ก้อก ก้อก ก้อก .....
"เชิญ" ฉันตอบโดยไม่หันไปมองประตูด้วยซ้ำ วุ่นอยู่กับงานจนไม่อยากละสายตาไปไหน เพราะฉันกำลังชดใช้กรรมที่ติดผัวเด็ก เอ้ย ติดไคล์!! คือฉันติดเขาจริงๆนะ..ติดจนตัวเองลืมเคลียร์งานที่ค้างไว้ที่บริษัทเลย
และเสียงประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงรองเท้า ที่ตอนนี้กำลังก้าวเข้าใกล้ฉันเรื่อยๆ ...
"ขยันมาก" ?! ฉันเงยหน้าขึ้น มองเจ้าของเสียงทันที ก่อนที่จะตกใจจนลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้
"หมอ..ฮาวาย!"
"ใช่ พ่อเธอบอกว่าเธอป่วย เรียกฉันมาช่วยดูอาการ^^" ฉันชี้มาที่ตัวเองงงๆ กูป่วยตอนไหน?! พ่อเล่นกูแล้วไง!
"ฉันป่วย? ไม่นะไม่ได้ป่วย-_-!" เขาพยักหน้าเบาๆแล้วดึงแขนฉันไปทันที ก่อนที่จะจับชีพจรและวัดความดันให้คร่าวๆ
คือกูจะดึงแขนกลับก็ไม่ได้ รู้สึกอึดอัดแบบ..แบบว่ายังไม่พร้อมที่จะเจอเขา และเสือกเจอแบบไม่ทันตั้งตัวอีก เพราะหลังจากคืนงานแต่งคืนนั้น..เราก็ไม่ได้คุยกันเลย
และตอนนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองตามมือเขา..ที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างลงสมุดเล่มเล็กๆที่เขาดึงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
"ปกตินี่ แต่ทำไมพ่อบอกว่าป่วยล่ะ โกหกพ่อไม่อยากทำงานรึป่าว?^^" ฉันนั่งลง และทำหน้าตีมึนไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนที่จะเหลือบมองไปที่ประตูห้องแวบนึง
ตายแน่กู ถ้าไคล์เห็น..กูซวยแน่ๆ ที่ฉันยืนกรานว่าเลือกไคล์พ่อไม่เก็ทเหรอวะ!! นี่ถ้ายังไม่หยุดชงหมอฮาวายให้ฉันนะ ฉันจะท้องให้ดู!-_-
ฉันกัดฟันเม้มปากหงุดหงิด จนหันไปเห็นหมอฮาวายที่ไม่ทันแผนพ่อเลย เขายังยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อืม..เรื่องคราวก่อนก็ทีนึงแล้ว คราวนี้ฉันรู้สึกผิดกว่าเดิมอีก!! รู้สึกผิดที่พ่อยังดึงเขาเข้ามาให้ฉัน และฉันก็กำลังโอเคกับไคล์
"เอ่อ หมอฮาวาย...วันนั้นขอโทษนะ" ฉันจึงตัดสินใจขอโทษเขาไป จะได้ไม่อึดอัดเวลาสบตาเขา จนหมอฮาวายเขายิ้ม..แล้วนั่งลงพิงพนักเก้าอี้ตรงข้ามฉัน
"จะขอโทษทำไม ไม่ได้โกรธ ว่าแต่คนนั้นเหรอ..ที่ชอบ หล่อดีนะ^^" บ้าจริง! ฉันไม่กล้าสบตาเขาเลย
"อื้มๆใช่.." ขณะที่ฉันพยักหน้าตอบหมอฮาวาย ฉันก็เผลอมองหน้าหล่อๆเขา โอ้ย..นึกเสียดายเหมือนกันนะ เขาหล่อ ทัศนคติดี และอีความเสียดายนี่แหละทำฉันนึกถึงเรื่องครอบครัวเขา เรื่องแม่ที่ดุๆที่ทำกับเจแปน
เฮ้ย เจแปน!!! ใช่ๆน้องนางกำลังป่วยหนักนี่หว่า กูลืมไปได้ไงวะ!
"หมอฮาวายๆ จะว่าอะไรไหม..ถ้าฉันพาคนๆนึงมาเจอ?" เขาเอาแขนค้ำโต๊ะแล้วขมวดคิ้วสงสัย
"ใคร? พรุ่งนี้ได้ไหม พอดีฉันนัดกับแม่ไว้^^" แม่เหรอ? ทำไมฉันต้องขนลุกด้วยวะ-_-
"เอ่อ อยากให้ลองเจอก่อน ไม่อยากบอกว่าใคร เดี๋ยวรอแปปนะ ถามก่อน" ฉันหมุนเก้าอี้หันไปหยิบโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้ทันที ก่อนที่จะลุกขึ้นไปโทรหาต้นไม้ ..เพราะมันเป็นคนเดียวที่สนิทกับเจแปน แต่พอฉันได้คุยกับเจแปนพรุ่งนี้เธอดันไม่ว่าง!!
โอกาสเหมาะๆกว่านี้ไม่มีแล้ว ฉันไม่อยากเจอหมอฮาวายบ่อย เพราะไม่อยากมีปัญหากับไคล์ จนโดนเหวี่ยงขึ้นเตียงอีก เอ่อ..ถึงจะชอบก็เถอะ แต่กูถูกด่าก่อนเอากันแน่นอน
ฉันจึงคุยกับเจแปนให้เจแปนมาเจอวันนี้ก่อน ส่วนเรื่องยื้อหมอฮาวายอยู่ต่อ หน้าที่ฉันเอง ซึ่งเจแปนเธอก็โอเค ไม่โอเคได้ไงกูช่วยขนาดนี้แล้ว -_-
พอฉันวางสายปุ๊บ ก็รีบเอามือกุมท้องทันที
"โอ้ย หมอฮาวาย...หมอฉันปวดท้องTT" หมอฮาวายรีบลุกจากเก้าอี้ตรงดิ่งมาพยุงฉันไปนั่ง จากนั้นเขาก็นั่งลงยองๆมองมาที่ท้องฉัน และกำลังจะเอื้อมมือมา...
แต่ทว่าหยุดชะงัก..
"เอ่อ ปวดแบบไหน ขอกดนะ" ฉันรีบโบกมือปฏิเสธ และส่ายหน้ารัว
"ไม่ๆ-_-"
"อ้าวทำไม?"
"ก็เพราะฉันปวดท้อง ปวดปะ..ประจำเดือน.-_-" เขาลุกขึ้นถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะเดินดุุ่มๆไปเปิดประตูห้องคุยกับเลขาฉัน อะไรอีก!!..แค่กูปวดท้องเมนส์ปลอมๆคงไม่เรียกรถพยาบาลมารับกูนะ
"ฉันบอกเลขาแล้ว ห้ามให้เธอกินน้ำเย็น และเดี๋ยวสักพักเลขาจะเอายามาให้นะ^^" บอกฉันเสร็จ เขาก็เดินกลับมาหยิบกระเป๋าสะพาย จนฉันที่นั่งตัวงออยู่..รีบยืดขึ้นไปถามเขา
"จะไปไหน-_-" เวร กูหลุดถามเสียงแข็งจนหมอฮาวายสะดุ้ง
"กลับสิ มีอะไรรึป่าว^^" ฉันก้มหน้าเอามือนวดขมับเบาๆ ทำไงดีวะ ทำไงดี!!
"ก็ ปะ..ปวดหัวอ่ะ-_-" ได้ผล..เขาวางกระเป๋าลง แล้วเดินมาหาฉันอีก
"ทำไมคะ? ทำไมถามแบบนั้น? พี่ฮาวายจำเจแปนไม่ได้เหรอ? ฮือๆ"
"จำได้พี่แค่ไม่แน่ใจ แล้วไทเปไปไหน? น้องล่ะ..น้องยังอยู่ใช่ไหม??" ยังอยู่?! ทำไมหมอฮาวายถามแบบนั้น เจแปนเองก็งงไม่ต่างกัน เธอหยุดสะอื้นทันทีแล้วกระชากแขนหมอฮาวาย
"ทำไมพี่ฮาวายถามแบบนั้นคะ!?"
"มะ..แม่พี่ บอกว่าเจแปนกับไทเปโดนคลื่นซัดพร้อมพ่อ..และหายสาบสูญหาศพไม่เจอ พอเสร็จงานศพพ่อ..พี่ก็โดนส่งไปเรียนต่อเลย ตอนนั้นพี่ยังเด็กทำได้แค่ถามข่าวจากแม่ และท่านก็บอกพีี่ว่าน้องน่าเสียแล้วเพราะศพที่เจออืดจนจำไม่ได้ ว่าแต่มีคนช่วยไว้ใช่ไหม?"
ฉันเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเอง นั่งทำงานและแอบฟังเงียบๆ เพราะมันเริ่มเป็นเรื่องครอบครัวเขา ตอนนี้เจแปนดูช็อคมาก เธอเบิกตากว้างน้ำตาไหลไม่หยุด ก่อนจะค่อยๆทรุดนั่งที่โซฟาเหมือนคนหมดแรง
"ฮือๆทำไมพูดแบบนั้น เจแปนกับไทเปไม่ได้ไปกับพ่อนะคะ" คราวนี้เป็นหมอฮาวายที่ช็อค
"ห้ะ!! แสดงว่าไทเป..ยังอยู่ใช่ไหม? น้องอยู่ไหน?" เจแปนดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอเงยหน้าขึ้นมองหมอฮาวายช้าๆ แล้วยกแขนขึ้นมา..เหมือนเด็กที่อยากให้พ่อแม่อุ้ม
พอหมอฮาวายเห็น..เขาก็ไม่รีรอ รีบนั่งลงสวมกอดน้องสาวตัวเอง
"ไม่ต้องร้อง พี่อยู่นี่..เกิดอะไรขึ้นกับไทเป ทำไมเจแปนไม่บอกพี่ล่ะ?" เจแปนสะอื้นไห้ซบอกพี่ชาย
"ฮือๆ พี่ฮาวาย ไทเปป่วย..ช่วยน้องด้วยนะคะ" หมอฮาวายผละออกมา เขานั่งยองๆมองเจแปนน้ำตาคลอเบ้า
"น้องเป็นอะไร? พี่เป็นหมอเจแปน เพื่อนพี่เป็นหมอเยอะแยะบอกมาเถอะ พี่ช่วยได้"
"ฮือๆ ไทเปเป็นนิมโฟมาเนียค่ะพี่ฮาวาย พี่ฮาวายช่วยได้ไหมคะ" หมอฮาวายเหมือนช็อคไปชั่วขณะ เขาทรุดลงไปนั่งกอดเข่าที่พื้นทันทีเมื่อได้ยินชื่อโรคนั้น ตอนนี้สองพี่น้องกำลังร้องไห้แข่งกัน ไม่สิ..ฉันที่แอบดูห่างๆก็น้ำตาไหลออกมาแล้ว
"ปะ..เป็นนานรึยัง?" หมอฮาวายถามเสียงสั่น แล้วรีบปาดน้ำตาตัวเองออกจากแก้ม
"ไม่แน่ใจค่ะ ฮือๆ แต่ช่วงนี้อาการหนักมาก"
"น้องอยู่ไหน? พี่อยากเจอไทเป พาพี่ไปเจอน้องได้ไหม?" เจแปนพยักหน้ารัวแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนเธอจะทั้งวิ่งทั้งสะอื้นมาหาฉัน และยกมือไหว้
"ขอบคุณนะคะพี่ใบไม้ ขอบคุณจริงๆค่ะ ฮือๆ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Final Call ประกาศครั้งสุดท้าย... อย่าท้าทายกัปตัน