“ผมเสียใจด้วยนะครับเรื่องเฮนรี่” คริสเตียนโน่บอกเสียงเศร้า หลังรู้จากมือขวาคนสนิทเมื่อครู่ว่าสุนัขตัวโปรดที่ซานโดรเลี้ยงมานานเกือบ 7 ปี ได้จากไปเมื่อเช้า
“ขอบใจมาก แต่ไม่ต้องบอกใครนะ พี่ไม่อยากให้คาเรนเครียดกว่าเดิม” อเลกซานโดรพยักหน้ารับเบาๆ รู้สึกจุกแน่นไปทั้งหน้าอก กับกฎของการแลกเปลี่ยน
“ครับ” คริสเตียนโน่ขานรับก่อนจะก้าวลงจากรถ แล้วตรงไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัว เพื่อจะเดินทางไปยังอังกฤษกับพี่ใหญ่ของฟีนิกซ์ หลังจากที่อยู่ช่วยผู้ใหญ่จัดการเรื่องงานต่างๆ จนลงตัว
วันต่อมา...Grace Vill แอนดรูกลับมาหาผู้เป็นนายที่คฤหาสน์ หลังจากที่ถูกส่งไปเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์ร็อฟเวลล์มาหลายวัน
“บอสครับ! บอส” แอนดรูเดินเข้าไปสะกิดผู้เป็นนายที่นอนหมิ่นเหม่จนแทบจะตกโซฟา
“อื้อ...แอนดรู ดะ...ได้ข่าวของมิราแล้วเหรอ?” คาเรนเทียถามพร้อมกับขยับลุกขึ้นนั่ง
“ยังครับ วันนี้แทนไทกลับไปพักรักษาตัวต่อที่บ้านแล้ว” แอนดรูรีบรายงานพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของผู้เป็นนายที่ซูบผอมลงไปถนัดหูถนัดตา จนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าระยะเวลาไม่กี่วัน จะสามารถทำให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนี้
“ส่งคนไปตามมันทุกฝีก้าว อ้อ! ดักฟังโทรศัพท์ของมันด้วย” คนที่ยังอยู่ในอาการมึนเมา บอกเสียงเข้ม
“ผมสั่งการแล้วครับ”
“ดี! งั้นไปช่วยสั่งแม่บ้านให้เอาเหล้ามาให้ฉันหน่อยสิ” คนที่ต้องหลบหนีความเจ็บปวดบอกพร้อมกับคลึงที่ขมับเบาๆ
“เอ่อ...ผมว่า...” แอนดรูพยายามจะเอ่ยท้วง
“ได้โปรด...” คาเรนเทียบอกเสียงอ่อน เมื่อเห็นคนสนิทกำลังจะ ดราม่า
“ทำตามที่คาเรนบอกแอนดรู” เชคาริกที่สะดุ้งตื่นรีบบอก เพราะการที่คาเรนเทียดื่มจนเมาแล้วหลับไป ยังดีกว่าการที่อีกฝ่ายเพ้อแล้วขับรถไปตามหาเมลิสสา
“ครับ” แอนดรูพยักหน้ารับก่อนจะจำใจลุกเดินไปสั่งแม่บ้านให้ยกเครื่องดื่มและกับแกล้มมาเสิร์ฟให้ผู้เป็นนาย
เวลา 10:02 น. หลังจากที่อเลกซานโดรและคริสเตียนโน่ลงจากเครื่องที่สนามบินเสร็จ ก็รีบตรงมายังคฤหาสน์เกรซทันที
ขณะที่สองหนุ่มกำลังจะเดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์ รถหรูของ แพททริกสันก็แล่นเข้ามาจอดพร้อมกับรถของแดเนียล
“ว้าว! นี่นายบินตรงจากไทยมาเพื่อฉันหรือว่า...” แพททริกสันก้าวออกมาจากรถ พร้อมกับเอ่ยถามเพื่อนรักที่ขับรถเข้ามาจอดเทียบใกล้ๆ ด้วยน้ำเสียงติดประชดนิดๆ
“ฉันมาเพื่อนาย และอยากจะเคลียร์ทุกอย่างให้จบในวันนี้” แดเนียล บอกก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับสองหนุ่มฟีนิกซ์ที่กำลังหันมามอง
“สวัสดีครับพี่แพททริก พี่แดเนียล” คริสเตียนโน่เอ่ยทักทาย
“สวัสดีคริส สวัสดีครับพี่ซานโดร” แดเนียลกับแพททริกสันส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้
“สวัสดี เชิญด้านในกันดีกว่า” อเลกซานโดรยิ้มก่อนจะผายมือเชิญสองหนุ่ม R&R ให้เดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์พร้อมกัน
แพททริกสันเดินตามหลังทุกคนไปเงียบๆ เรียบเรียงคำพูดมากมายเอาไว้ในใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกอึ้งที่เพื่อนรักเดินทางมาจากไทย เพื่อจะร่วมเคลียร์ปัญหาต่างๆ แต่พอเดินไปถึงห้องโถงใหญ่ก็เห็นคาเรนเทียนั่งหันหลังให้ โดยมีแอนดรู ไรอันต์และเชคาริกนั่งอยู่ด้วย
“ผู้หญิงนี่ไว้ใจไม่ได้นะครับพี่เชค ปากก็บอกว่ารักผมๆ แต่หนีไปไม่บอกไม่กล่าวสักคำ” คนที่ดื่มไปจนเมาเอ่ยประโยคเดิมซ้ำเป็นรอบที่สี่
“เอ่อ...” เชคาริกเหลือบมองหน้าของสองหนุ่มที่ร่วมชะตากรรมอย่างขอความเห็น
“คอยดูนะ ถ้าเจอตัวเมื่อไหร่ ผมจะตีให้ก้นช้ำเลยคอยดู” คาเรนเทียคาดโทษแม่กระต่ายน้อยต่อหน้าทุกคนอย่างลืมตัว แต่พอนึกขึ้นได้ก็เอ่ยแก้ในนาทีต่อมา
“คือ...ผมแค่พูดเล่นน่ะครับ หากเจอตัวมิราอีกครั้ง ผมจะกอดเธอเอาไว้แน่นๆ จะไม่ยอมให้คลาดสายตาไปแม้แต่วินาทีเดียว”
“คาเรน!” อเลกซานโดรเอ่ยเรียกคนที่กำลังออกอาการพร่ำเพ้อให้รู้ว่ากำลังมีแขกมาเยือน
“พี่ซานโดร คริส อ้าว! แพททริก แดเนียล ไปไงมาไงเนี่ย” คาเรนเทียจ้องทุกคนด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“คริสพาแพททริกกับแดเนียลเข้าไปนั่งก่อน” อเลกซานโดรบอกเมื่อเห็นสอง R&R ยืนใบ้แดกไปชั่วขณะ หลังจากได้เห็นใบหน้าที่มีหนวดเคราขึ้นเต็มของคาเรนเทีย
แดเนียลยกมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างดีใจ ที่เห็นเพื่อนรักยอมอ่อนให้กับคาเรนเทีย
หนึ่งปีต่อมา...คาเรนเทียถูกหามส่งโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง เพราะเอาแต่ดื่มเหล้าหนัก พร่ำเพ้อถึงแต่เมลิสสาจนเกิดอาการหลอน คลุ้มคลั่ง และวูบหมดสติไปหลายครั้ง จนกลายเป็นข่าวใหญ่โด่งดังข้ามปีที่สื่อต่างๆ พากันให้ความสนใจและเขียนถึงอาการดิ่งของเจ้าพ่อคนดังแห่งมอสโกอย่างต่อเนื่อง
เอลลียอมย้ายกลับมาอยู่ที่มอสโกพร้อมจับมือคืนดีกับอดีตสามี เพื่อจะช่วยกันประคับประคองให้บุตรชายที่ป่วยหนักถึงขั้นเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่ม (พิษสุราเรื้อรัง) ให้กลับมาดีเหมือนเดิมอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน แอนดรู ไชน่า ก็ช่วยกันดูแลงานที่บริษัทโดยรับคำสั่ง จากวินเซ่น ซึ่งกลับมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแทนบุตรชาย
ด้านทอมสันหลังจากที่ถูกดำเนินคดี และได้รับโทษติดคุกตลอดชีวิต ก็จบชีวิตของตัวเองลง หลังจากที่คำตัดสินของคดีเป็นที่สิ้นสุด
ส่วนเดซีก็ได้รับโทษจองจำถึง 20 ปี แต่หลังจากที่ทราบข่าวการเสียชีวิตของบิดาจากทนาย หญิงสาวก็จบชีวิตของตัวเองตามผู้เป็นบิดาไปในเวลาเช้าของอีกวัน
สามปีต่อมา...(เวลาปัจจุบัน)
หลังจากที่คาเรนเทียรักษาตัวอยู่เป็นเวลานาน ท่ามกลางความรักจากบิดามารดาและเหล่าพันธมิตรทั้ง R&R และ Kyler ซึ่งแวะเวียนมาหาอยู่ตลอด ก็ฟื้นตัวและกลับมาทำงานที่บริษัทอีกครั้ง แม้ว่าภายในใจลึกๆ จะไม่เคยลืม เมลิสสาได้แม้แต่วินาทีเดียว แต่เขาก็พยายามเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บปวด โดยยังคงเชื่อในคำบอกของอเลกซานโดร ที่ว่า...วันหนึ่งตนจะได้เจอกับ เมลิสสาอีกครั้ง
ด้านเอลลีก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับวินเซ่นที่คฤหาสน์บาร์เลนเซนต์อีกครั้งในฐานะสามีภรรยา เพื่อช่วยกันดูแลและเติมเต็มคำว่าครอบครัวให้กับบุตรชายที่เริ่มมีอาการดีขึ้น
ย้อนกลับไปในวันที่...เมลิสสาแอบหนีออกมาจากกระท่อมกลางป่า
เธอวิ่งลัดเลาะตามทางไปอยู่เกือบชั่วโมง จนกระทั่งเจอกับถนนที่ลาดยางและเห็นรถสปอร์ตหรูคันหนึ่งกำลังวิ่งผ่านมา จึงรีบขยับออกจากข้างทางแล้วโบกมือขอความช่วยเหลือ โชคดีที่คนขับเป็นหญิงวัยสี่สิบปลายๆ กำลังจะเดินทางไปอังกฤษโดยเครื่องบินส่วนตัว เธอจึงอ้อนวอนขอร่วมเดินทางไปพร้อมกับอีกฝ่าย
และทันทีที่ไปถึงอังกฤษก็รีบโทร.หาแมร์รี่ โชคดีที่อีกฝ่ายกำลังจะออกเดินทางด้วยเครื่องบินเหมาลำของโรคาซานเดอร์ จึงแอบกระซิบขอใช้เส้นสายพาเมลิสสาเดินทางกลับไทยไปด้วย โดยไม่ต้องใช้เอกสารแสดงตัวตน
เมลิสสาไปอยู่ที่เชียงรายกับเพื่อนของแมร์รี่ที่ชื่อเจสสิก้า และได้รู้จักกับ‘ซอนบี’ สาวน้อยลูกครึ่งไทย-เกาหลี วัย 18 ปี (เด็กสาวที่เจสสิก้ารับอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม)
เธอตัดขาดจากโลกภายนอก และปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารของคาเรนเทีย โดยไม่รู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตถือกำเนิดขึ้นในตัวเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)