ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ นิยาย บท 100

เซี่ยชื่อตะโกนออกมา ซูหนานอีก็หันไปมองนางที่ชักดิ้นชักงอเหมือนกับติดเบ็ด ด้วยแววตาเย็นเยือกทันที แม้แต่จิตวิญญาณก็ถูกติดไปด้วย

"นั่นเป็นสินเดิมของท่านแม่ข้า ไม่ว่าท่านแม่จะมีพินัยกรรมหรือไม่ แม้นไม่มี รอให้ข้าแต่งออกไป ของพวกนั้นก็ควรเป็นของข้า ท่านพ่อยังไม่พูดอะไร ท่านเป็นแค่อนุ อีกทั้งยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่าน มีสิทธิ์อะไรบอกว่าไม่ได้"

ซูหนานอีพูดออกมาอย่างร้ายกาจ แต่ละคำเหมือนกับมีดกรีดเลือดออกมา เซี่ยชื่อรู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกตบจนเจ็บหน้า แต่เรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ของสินเดิมของแม่ซูหนานอีพวกนั้น วันนี้ก็มีกำไรมาก หลายปีมานี้ มีร้านมากกว่าครึ่งอยู่ในมือนาง นางจะยอมคืนออกมาได้ยังไง

นางพยายามระงับความโกรธ อยากจะยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่ออก "หนานอี จะพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก แม่ของเจ้าแต่งเข้ามาในตระกูลซู ก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลซู แม้แต่สิ่งของก็ใช่ ตระกูลซูเลี้ยงดูเจ้ามาจนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ตั้งแต่เล็กจนโตก็หมดไปไม่ใช่น้อยๆ เอ่อ……หากเจ้าจะนำพวกนี้ไปด้วย จะไม่เกินไปหน่อยหรือ"

ซูหนานอีหรี่ตาลง แววตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นเยือก นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทีเหยียดหยัน

"ถ้าอย่างนั้นสินเดิมของท่านก็อยู่ในห้องเก็บของของตระกูลซูใช่หรือไม่ ตัวท่านเองก็เป็นของตระกูลซูใช่หรือไม่"

เซี่ยชื่อถูกพูดดักจนพูดไม่ออก ซูหนานอีหันไปทางซูซืออวี้ "จากที่น่าเซี่ยพูด เลี้ยงดูข้าก็หมดไปไม่ใช่น้อย ท่านพ่อก็จะคิดบัญชีข้าด้วยหรือไม่"

"ข้า……"

"หากคิด หรือว่าคิดเพียงตัวข้าคนเดียว" คำพูดของซูหนานอีนั้นคมกริบราวกับมีด ไม่มีโอกาสให้ซูซืออวี้ตั้งสติให้คิดไตร่ตรองเลย

"ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้นก็เรียกซูหว่านเอ้อร์มา และนำชุด กล่องเครื่องประดับของนางออกมา และนำของข้าออกมาด้วย ดูสิว่าเลี้ยงดูใครใช้เงินมากกว่ากัน ข้าเป็นถึงลูกภรรยาเอก เงินที่ให้ซูหว่านเอ้อร์ใช้ก็น่าจะน้อยกว่าข้า หากว่าเยอะกว่าข้า ท่านพ่อก็ควรจะชดเชยให้ข้าใช่หรือไม่"

"หรือว่า ท่านพ่อก็จะคิดบัญชีกับข้า ใช้สินเดิมของท่านแม่ข้าพ่อมาหักลบค่าเลี้ยงดูข้า ที่เหลือก็ค่อยคืนให้ข้าอย่างนั้นหรือ"

"ท่านพ่อ ท่านคิดจะทำอย่างไรกันแน่"

ตอนนี้ซูซืออวี้เหงื่อชุ่มไปทั้งหน้า เขาก็ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรอยู่ถึงได้ลามมาถึงเรื่องนี้

"เจ้า……" เซี่ยชื่อเหมือนอย่างจะพูดอะไร ซูหนานอีก็กวาดสายตามองไป "ข้ากำลังคุยกับท่านพ่อ คุยเรื่องสินเดิมของท่านแม่ข้า ท่านมีสิทธิ์อะไรมาพูดสอด! ท่านพ่อ ท่านลืมคำพูดของใต้เท้าแล้วหรือ"

ซูซืออวี้นึกขึ้นมาได้ ใช่แล้ว คนของใต้เท้าเคยบอกว่า เขานั้นไม่เคร่งครัดกับคนในบ้าน ทำให้ภรรยาที่เป็นเพียงอนุขึ้นมามีสิทธิ์มีเสียงในการตัดสินใจ

เขาไอกระแอมลำคอ แล้วก็ตัดสินใจเด็ดขาด จ้องไปทางเซี่ยชื่อ "หุบปากเจ้าไปเถอะ!"

"ท่านพี่……"

"กลับเรือนไปซะ แล้วก็หยุดพูดมากได้แล้ว!"

เซี่ยชื่อหมดความอดทน ยังต้องจัดการเรื่องงานแต่งงานของซูหว่านเอ้อร์ จะพูดให้ซูซืออวี้โกรธโมโหไม่ได้

นางจ้องตาไปทางซูหนานอีอย่างไม่ยอมแต่ก็ต้องเดินออกไป

เดินไปไม่กี่เก้าก็หันกลับมา กวักมือเรียกบ่าวรับใช้ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ ให้มาหายัดเงินให้สองอีแปะ แล้วชี้ไปข้างในเรือน

ซูหนานอีเห็นตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็คร้านที่จะสนใจ

"หนานอีอา" ซูซืออวี้หันกลับมานั่งลง "พ่อก็ไม่มีอะไร แล้วจะคิดบัญชีกับเจ้าได้อย่างไร เจ้าเป็นลูกภรรยาเอกของข้า ข้าเฝ้ารัก……"

เขาอยากจะบอกว่าเขาเฝ้ารักเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมมาจนโต พูดยังไม่ทันจบก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาบ้าง ได้แต่ยิ้มแหยๆ ให้ซูหนานอี คำพูดหลังจากนั้นก็ไม่สามารถพูดออกมาจากปากได้

"หว่านเอ้อร์ นั้นถูกให้ท้ายจนชิน และนางนั้นน้อยมาก โดยทั่วไปแล้ว พ่อแม่ในใต้หล้ามักจะเอาใจลูกคนเล็ก นาง……"

"ท่านพ่อ" ซูหนานอีเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียงเบา นางลูบลวดลายที่อยู่บนกล่องสี่เหลี่ยมด้วยท่าทีสบาย "ข้าโตแล้ว ไม่ใช่เด็กที่จะต้องมาแย่งความรักจากท่านแล้ว และข้าก็ไม่ต้องการให้ท่านพ่อมาเข้าใจอะไรด้วย ท่านอยากจะรักใครก็แล้วแต่ท่าน ข้าอยู่ที่จวนนี้มานานหลายปี ตั้งแต่เล็กจนโตมาจนถึงป่านนี้ก็รู้อยู่แก่ใจดี"

ซูซืออวี้ถึงกับหน้าชา

"ข้าแค่ต้องการของของแม่ข้าคืน นั่นเป็นสินเดิมของนางตอนแต่งงาน หลายปีมีนี้ใครเป็นผู้ดูแลและกำไรอยู่ที่ใด ข้าไม่ถามหาไม่ต้องการให้เอาออกมาก็ถือว่าเมฆตามากแล้ว ข้าอยากให้ท่านรู้สักหน่อยว่าของของแม่ข้า ข้าจะเอาคืนมาให้ได้แน่ไม่มีอะไรที่จะต้องมาปรึกษาคุยกันอีก"

ซูหนานอีจบอย่างห้วนๆ ก็หัวเราะออกมา ลมข้างนอกยามค่ำคืนมาพร้อมกับอากาศที่ร้อนจัดทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับกลัดกลุ้มร้อนใจ

"ท่านพ่อ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเหยียโมโม่ไม่มามอบเครื่องประดับผมให้ข้าล่ะก็ ท่านก็คงจะดีใจเรื่องที่ซูหว่านเอ้อร์จะแต่งงานจนลืมตัวไปแล้วใช่หรือไม่ ฐานะตระกูลซูของเราเป็นอย่างไรท่านก็รู้อยู่แก่ใจดี ขั้นบันไดจวนท่านแม่ทัพใหญ่นั้นสูงนัก ท่านก็น่าจะรู้ แต่ทำไมถึงได้มีเรื่องแต่งงานนี้ได้ และทำไมยังเร่งรีบอย่างนี้อีก"

บทที่ 100  ไม่จำเป็นปรึกษาคุยกันอีก 1

บทที่ 100  ไม่จำเป็นปรึกษาคุยกันอีก 2

บทที่ 100  ไม่จำเป็นปรึกษาคุยกันอีก 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ