หนูน้อยโรฮานมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างมึนงง
“คนอย่างฉันมันทำไม” คาเรนเทียรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่สาวตรงหน้าไม่ยอมให้สัมผัสตัว
“คุณเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดที่ฉันเคยเจอ ถ้าคุณพรากลูกไปจากฉัน หรือจับฉันกับลูกไปอยู่ด้วย ฉันจะตายให้คุณดู” เมลิสสารีบขู่
“พระเจ้า! ฉันสาบานว่าจะไม่ทำตัวป่าเถื่อนเหมือนเมื่อก่อนอีก” คาเรนเทียยกมือขึ้นสาบานด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
“ฮึก...ฉันไม่เชื่อ” เมลิสสารู้สึกเจ็บจี๊ดที่ได้ยินคำสาบานที่เขาเคยเอ่ยมันกับเธอ แต่ก็ไม่เคยทำได้ และตอนนี้ก็ยังเสนอหน้ามาให้คำสัญญา ทั้งๆ ที่มีภรรยาอยู่แล้ว
“ให้โอกาสฉันนะ ได้โปรด...” คาเรนเทียร้องขอโอกาสแก้ไขความผิดพลาด
“ขอล่ะ...ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ ฮือๆๆ ได้โปรด...” เมลิสสาร้องไห้จนสั่น ไม่เข้าใจว่าทำไมสวรรค์ถึงได้เล่นตลก พาผู้ชายคนสุดท้ายบนโลกที่เธออยากจะเจอ ให้ต้องกลับมาพบกันในวันนี้
“ตั้งแต่ที่เธอหนีไป ฉันไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนไหนอีก”คาเรนเทียเอื้อมมือไปแตะที่แก้มนวลอย่างโหยหา
“ก็ไปมีสิ ไปใช้ชีวิตเหมือนที่คุณเคยใช้ อย่ามายุ่งกับเรา” เมลิสสาปัดมือหนาออกด้วยท่าทีรังเกียจ
“ให้ตายสิ! ถ้ามันทำได้ ฉันคงทำไปนานแล้ว” คาเรนเทียสบถอย่างหัวเสีย กับปฏิกิริยาของสาวเจ้า
คลิก!
เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้คาเรนเทีย เมลิสสา แอนดรูและบอดี้การ์ดคนอื่นๆ หันไปมองพร้อมๆ กัน
เอลลีที่ได้ข่าวว่าบุตรชายมาที่โรงแรมร็อฟเวลล์ ก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะมาทานมื้อเที่ยง จึงรีบตามมาเพื่อจะชวนไปงานเลี้ยงวันเกิดของเอมเบอร์ ซึ่งเธอตั้งใจว่าจะจับคู่หญิงสาวให้กับบุตรชาย เพราะไม่อยากให้คาเรนเทียจมอยู่กับความเสียใจอีกต่อไป
แต่พอมาถึงก็ได้ทราบจากบอดี้การ์ดที่อยู่หน้าล็อบบีว่าบุตรชายมาตามหาหญิงสาวที่ชื่อเมลิสสา เธอตกใจมาก! จึงรีบตามขึ้นมาดู
พอเปิดประตูเข้าไป ก็ถึงกับช็อกจนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็ก ใบหน้าเปื้อนหยดน้ำตา โอบกอดเด็กชายตัวน้อยที่หน้าตาเหมือนกับบุตรชายของเธอตอนเป็นเด็กไม่มีผิด
“โอ้พระเจ้า!” เอลลีอุทานพร้อมกับยกมือขึ้นทาบที่หน้าอก
“เอ่อ...นี่ลูกกับเมียของผมครับแม่” คาเรนเทียเอ่ยแนะนำ แม้จะรู้สึกมึนงง ที่อยู่ๆ ผู้เป็นมารดาก็โผล่เข้ามาอย่างไม่ปี่มีขลุ่ย
“หนูอายุเท่าไหร่จ๊ะ?” เอลลีเอ่ยถามน้ำตาคลอ
“สามขวบคับ” โรฮานตอบเสียงเบา
เมลิสสากระชับอ้อมแขนกอดบุตรชายแน่นขึ้นกว่าเดิม กลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายพรากลูกไปจากเธอ
“สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อเอลลี เป็นแม่ของคาเรน ฉันขอกอดหนุ่มน้อยคนนี้หน่อยได้ไหม” เอลลีเอ่ยพร้อมกับส่งมือไปเตรียมจะรับหนุ่มน้อยที่มั่นใจว่าเป็นสายเลือดของบุตรชายอย่างแน่นอน แต่หญิงสาวกลับไม่ยอม
“มิรา...ได้โปรด...” คาเรนเทียขอความเห็นใจ เมื่อเห็นมารดาของตนทำท่าจะร้องไห้
“ขอฉันกอดหลานหน่อยนะหนู” เอลลีเอ่ยขอเสียงสั่น แต่หญิงสาวกลับพาเด็กขยับหนีอีกครั้ง
คาเรนเทียอาศัยจังหวะที่สาวเจ้าขยับตัว รีบสอดแขนเข้าไปอุ้ม เด็กหนุ่มแล้วส่งให้กับมารดา “ฝากดูลูกให้หน่อยนะครับแม่ ผมขอเคลียร์กับเมียก่อนแล้วจะรีบตามไป”
“ไม่นะ อย่าเอาฮานไป ปล่อยนะไอ้คนบ้า ปล่อยยยย” เมลิสสาต่อว่าและทุบตีอีกฝ่ายอย่างโมโห ที่บังอาจมาฉกลูกชายตัวน้อยไปต่อหน้าต่อตา
คาเรนเทียรีบคว้าเอวบางของสาวเจ้า แล้วพาเข้าไปคุยในห้องนอนใหญ่ พร้อมกับกดล็อกประตู
“มามี้” โรฮานมองตามมารดาอย่างรู้สึกเป็นห่วง
“หนูชื่ออะไรจ้ะ” เอลลีเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองหนุ่มน้อยอย่างรู้สึกหลงใหล
“ฮานคับ โรฮาน แอนดิสัน”
“ปล่อยให้พ่อกับแม่ของหนูปรับความเข้าใจกัน แล้วเราไปหาขนมกินกันดีไหม” เอลลีเอ่ยชวน
“ดีคับ” โรฮานขานรับยิ้มๆ
“โอ๊ย...น่ารักจัง” เอลลีก้มลงหอมที่แก้มของหนุ่มน้อยเบาๆ
โรฮานรีบหอมคืนเบาๆ จุ๊บ! จุ๊บ!
“พระเจ้า! ย่าจะยกสมบัติให้ฮานหมดเลยจ้ะลูก” เอลลีรู้สึกหลงรักหนุ่มน้อยตรงหน้าเข้าอย่างจัง
“ขอบคุณคร้าบ” โรฮานยิ้มตาหยีทั้งที่ไม่เข้าใจความหมาย
เอลลีรีบอุ้มทายาทตัวน้อยของบุตรชายเดินตรงไปที่ลิฟต์ ท่ามกลางการดูแลของคนติดตาม
ด้านเมลิสสาก็กรีดร้อง เมื่อถูกอีกฝ่ายอุ้มเข้าไปในห้องนอน แล้วแกล้งพาเธอล้มลงบนเตียงขนาดคิงไซซ์ โดยที่มือทั้งสองข้างของเขาขยับมากอบกุมหน้าอกทั้งสองข้างของเธอ
“ฮือๆๆ ปล่อยนะไอ้คนบ้า ปล่อยยยย”
“เฮๆ ฉันไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย” คาเรนเทียบอกพร้อมกับรีบยกมือชูขึ้น
“ปล่อยฉันกับฮานไปเถอะนะ ฉันไม่มีแรงไปสู้รบตบมือกับคุณหรอก”
“หึ! เธอทรมานฉันมาหลายปีแล้วนะมิรา ทุกวันที่ไม่มีเธอมันทำให้ฉันเจ็บจนแทบไม่อยากจะหายใจอยู่ต่อ”
“ฉันสัญญาว่าเธอจะมีอิสระใน ทุก ๆ เรื่อง” คาเรนเทียลุกขึ้นเตรียมจะเข้าไปกอดร่างบางอ้อนแอ้นที่ทำให้เขาเอาแต่โหยหาอยู่ทุกค่ำคืน
“ไม่!” เมลิสสารีบเดินตรงไปยังประตูห้อง เมื่อเห็นแววตาหื่นกามของอีกฝ่ายกำลังจ้องมองมายังเธอ
“เดี๋ยวสิ! เธอจะไปไหน” คนที่ตั้งใจว่าจะลากสาวเจ้าขึ้นเตียง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะอ่านความคิดและความต้องการของเขาออก
เมลิสสารีบเปิดประตูห้องออกไป ก็ไม่พบบุตรชายของเธอกับมารดาของคาเรนเทีย จึงหันไปเอ่ยถามแอนดรูที่กำลังมองมายังเธอ “ฮานอยู่ไหนคะ”
“เอ่อ...คุณเอลลีพาไปที่คฤหาสน์ครับ” แอนดรูที่ยังคงตื่นเต้นแทนผู้เป็นนายไม่หาย เอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“หมายความว่า...?” เมลิสสาถามอย่างไม่เชื่อหู
“ใจเย็นๆ ที่รัก เดี๋ยวเราค่อยตามไป” คาเรนเทียที่เดินตามมาติดๆ บอกพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะไหล่ของสาวเจ้าเบาๆ
“อย่าเรียกฉันแบบนี้” เมลิสสารีบปัดมือหนาออกให้พ้นตัว
“โอเค!” คาเรนเทียยกมือชูขึ้นทั้งสองข้างเพื่อบอกว่ายอม
“ฉันต้องไปบอกคุณเจสันก่อน” เมลิสสาบอกเสียงอ่อนลง
“คุณมิราแค่ลงชื่อเอกสารนี้เท่านั้น ที่เหลือผมจะจัดการต่อให้ครับ” แอนดรูส่งปากกาและเอกสารไปให้ พร้อมชี้ไปยังจุดต่างๆ ที่ต้องเซ็น
“ค่ะ” เมลิสสาคว้าปากกาจรดลงบนกระดาษสาม-สี่แผ่น จากนั้นก็ส่งคืนให้อีกฝ่าย
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” แอนดรูยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผู้เป็นนายอยู่หญิงสาวสองต่อสอง
“เขาชื่อจริงว่าอะไร?” คาเรนเทียจ้องมองแผ่นหลังบอบบางกับเอวที่เล็กคอด และสะโพกที่งอนงามอย่างรู้สึกโหยหา อยากเข้าไปกอดแนบชิด อยากสัมผัสเหมือนเช่นดังเมื่อก่อน แต่ท่าทีที่แข็งกร้าวของเธอก็ทำให้เขาต้องยับยั้งชั่งใจ และมือไม้ของตัวเองเอาไว้
“โรฮาน แอนดิสัน” เมลิสสาหันไปตอบก็ถึงกับตกใจ เมื่อสายตาดันเหลือบไปเห็นกล้วยหักมุก เอ๊ย! บางอย่างทอดยาวเป็นลำนูนๆ อยู่ตรงเป้ากางเกงของอีกฝ่าย
“หึ! โรฮาน บาร์เลนเซนต์ ต่างหาก” คาเรนเทียรีบเอ่ยแก้
“ไม่ใช่” เมลิสสาส่ายหน้าพร้อมกับขยับตัวหนี
“ถ้าฮานใช้นามสกุลฉันอะไรหลายๆ มันจะง่ายขึ้น”
“เช่น?”
“ทรัพย์สินของตระกูลบาร์เลนเซนต์และเกรซจะเป็นของฮาน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)