ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์) นิยาย บท 36

“ไม่จริง!” เพล์บอยตัวพ่อส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับข้อกล่าวหา

“จริงค่ะ! ตั้งสองหน้าหนังสือพิมพ์แน่ะ ว่างๆ คุณควรจะไปไล่ดูนะคะ เผื่อตกหล่นคนไหนไปจะได้แจ้งสื่อให้ลงเพิ่มไปในการตีพิมพ์ครั้งหน้า” เมลิสสาบอกก่อนจะเดินไปตักน้ำยาป่าที่ส่งกลิ่นหอมๆ ใส่ในชาม

“พักยกกินข้าวกันก่อนดีกว่า” คาเรนเทียขยับเก้าอี้เข้าไปนั่งตรงที่สาวเจ้าจัดจานเอาไว้ให้

“ดีค่ะ” เมลิสสายิ้มพร้อมกับยกน้ำยาป่าชามใหญ่วางลงบนโต๊ะ

“แต่ฉันยังไม่จบเรื่องไอ้หน้าจืดนั่นนะ” คาเรนเทียพูดก่อนจะลงมือรับประทานอาหารด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

“ค่ะ! หนูก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะถามคุณ” เมลิสสานั่งลงแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ยังมีอีกเหรอ?” คนที่นึกว่าโดนซักฟอกไปหมดแล้ว ถามกลับอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“มีค่ะ” เมลิสสาฉีกยิ้มหวานให้ ก่อนจะลงมือทานอาหารอย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางสายตานอยด์ๆ ของหนุ่มตรงหน้า ที่ขยันส่งมาเรียกร้องความสนใจทุกๆ สามวินาที จนทำให้เธอแทบจะสำลักเส้นขนมจีนอยู่ สอง-สามครั้ง

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จคาเรนเทียก็ทำข้อตกลงว่าจะปิดมือถือของตัวเองและสาวเจ้า จนกว่าจะครบหนึ่งอาทิตย์ เพื่อปิดกั้นการรบกวนจากบุคคลอื่นๆ เมลิสสาตอบตกลง เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะทะเลาะกับพ่อเทพบุตรสุดหื่นสักเท่าไหร่

เช้าวันต่อมา...พาดข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างพากันลงข่าวเจ้าพ่อคนดังแห่งมอสโก เหมาห้องเสื้อแบรนด์ดังยกร้านเอาใจสาวดังกระหึ่มไปทั่วทั้งอังกฤษ ทำให้ขาเมาท์ขาเผือกทั้งหลายต่างเสาะหารูปของสาวปริศนากันจ้าละหวั่น

เอลลีวางหนังสือพิมพ์ลงด้วยมือไม้สั่นๆ รีบกดมือถือต่อสายหาบุตรชาย แต่ทว่า...อีกฝ่ายกลับปิดเครื่อง เธอจึงหันไปบอกให้คนสนิทเตรียมตัวออกเดินทางไปยังห้องเสื้อดังกล่าว

หนึ่งชั่วโมงต่อมา...The Diamond R

เจบีมองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อเห็นเอลลีเดินเข้ามาข้างในร้านพร้อมด้วยคนติดตามอีกสองคน

“สะ...สวัสดีค่ะคุณเอลลี”

“สวัสดีจ้ะเจบี เธอคงจะรู้นะว่าวันนี้ฉันมาทำไม?” เอลลีเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงที่โซฟารับแขกตัวใหญ่ด้วยท่าทีดุจนางพญา

“คะ...ค่ะ” เจบีตอบเสียงสั่น

“งั้นก็เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เมื่อวานลูกชายฉันมาที่นี่ใช่หรือเปล่า?” เอลลีถามก่อนคลี่ยิ้มบางให้เจ้าของห้องเสื้อที่ดูจะเกร็งๆ

“ใช่ค่ะ มาพร้อมกับคุณมิรา” เจบีบอกพลางส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้

“เขาดีกันแล้วเหรอ? เอ่อ...ฉันหมายถึงพวกพูดคุยกันดีใช่ไหม”เอลลีถามเสียงอ่อนลง

“ค่ะ คุณคาเรนดูผ่อนคลาย ส่วนคุณมิราก็น่ารักค่ะ พูดน้อยออกไปทางขี้อายนิดๆ”

“คาเรนเหมาเกือบหมดร้านเลยเหรอ?” เอลลีถามพลางส่งสายตาไปมองรอบๆ ร้านก็เห็นพนักงานหลายคนกำลังช่วยจัดร้านกันจ้าละหวั่น

“ค่ะ ตอนแรกคุณคาเรนพาคุณมิราไปที่ร้านฝั่งตรงข้าม เห็นเข้าไปได้ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็พากันเดินออกมา คุณคาเรนมีสีหน้าตึงๆ คล้ายกับหงุดหงิดอะไรสักอย่าง ส่วนคุณมิราก็ทำหน้าเศร้าๆ เหมือนจะ...เอ่อ...ร้องไห้ค่ะ” คนที่รอโอกาสงามๆ รีบสปอยเหตุการณ์ของเมื่อวานอย่างไม่รอช้า

“หนูเห็นคุณเอมเบอร์เดินไปคุยอะไรกับคุณมิราไม่รู้ จากนั้นเธอก็หน้าเจื่อนไป อ้อ! คุณคาเรนซื้อชุดที่ร้านนั้นไปห้าชุดค่ะ แต่ไม่เอาออกมาด้วยแม้แต่ชุดเดียว เห็นว่ายกชุดที่รูดบัตรไปให้กับพนักงานในร้านค่ะ” โซอี้รีบเสริม

“จริงเหรอ?” เอลลีขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองที่ร้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิด

“จริงค่ะ! แต่เมื่อวานพนักงานของเจบีได้ทิปกันทุกคนนะคะ” เจบีแอบหวังว่าสิ่งที่เธอและลูกน้องบอกจะทำให้มารดาของหนุ่มคนดังสะกิดใจ ในการกระทำของเอมเบอร์

“ใช่ค่ะ คุณคาเรนบอกว่า...ขอบคุณที่ช่วยดูแลคนรักของผมเป็น อย่างดี” โซอี้บอกยิ้มๆ

“งั้นช่วยไปหาชุดที่คิดว่าเข้ากับฉัน มาให้ลองหน่อยสิหนู” เอลลีต่อว่าตัวเองในใจอย่างรู้สึกผิด ที่ไปเจ้ากี้เจ้าการพาสาวคนนั้นคนนี้มานำเสนอให้บุตรชายเลือก

“ได้ค่ะ” โซอี้ยิ้มรับก่อนจะเดินไปเลือกชุดมาให้อดีตนายหญิงแห่งบาร์เลนเซนต์ ซึ่งปัจจุบันยังเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของอังกฤษ เพราะตระกูลเกรซ เป็นตระกูลเก่าแก่ที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงค์แห่งยุคก่อน

“ดิฉันมีคลิปหนึ่งจะให้คุณเอลลีดูค่ะ แต่มีข้อแม้ว่า...มันจะเป็นความลับระหว่างเราสองคน ไม่เผยแพร่ไปสู่บุคคลอื่น” เจบียื่นของกำนัลให้ เพื่อหวังจะซื้อใจลูกค้าวีไอพีระยะยาว

“ฉันให้สัญญา” เอลลีบอกด้วยสายตาเป็นประกาย

“งั้นรบกวนขอไอดีไลน์ด้วยค่ะ” เจบีส่งยิ้มหวานให้

“นี่จ้ะ” เอลลีหยิบมือถือของอีกฝ่ายมากดไอดีไลน์ของตัวเองลงไปในเครื่อง พอเห็นรูปโปรไฟล์ของตัวเองแสดงขึ้นก็กดเพิ่มเพื่อนไปแล้วส่งมือถือคืน

“ขอบคุณค่ะ” เจบีรับมือถือก่อนจะกดส่งคลิปบรรยากาศของหนุ่มสาวเมื่อวานไปให้

เอลลีหยิบมือถือของตัวเองมากดเปิดคลิปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อเห็นบุตรชายหัวเราะกับมุกตลกร้ายของเจบี ก่อนนะลุกขึ้นปรบมือให้เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วย สีหน้าตื่นๆ ทำเอาคนเป็นแม่ที่หวงลูกชายนักหนาถึงกับน้ำตาคลอขึ้นมาทันใด ตลอดเวลาที่ผ่านมา คาเรนเทียควงแต่ดารา-นางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันเข้ามาแทบไม่ซ้ำ และนั่นทำให้เธอไม่ปลื้ม กลัวว่าบุตรชายจะคว้าผู้หญิงเหล่านี้มาเป็นคู่ครอง

แต่สาวน้อยที่เธอเห็นในตอนนี้! ดูใสซื่อซะจนทำให้เธอรู้สึกห่วง อีกฝ่ายมากกว่าจะห่วงบุตรชายของตัวเอง

“เธอน่ารักใช่ไหมคะ?”

“ใช่! ขอบใจมากๆ นะเจบี” เอลลียิ้มก่อนจะกดดาวน์โหลดคลิปเก็บไว้ในเครื่อง

“แล้วเจอกัน” คาเรนเทียโบกมือตอบก่อนจะกลั้นใจขับรถออกไปด้วยความเร็ว รู้สึกหงุดหงิดที่งานก็ต้องทำ ความรักก็ต้องการ แถมช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ผ่านไปรวดเร็วราวกับความฝัน เขาไม่อยากจะอยู่ห่างจากเธอ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะบังคับให้ทำนู่นนั่นนี่เหมือนที่ผ่านมาอีก จึงต้องยอมทิ้งระยะห่างเพื่อให้เธอและเขาได้คิด ก่อนจะตัดสินใจก้าวข้ามความสัมพันธ์แบบที่ไม่ต้องแยกจากกันอีก

วันต่อมา...

ไซม่อนรับคำสั่งจากคาเรนเทีย ให้ตามดูแลเมลิสสาอยู่ห่างๆ เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับสาวเจ้า

เมลิสสาเดินไปทำงานด้วยสีหน้าสดชื่น ก่อนจะทราบข่าวในเวลาต่อมาว่า...แทนไทถูกย้ายไปอยู่ทำงานกะกลางคืน ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอแอบโล่งใจนิดๆ ที่ไม่ต้องหลบหน้าอีกฝ่าย

แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเครียดเรื่องข่าวของเธอกับคาเรนเทียที่หลุดออกมา ถึงแม้จะไม่มีรูปและผ่านมาร่วมหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่พนักงานเสิร์ฟก็ยังคงเมาท์กันถึงสาวปริศนา ที่เดากันไปต่างๆ นานา ว่าน่าจะเป็นนางเอกคนนั้น นางแบบคนนี้ จนเธอเองอดรู้สึกขำไม่ได้

เวลา 20:07 น. หลังเลิกงาน เมลิสสาเดินออกมานั่งรอแมร์รี่ที่ทางออกด้านหลังเหมือนเช่นทุกครั้ง นั่งรอได้ไม่ถึงสองนาที ก็เห็นอีกฝ่ายเดินออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“มิรา! ไปช่วยงานโรงแรมมาเป็นไงบ้างจ้ะ” แมร์รี่เอ่ยถามก่อนจะส่งช็อกโกแล็ตที่เพื่อนหิ้วมาฝากจากฝรั่งเศสให้สาวน้อยที่ดูสดใสร่าเริงกว่าทุกครั้ง

“ขอบคุณค่ะคุณแมร์รี่ งานสนุกดีค่ะ” เมลิสสายิ้มก่อนจะส่ง เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ที่เชฟแอบทำให้เป็นพิเศษให้กับอีกฝ่าย

“ขอบใจมากจ้ะลิซ่า” แมร์รี่ฉีกยิ้มกว่าอย่างดีใจ เพราะหลายครั้งที่เด็กสาวมักจะเอาอาหารมาให้เธอ ไม่ใช่ของเหลือจากลูกค้า แต่เป็นของที่เชฟทำให้บ้าง เมนูใหม่ที่กำลังทดลองทำบ้าง เธอก็มักจะได้รับอาหารแทบจะทุกคืน เพราะเมลิสสาไม่ทานมื้อดึก และตอนเช้าก็จะทานแค่กาแฟแก้วเดียว ส่วนมื้อกลางวันก็ทานที่ทำงาน

“วันนี้เป็นเบอร์เกอร์เนื้อบดค่ะ หมักเนื้อด้วยสูตรใหม่ที่เชฟเพิ่งจะคิดค้นขึ้น หนูชอบมากๆ”

“กลับไปถึงห้องฉันจะรีบทานเลย คิกๆ” แมร์รี่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะบอกเรื่องสำคัญของเธอ “เอ่อ...เดือนหน้าฉันจะไปหาเพื่อนที่ไทยนะมิรา”

“ว้าว! หนูอยากไปด้วยจัง” เมลิสสาหันไปบอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“ไปไหมจ๊ะ? ฉันอยากให้เรามีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน” แมร์รี่เอ่ยชวน

“คือ...หนูเพิ่งจะ...เอ่อ...”

“งั้นปีหน้าไปด้วยกันนะ” แมร์รี่ตัดบทอย่างเข้าใจ

“ค่ะ” เมลิสสาขานรับยิ้มๆ

แมร์รี่เล่าถึงเพื่อนรักที่ชื่อเจสสิก้า ซึ่งมีบุตรบุญธรรมชื่อ ซอนบี เด็กสาวที่อายุน้อยกว่าเมลิสสา 3 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลี ที่พ่อกับแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่อายุสิบขวบ

เมลิสสาจ้องมองรูปสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มกับหญิงที่ชื่อเจสสิก้าที่แมร์รี่ส่งให้ดูก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะทั้งสองดูจะเข้ากันได้ดีสุดๆ แถมบรรยากาศที่รายล้อมด้วยธรรมชาติทำให้เธออยากจะไปเที่ยวด้วยกับแมร์รี่มาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)