“ปล่อยนะ! นี่คุณบ้าไปแล้วหรือไง ปล่อย!” เมลิสสาพยายามสะบัดแขนออกจากการจับกุมอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
“เธอมีคนอื่นแทนที่ฉันใช่ไหมมิรา?” คาเรนเทียถามด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ไอ้คนบ้า! ชีวิตของฉันมีแต่ฮาน ฮึก...คะ...คุณไม่รู้หรอกว่าการต้องเลี้ยงลูกน่ะมันเหนื่อยขนาดไหน ฮือๆๆ” เมลิสสาปล่อยโฮออกมาอย่างรู้สึก เจ็บช้ำใจที่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรแบบนี้กับเธอ
“ขอโทษ...ฉันแค่...” คาเรนเทียดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบอย่างรู้สึกผิด แต่ขณะเดียวกันก็โล่งใจและดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“แค่อะไร!” เมลิสสาถามกลับอย่างรู้สึกโกรธ
“แค่เห็นเธอสวยขึ้นก็เลยหงุดหงิดน่ะ โอเค้!” คาเรนเทียบอก ตามตรง
“ปล่อย! ฉันจะไปหาลูก” เมลิสสาถึงกับสตั้นไปสามวิกับคำตอบของอีกฝ่าย พอได้สติจึงรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วพยายามแกะมือหนาออก จากเอว
“คุณพ่อกับคุณแม่ขอเอาฮานไปนอนด้วย” คาเรนเทียกระชับ อ้อมกอดแล้วเอ่ยกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงที่สื่อความหมาย...บางอย่าง
“อะไรนะ?” เมลิสสาถามกลับอย่างไม่เชื่อหู
“ท่านอยากให้เราปรับความเข้าใจกันน่ะ” คาเรนเทียบอกก่อนจะก้มลงหอมที่แก้มนวลเบาๆ ทำเอาเมลิสสาขนลุกซู่ไปทั้งเนื้อทั้งตัว
คาเรนเทียกำลังจะช้อนอุ้มร่างบาง เพื่อจะพาไปที่เตียงนอน แต่ทว่า...เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
ก๊อกๆ
“คุณแม่คับ”
เมลิสสารีบผลักคนหื่นออก แล้วรีบตรงไปเปิดประตูห้องอย่างรู้สึกดีใจ เมื่อได้ยินเสียงของบุตรชายเรียก “ฮาน!”
“มีอะไรกันหรือเปล่าจ้ะ?” เอลลีที่เดินมาส่งหลานชายพร้อมกับสามีเอ่ยถามเมื่อเห็นบุตรชายกับหญิงสาวมีท่าทีแปลกๆ
“เอ่อ...ฮานไม่นอนกับคุณปู่คุณย่าเหรอครับ” คาเรนเทียถามก่อนจะเหลือบไปมองผู้เป็นบิดา เพราะแอบขอร้องให้ช่วยหลอกล่อบุตรชายไปนอนด้วย เพื่อที่ตนจะได้ปู้ยี่ปู้ยำ เอ๊ย! ปรับความเข้าใจกับเมลิสสา
วินเซ่นส่งยิ้มให้บุตรชายอย่างรู้สึกขำๆ เมื่อเหลือบไปเห็นเป้ากางเกงของอีกฝ่ายกำลังตุงๆ
“พรุ่งนี้จ้ะ คิวของแม่กับพ่อ” เอลลีบอกยิ้มๆ
“ใช่! ฝันดีนะฮาน พรุ่งนี้เช้าเจอกัน” วินเซ่นรีบรวบรัดสถานการณ์
“ครับคุณปู่” โรฮานขานรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ฝันดีจ้ะ จุ๊บ!” เอลลีบอกก่อนจะก้มลงหอมแก้มของหลานชาย ตัวน้อยเบาๆ
“ฝันดีคับคุณย่า” โรฮานยิ้มพร้อมกับโบกมือให้คุณปู่กับคุณย่าที่สุดแสนจะใจดี
“ฝันดีนะมิรา” เอลลียิ้มแล้วดึงแขนสามีให้ออกเดินตาม
“เอ่อ...ขะ...เขา...” เมลิสสาเอ่ยพลางชี้ไปที่คนหื่น ที่เข้าใจว่าจะนอนที่ห้องฝั่งตรงข้าม แต่ตอนนี้ทำไมมาอยู่ในห้องของเธอ
“ฝันดีครับคุณพ่อคุณแม่” คาเรนเทียตะโกนบอกมารดา ก่อนจะดันร่างบางเข้ามาในห้องแล้วกดล็อกประตู
“พักยกเรื่องของเราเอาไว้ก่อน ทะเลาะกันต่อหน้าลูกมันไม่ดีนะ” คาเรนเทียรีบเข้าไปกระซิบเตือน เมื่อเห็นใบหน้างามเริ่มบูดบึ้งขึ้นมานิดๆ
“ไหนคุณแม่บอกว่าคุณจะนอนที่ห้องฝั่งตรงข้ามไง” เมลิสสากัดฟันถามกลับอย่างไม่พอใจ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกมัดมือชก
“แต่ฮานอยากนอนกอดพ่อกับแม่คับ” โรฮานที่บังเอิญได้ยินการสนทนาที่สุดแสนเบาเข้า บอกยิ้มๆ
“ได้ยินที่ลูกบอกไหมมิรา” คาเรนเทียเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ
“เอ่อ...” เมลิสสาถลึงตาใส่คนหน้ามึนที่ตอนนี้รีบวิ่งเข้าไปกอดบุตรชายเอาไว้ราวกับจะยึดเป็นเกราะป้องกันตัว ที่จะใช้เรียกร้องสิทธิ์นู่นนั่นนี่กับเธอ
“นะคับคุณแม่” โรฮานหันไปอ้อนมารดาอีกครั้ง
“ก็ได้จ้ะ” เมลิสสายิ้มรับ ทั้งที่ไม่ไว้ใจคนหื่น
“งั้นผมจะพาฮานไปอาบน้ำก่อนนะ” คาเรนเทียบอกก่อนจะอุ้มบุตรชายตัวน้อย แล้ววิ่งตรงไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าแม่ของลูกจะเปลี่ยนใจไม่ยอมให้นอนด้วย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...คาเรนเทียอุ้มลูกชายตัวน้อยออกจากห้องน้ำไปใส่เสื้อผ้าที่ห้องแต่งตัว จากนั้นก็พากันวิ่งตรงมาที่เตียงนอนขนาดใหญ่ ที่มีแม่กระต่ายน้อยของตน กำลังนั่งกดพิมพ์ข้อความมือถือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณแม่คับ ดุกดิกของคุณพ่อใหญ่มากๆ เลยคร้าบ” โรฮานบอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น เมลิสสาปล่อยมือถือร่วงลงจากมือทันใด
“อีกหน่อยของฮานก็จะใหญ่เหมือนกับของพ่อครับ” คาเรนเทียบอกก่อนจะขยับไปนอนอีกฝั่งของเตียง
“ว้าว! เยี่ยมไปเลย” โรฮานยกนิ้วให้อย่างชอบใจ
“นี่คุณแก้ผ้าอาบน้ำกับฮานอย่างนั้นเหรอ?” เมลิสสาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่! ตอนเป็นเด็กฉันก็อาบกับคุณพ่อแบบนี้ ไม่เห็นเป็นไรเลย” คาเรนเทียบอกพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ เมลิสสามองค้อนก่อนจะหยิบมือถือที่หล่น ขึ้นไปวางที่โต๊ะข้างเตียง
“ฉันทำอะไรผิด? ทำไมทำหน้าแบบนั้น” คาเรนเทียถามอย่าง ไม่เข้าใจ
“ก็คุณให้ฮานดู ตะ...ตรงนั้น” เมลิสสาบอกด้วยสีหน้าขุ่นเคือง
“ใช่! เธอก็เคยดู...”
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคนบ้า” เมลิสสารีบต่อว่าก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจาไม่ดีออกมา
“นอนกันเถอะคับ ฮานง่วงแล้ว” โรฮานบอกเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มไม่โอเค
“ครับ” คาเรนเทียยิ้มเมื่อได้ยินเสียงระฆังช่วยชีวิตของลูกน้อยดังขึ้น จึงหันไปบอกคนที่กำลังทำหน้าบึ้งตึงด้วยน้ำเสียงกวนๆ “นอนสิ! ลูกบอกว่าง่วงแล้ว ไม่ได้ยินเหรอมิรา?”
“ห้ามเสียงดังนะคับ” โรฮานบอก
“ครับ จุ๊บ” คาเรนเทียก้มลงหอมแก้มบุตรชายอย่างให้รางวัล
“คุณแม่ยังไม่ได้หอมฮานเลย” โรฮานเตือน เมื่อเห็นมารดายังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่
“ฝะ...ฝันดีจ้ะ จุ๊บ” เมลิสสาก้มลงหอมแก้มของลูกชายเบาๆ แล้วขยับตัวลงนอน
“หอมแก้มคุณพ่อด้วยสิคับ” โรฮานบอกพร้อมกับชี้ไปที่แก้มของบิดา
“คุณรู้ก็บอกมาสิ” เมลิสสาเริ่มจะทนคนตรงหน้าไม่ไหว
“ฮานไปมอสโกกับคุณพ่อคุณแม่ เธอไม่ต้องห่วง เพราะท่านทั้งสองจะดูแลลูกของเราอย่างดี” คาเรนเทียบอกก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาหาตัว
“ไม่ให้ห่วงงั้นเหรอ คุณรู้ไหมว่าฉันกับฮานเราไม่เคยแยกจากกัน ฮึก...” เมลิสสาน้ำตาไหลอาบแก้มขึ้นมาทันทีทันใด
“เฮๆ ใจเย็น พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอนั่งเครื่องบินตามไปโอเค้?” คาเรนเทียกอดปลอบ
“ฮือๆๆ พวกคุณไม่ได้ตั้งใจจะแยกเราสองแม่ลูกใช่ไหม” คนที่คิดไปสารพัดเอ่ยถามทั้งน้ำตา
“บ้า! ใครจะไปคิดแบบนั้นกันเล่าคนดี” คาเรนเทียเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้างามให้อย่างเบามือ
“ฮือๆๆ” เมลิสสาส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ ไม่รู้ว่าป่านนี้บุตรชายจะเป็นอย่างไรบ้าง
คาเรนเทียรีบคว้ามือถือมากดต่อสายวิดีโอคอลหามารดา สัญญาณรอสายดังสองครั้ง ปลายสายก็กดรับ
[ตื่นกันแล้วเหรอจ้ะ] เอลลีเอ่ยทักทาย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
[ครับแม่ มิราร้องไห้หาฮานใหญ่เลย] คาเรนเทียหันกล้องให้มารดาดูสาวเจ้าน้ำตา
เอลลีตกใจ รีบเรียกหลานชายที่กำลังเล่นเกมอยู่กับสามีให้มาคุยสายด้วย [ฮานจ๊ะ ทักทายคุณแม่หน่อยสิ]
โรฮานรีบวิ่งมาหาผู้เป็นย่า แล้วมองกล้องในมือถือ พร้อมกับโบกมือให้มารดาที่ตาแดงก่ำ [ดีคับแม่ ผมกับคุณปู่เราจะไปตกปลากันคับ แม่กับพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคับ]
[จ้ะ] เมลิสสารีบเช็ดน้ำตา แล้วฝืนส่งยิ้มให้บุตรชายตัวน้อย
[หนูไม่ต้องห่วงนะมิรา เราจะดูแลฮานอย่างดี แล้วก็ขอโทษด้วยที่พาฮานมาโดยไม่ได้บอก แม่อยากให้หนูกับคาเรนเปิดใจเคลียร์กัน หากครั้งนี้คาเรนทำตัวไม่ดีกับหนูอีก แม่จะเป็นคนลงดาบให้เองจ้ะ] เอลลีให้คำมั่น
[ขอบคุณค่ะคุณแม่ ฝะ...ฝากฮานด้วยนะคะ] เมลิสสาบอกเสียงสั่น ยังทำใจไม่ได้ เพราะไม่เคยแยกห่างจากบุตรชายมาก่อน
[แม่สาบานว่าจะดูแลให้ดีที่สุดจ้ะ] เอลลีบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
[บายครับแม่] โรฮานโบกมือให้มารดา ก่อนจะวิ่งกลับไปหาคุณปู่ที่กำลังนั่งเล่นเกมกดอย่างเมามัน “คุณปู่คับ ที่มอสโกมีปลาแซลมอนจริงๆ เหรอคับ”
“จริงสิ! ที่กระท่อมท้ายคฤหาสน์น่ะมีเยอะเลย” วินเซ่นบอกยิ้มๆ
“เย้ๆ ผมอยากกินปลาแซลมอนคับ” โรฮานชูมือขึ้นอย่างดีใจ
[แม่ขอวางสายก่อนนะ กลัวว่าจะไปรบกวนสัญญาณของนักบิน ถ้าถึงมอสโกแล้ว แม่จะโทร. หาอีกครั้งจ้ะ] เอลลีบอกหลังจากที่หันกล้องมือถือตามหลังของหลานชายที่วิ่งไปหาสามีให้ดูครู่หนึ่ง
[ค่ะ] เมลิสสาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
[บายครับแม่] คาเรนเทียโบกมือให้มารดา ก่อนจะกดวางสาย
“ฮึก...” เมลิสสาซบหน้าลงกับฝ่ามือแล้วสะอื้นไห้จนตัวสั่น
“เฮ...มิรา” คาเรนเทียดึงร่างบางเข้ามากอด แต่กลับถูกผลักออกอย่างแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)