เพราะว่าวันปีใหม่ ยังมีภาพยนต์ดีๆน้อยเรื่องที่เข้าฉาย
"จะดู ภรรยาอยากดู ก็ต้องได้ดู!"
กะล่อนมาก ฉันอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นแล้วตีเขา : "คุณจริงจังหน่อย!"
ฉันยังคงคุ้นเคยกับท่าทางที่จริงจังของเขาในบริษัทมากกว่า เหมือนตอนนี้ซะที่ไหน ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้สึกกว่าลู่จือสิงไร้สาระมากขึ้น
โดยเฉพาะสองวันนี้ บางทีเป้ยเปยก็ไม่ได้เรื่องเยอะขนาดเขานี้
เนื่องจากปัญหาเรื่องโปรแกรมหนัง สุดท้ายเราก็เลือกหนังแอคชั่น
เมื่อออกมาก็ห้าโมงกว่าแล้ว พอดีกับเป็นเวลาไปทานข้าว
นานแล้วที่ฉันไม่ได้ผ่อนคลายแบบนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของฉันไม่สามารถเก็บไว้ได้ : "คุณอยากกินอะไร?"
"ฉันแล้วแต่คุณ"
อารมณ์ดี ฉันขี้เกียจจะโต้เถียงคำพูดนี้ของเขา ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่ามีอะไรอร่อยๆอยู่ใกล้ๆ ในที่สุดก็เลือกร้านอาหารหม้อไฟ
ลู่จือสิงคนนี้นะ นิสัยรักความสะอาดเล็กน้อย กับหม้อไฟแบบนี้แล้ว นอกจากอยู่ในบ้านของตัวเอง อยู่ข้างนอก เขาเป็นคนที่จู้จี้จุกจิกมาก ไม่ค่อยกินสักเท่าไหร่
ก่อนจะไป ฉันถามเขาเล็กน้อย : "กินหม้อไฟ ไม่มีปัญหาใช่ป๊ะ?"
"คุณชอบก็ไม่มีปัญหา"
ฉันหัวเราะเยาะ : "กะล่อน"
"พูดได้ดี"
รับไม่ไหวจริงๆ ฉันไม่อยากจะพูดกับเขาอีก จึงก้าวขาเดินไปข้างหน้า
ร้านหม้อไฟแห่งนี้ไม่ได้มีสาขาทั่วประเทศ แต่เห็นการประเมินในอินเตอร์เน็ตสูงเป็นพิเศษ เข้ามาดู เวลานี้ยังไม่ได้สั่งอาหาร แต่คนเยอะมากแล้ว
ฉันเอาเบอร์มา เริ่มเรียกคิวแล้ว ด้านหน้ามีสามโต๊ะ
โชคดีที่เรามาเร็ว รอประมาณสิบนาทีก็ถึงเราแล้ว
ตอนเข้าไปทานอาหารก็เกือนหกโมงแล้ว ฉันเห็นด้านนอกต่อแถวอีกสิบกว่าคน แอบถอนหายใจ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จประมาณทุ่มครึ่ง คนข้างนอกเยอะมาก ฉันเกรงใจที่ลู่จือสิงนั่งครองที่นั่งอยู่ไม่ยอมไป ดังนั้นจึงบากลู่จือสิงมา วางแผนที่จะกลับแล้ว
ถึงเวลาจัดเก็บเล็กน้อย ก็สามทุ่มกว่าแล้ว คืนนี้นอนเร็วหน่อย พรุ่งนี้เป็นอีกวันแห่งการต่อสู้
คาดไม่ถึง เมื่อออกมาก็เจอกับเจิ้งเยว่
เธอมากับเพื่อน มองฉันอย่างตกใจเล็กน้อย : "ซูยุ่น?"
ฉันยิ้มเล็กน้อย "เจิ้งเยว่"
"นี่คุณ——”
เวลานี้ฉันจึงนึกถึงลู่จือสิงขึ้นมาได้ เงิบเล็กน้อย รีบพูดแนะนำ : "ลู่จือสิง คู่หมั้นของฉัน"
เดิมทีอยากบอกว่าเป็นแฟน แต่คาดว่าพูดไปอย่างนั้น ลู่จือสิงน่าจะอยากฆ่าฉันเป็นชิ้นๆ
คิดๆดูแล้ว ฉันยังคงไม่เปลี่ยนคำพูด
เจิ้งเยว่ตกใจเล็กน้อย : "ที่แท้คือประธานลู่ ยินดีที่ได้รู้จัก"
"สุภาพไปแล้ว"
ต่อหน้าคนอื่น ลู่จือสิงประพฤติตัวดี
ฉันมองเขา เวลานี้เรียกถึงคิวพวกเจิ้งเยว่เขาพอดี ฉันก็ไม่รบกวนต่อ พูดสองประโยคก็ลากลู่จือสิงไป
ฉันอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อลงบันไดเลื่อน : "คุณรู้จักเจิ้งเยว่หรอ?"
เขามองฉันแล้วยิ้มขึ้นมาทันที : "คุณหึงหรอ?"
ฉันอยากจะกลอกตาให้เขาจริงๆ แต่คิดๆดู ยังคงอดกลั้นไว้ : "อย่าเปลี่ยนเรื่อง"
"ไม่รู้จัก"
ฉันถอนหายใจ "ชื่อเสียงของคุณนี่ไปที่ไหนก็ได้ยิน"
จู่ๆเขายกมือขึ้นมากอดฉัน : "ไม่เป็นไร หลังจากคุณแต่งงานกับฉันก็จะเหมือนกัน ใครๆก็จะรู้จักคุณ"
หึหึ
ประจบสอพลอจริงๆ
ในห้างมีฮีตเตอร์ เมื่อเดินออกไป ฉับพลันลมหนาวก็ตีเข้ามา ฉันหนาวจนตัวสั่น
ลู่จือสิงยื่นมือมาดึงฉันไป คนผ่านไปผ่านมา ฉันผลักเขาโดยจิตใต้สำนึก
"อย่าผลักสิ ไม่กี่คนที่รู้จักเรานะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้