนสนิท แต่หันไปเล่นงานคนที่เอาแต่เงียบต่อ
“คะ...คุณพูดอะไร” เมลิสสาเอ่ยถามทั้งน้ำตา ไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้เขาคิดว่าเธอจะทำแบบนั้น
“อย่ามาตีหน้าซื่อนะมิรา” คาเรนเทียต่อว่าด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
“เอ่อ...ทะ...ท่านค่ะ ใจเย็นก่อนคะ” ไมย่ากลั้นใจเอ่ยห้ามปรามผู้เป็นนายที่กำลังเข้าใจผิด
“กลับไป! พวกเธอสองคนกลับไปที่คฤหาสน์เดี๋ยวนี้” คาเรนเทียหันไปไล่คนสนิทที่พยายามจะปกป้องหญิงสาว
“ตะ...แต่ว่า...” ไมย่าน้ำตาคลอขึ้นมาทันใด
“ออกไป!” คาเรนเทียหันไปตวาดเสียงดัง ทำเอาอันนากับไมย่า ถึงกับตกใจ รีบวิ่งตรงไปยังประตูทางออกอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ...จะ...จะทำอะไรหนู” เมลิสสานิ่วหน้าอย่างรู้สึกเจ็บ เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็บีบข้อมือของเธอ แล้วดึงลากให้เดินตามไปที่บันได
“จะทำให้เธอหายร่านไง ฉันไม่อยู่แค่คืนเดียว ถึงกับแอบนัดผู้ชายมาหาเลยเหรอ” คนที่รักและหวงอย่างที่ไม่เคยจะหึงหวงในตัวสาวคนไหนมาก่อนบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ
“ไม่ใช่! นะ...หนูไม่ได้ทำแบบนั้น ปะ...ปล่อยนะ” เมลิสสาพยายาม จะอธิบาย แต่คนตรงหน้าก็ไม่รับฟังเหตุผลใดๆ
คาเรนเทียไม่ตอบ! แต่เข้าไปลากหญิงสาวขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นห้องนอนใหญ่ แล้วจัดการสำเร็จโทษด้วยบทรักที่เร่าร้อน ดุดันและดิบเถื่อน
เมลิสสากรีดร้องและดิ้นหนีอย่างหวาดกลัว แต่ก็ไม่อาจจะต้านทานแรงของอีกฝ่าย น้ำตาแห่งความน้อยใจ เสียใจ ไหลอาบแก้มทุกๆ ครั้งที่เขาถาโถมตัวเข้าใส่
เช้าวันต่อมา...เวลา 05:42 น.
คาเรนเทียตื่นขึ้นในตอนเช้ามืด อย่างเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นแผ่นหลังบางเต็มไปด้วยรอยช้ำเป็นจ้ำๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการดูดของเขาเมื่อคืน ความละอายใจและความรู้สึกผิดแล่นเข้ามากระแทกตรงกลางแสกหน้า เมื่อเสียงร้องไห้และเสียงกรีดร้องสาวเจ้ายังคงดังกึกก้องในหัว
คนที่เผลอทำตัวป่าเถื่อน ถอนหายใจ ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมาใส่ แล้วรีบเดินออกจากห้องลงไปยังด้านล่าง จากนั้นก็ขับรถกลับไปที่คฤหาสน์ บอกให้อันนาและไมย่าไปอยู่เป็นเพื่อนแม่กระต่ายน้อย โดยตนรีบออกไปทำงานที่บริษัทแต่เช้า เพราะไม่อาจจะอยู่สู้หน้าของสาวเจ้าได้
กระท่อมกลางป่า...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)