วันต่อมา...PD กาสิโน เวลา 09:45 น.
เมลิสสาเดินทางไปทำงานตามปกติ หลังจากที่โทร. ไปรายงานตัวกับผู้จัดการและเชฟใหญ่มาเมื่อคืน
“ไงเมดูซ่า” เดเมียนเอ่ยทักทายพนักงานสาวคนสวยด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะคุณเดเมียน สบายดีไหมคะ” เมลิสสายิ้มตอบผู้จัดการอย่างอายๆ
“สบายดีครับ”
“เอ่อ...ขะ...ขอตัวไปเตรียมของก่อนนะคะ” เมลิสสาเหลือบไปมองนาฬิกาก่อนจะเอ่ยขอตัว
“เชิญครับ!” คนที่รู้อยู่เต็มอกว่าสาวตรงหน้าไม่ได้กลับไปเที่ยวไทย แต่จำต้องเล่นไปตามบทที่คาเรนเทียกำชับมา เพราะไม่อยากทำให้เมลิสสารู้สึกอึดอัดตอนทำงาน แถมยังต้องปิดเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองเอาไว้เป็นความลับไม่ให้ใครล่วงรู้ แม้แต่เจ้าของกาสิโนอย่างแพททริกสันและแดเนียล
คฤหาสน์ เกรซ...เวลา 10:20 น.
“คาเรน! คริส!” เอลลีสะกิดเรียกบุตรชายที่นอนอยู่บนเตียง กับหลายชายที่นอนอยู่ข้างเตียงอย่างรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ เพราะเมื่อคืนทั้งสองหนุ่มหิ้วปีกกันมาในสภาพที่เมาเละ แถมยังเปิดประตูรถสปอร์ตทิ้งไว้โดยที่ข้างมีชุดเครื่องเพชรตกกระจัดกระจายถึงสิบกล่อง ทำเอาเธอลมแทบจับเสียให้ได้
“อื้อ...” คาเรนเทียครางอย่างรู้สึกขัดใจที่โดนเขย่าตัวไปมาแรงๆ จึงลืมตาขึ้นมามองว่าใครบังอาจมารบกวนการนอนของตน
“ตื่นเดี๋ยวนี้นะ!” เอลลีบอกเสียงดังอย่างหงุดหงิด
“โอ้พระเจ้า...ผมมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับแม่?”
“ถามได้ ก็เมามาน่ะสิ” เอลลีส่งค้อนวงใหญ่ไปให้บุตรชายที่ร้อยวันพันปีจะโผล่หน้ามาให้เธอเห็นแค่สิบ-ยี่สิบนาที
“ผมอยากได้กาแฟร้อนๆ สักแก้ว” คาเรนเทียบอกพร้อมกับคลึงที่ขมับวนไปมาเบาๆ
เอลลีกลอกตาก่อนจะหันไปสะกิดเรียกคนที่นอนอยู่ข้างเตียงให้ตื่น “คริส! คริส! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ”
“นะ...น้าเอลลี” คริสเตียนโน่สะบัดหัวสาม-สี่ครั้งอย่างรู้สึกมึนๆ
“ให้ตายสิ! นี่นายมากับฉันเหรอคริส?” คาเรนเทียกระพริบตามองญาติผู้น้องที่ขยับตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“แหม...ก็ผมนี่แหละที่ขับรถพาพี่มาที่นี่เมื่อคืน” คริสเตียนโน่ถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ ‘บ้าจริง! นี่พี่คาเรนจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลยเหรอวะ?’
“ละ...แล้วทำไมไม่พาไปที่วิลล่าของฉันล่ะ” คาเรนเทียถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ เพราะเรื่องที่คุยกับมารดาครั้งสุดท้ายนั้น ทำให้ตนเข้าหน้าไม่ถูก
“ไปแล้ว! แต่ว่าไม่รู้รหัสเข้าก็เลยพามาที่นี่ครับ” คริสเตียนโน่บอกอย่างรู้สึกเซ็งนิดๆ เมื่อคืน...หลังจากที่ดื่มกันตั้งแต่บ่ายนิดๆ ยันสองทุ่มเขาก็เข้าไปนอนหลับในห้องนอนวีไอพี พอตื่นมาตอนเที่ยงคืนก็พบว่าญาติผู้พี่เมาหนักจนแทบจะยืนไม่อยู่ เขาจึงอาสาขับรถไปส่งที่วิลล่าด้านหลัง PDC กาสิโน ซึ่งระหว่างทางอีกฝ่ายเอาแต่พร่ำบอก...
‘ไปส่งฉันที่ห้องของมิรา! ฉันจะไปหามิรา! ได้ยินไหมว่าฉันจะไปหา มิรา บลาๆๆ’ แต่ทว่า...กลับจำทางไปหอพักของเมลิสสาไม่ได้ แถมยังหลอกให้เขาขับรถวนไปวกมาเป็นชั่วโมง จึงตัดสินใจพากลับมานอนที่คฤหาสน์เกรซ เพราะน้ำมันรถใกล้จะหมด
“ลุกเลย! ทั้งสองคน ไปอาบน้ำแล้วลงไปทานข้าวที่ข้างล่าง” เอลลีสั่งการด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ครับ” คริสเตียนโน่ขานรับก่อนจะเดินออกไปยังห้องนอนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเคยมาพักอยู่บ่อยๆ
“เดี๋ยว! แล้วชุดเครื่องเพชรที่อยู่ในรถของใคร?” เอลลีรีบดึงแขนของลูกชายที่กำลังจะเดินไปห้องน้ำเอาไว้
“เอ่อ...ของผมครับ” คาเรนเทียบอกยิ้มๆ
“มีสิบชุดพอดี ใช่อย่างที่แม่คิดไหม?” เอลลีเลิกคิ้วถาม
“ใช่ครับ! เธอไม่เอา ผมฝากแม่เอาไว้ก่อนแล้วกัน” คาเรนเทียบอกก่อนจะรีบเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะยังไม่อยากจะถูกมารดาซักไซ้เรื่องของเมลิสสาในตอนนี้
ชั่วโมงต่อมา...
คาเรนเทียรีบเดินลงบันไดมาพร้อมกับคริสเตียนโน่ด้วยสีหน้าตื่นๆ เพราะนัดเซ็นสัญญาที่ PDC กาสิโนเอาไว้ตอน 11 โมง และนี่ก็เลยเวลานัดมาแล้ว
“อ้าว! มากันพอดี แม่กำลังจะให้คนขึ้นไปตาม” เอลลีที่นั่งตรงหัวโต๊ะในห้องทานอาหาร รีบเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบุตรชายและหลานชายทางฝั่งของอดีตสามีกำลังจะเดินออกไปที่ประตูด้านหน้าคฤหาสน์
คนที่กำลังรีบหยุดชะงักก่อนจะหันไปบอกด้วยสีหน้าเจื่อนๆ “แม่ครับผมต้องรีบไปแล้วพอดีมีนัดเซ็น...”
“แค่ทานข้าวกับแม่สักมื้อมันฝืนใจมากเลยเหรอคาเรน” เอลลีถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“มะ...ไม่ใช่ครับแม่ ผมมีนัดเซ็นสัญญาที่ PDC กาสิโนจริงๆ” คาเรนเทียบอกเสียงอ่อนอย่างขอความเห็นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)