หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ นิยาย บท 236

ลู่จือสิงได้ยินฉันพูดถึงหลินเมิ่งเซีย สีหน้าเย็นชาเล็กน้อย : "คุณกลัวหรอ?"

เขาไม่ได้ตอบคำถามของฉันโดยตรง ฉันเห็นเขา คิดอยู่สักครู่ จึงเอ่ยว่า : "อืม สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?"

ลู่จือสิงยหมือขึ้นลูบหน้าเธอ สักครู่จึงเอ่ยว่า : "เมื่อกี้เธอติดยา ยาเสพติด"

สีหน้าฉันแข็งทื่อ : "เธอเสพ ยาเสพติดหรอ?"

ลู่จือสิงมองฉันแล้วพยักหน้า : "อืม คุณไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก เธอจะไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวกับเราได้อีกต่อไป!"

ฉันมองลู่จือสิง รู้สึกว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนี้

คิดอยู่สักพัก ฉับพลันฉันก็เข้าใจ : "ที่เธอเป็นอย่างนี้ ก็เพราะว่าคุณใช่ไหม?"

เขาไม่ตอบคำถามของฉันในทันที มองแววตาที่หม่นหมองของฉัน สักพัก เขาจึงพยักหน้า : "ใช่เป็นเพราะฉัน" ลู่จือสิงพูดจบ ก็หยุดเล็กน้อย จู่ก็กอดฉันแน่น : "ซูยุ่น คุณอย่ากลัวฉันเลย ฉันแค่ต้องการให้เธอไม่รบกวนคุณอีกต่อไปก็เท่านั้น"

พูดจริงๆ เรื่องอย่างนี้ ฉันรับไม่ได้จริงๆ

มิน่าล่ะก่อนหน้านี้เขาถึงไม่พูดอะไร ขึ้นมาบนรถก็เงียบ ถึงแม้ว่าจะกลับมาถึงบ้านแล้ว ฉันเอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็เบี่ยงเบนพูดเรื่องอื่น เดิมทีก็ไม่ยอมตอบคำถามของฉันโดยตรง

เดิมทีเขาก็รู้ว่าเรื่องอย่างนี้มันน่ากลัวมากจริงๆ เรื่องเช่นนี้ ฉันรู้สึกกลัวจริงๆ

ก็เคยได้ยินวิธีที่โหดเหี้ยมของลู่จือสิงคนนี้มาก่อน แต่ว่าฉันรู้จักมาห้าหกปีแล้ว ถึงแม้ว่าในตอนนั้นเขาจะเคยใช้ฉันในการหาประโยชน์ จริงๆแล้วฉันยังไม่มีโอกาสได้เห็นวิธีการของเขาเลย

ทว่าคาดไม่ถึง กระทั่งตอนนี้ ฉันจึงได้เห็นจริงๆว่าวิธีที่เรียกว่าโหดเหี้ยมคืออะไร

เป็นเวลาสักพัก ฉันจึงรู้ว่าควรจะพูดอะไร

บางทีความเงียบของฉันอาจทำให้ลู่จือสิงเข้าใจผิด เขาจับมือฉันแน่นขึ้น ฉันถูกเขาจับมาไว้ในอ้อมกอด จนฉันเกือบจะหายใจไม่ออก

สติกลับมา ฉันก็รีบผลักเขาเล็กน้อย : "ฉันไม่ให้ฉันหายใจเลยหรอ!"

ฉันพูดจบ มือของเขาก็ผ่อนลงเล็กน้อย นี่ก็ยังไม่น้อยลงเท่าไหร่ ฉันยังคงถูกเขากอดไว้แน่นอยู่ดี

เขาก้มมามองฉัน ในสายตามีความวิงวอนเล็กน้อย : "ซูยุ่น คุณอย่ากลัวฉันเลยนะ ฉันแค่อยากปกป้องคุณ"

อันที่จริงฉันกลัวเขาเล็กน้อย แม้ว่าฉันจะรักเขา แต่เรื่องอย่างนี้ ฉันเชื่อว่าคนอื่นๆ ก็ยากที่จะรับได้

แต่ตอนนี้เขาพูดแบบนี้ ฉับพลันฉันรู้สึกได้ว่า จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรน่ากลัว

จริงๆวิธีการของเขา ทำให้คนที่ได้ฟังเกิดความกลัว แต่บนความเป็นจริง เขาอยู่ต่อหน้าฉัน มักจะเป็นเหมือนเด็กผู้ชายที่ไม่ยอมโต ทำตัวออดอ้อนไร้เดียงสา มีความเหี้ยมโหดเหมือนที่เขาปฏิบัติต่อคนอื่นซะที่ไหน

คิดแบบนี้ จิตใจฉันก็รู้สึกปล่อยวาง ยกมือขึ้นมากอดเขาแน่นๆ : "ฉันไม่กลัวคุณหรอก ลู่จือสิง"

ฉันเพิ่งจะพูดจบ เขาก็จูบลงมา

จูบของลู่จือสิงเหมือนลมกระโชกแรง เดิมทีก่อนหน้าฉันก็ไม่ได้มีแรงมาก จู่เขาก็จูบฉัน ฉันรู้สึกว่าเหมือนตนเองหยุดหายใจไป

ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เขาจึงปล่อยฉัน ระหว่างที่หน้ามืด ฉันได้ยินเขาบอกข้างๆหูของฉันว่า : "ซูยุ่น คุณวางใจเถอะ จะปฏิบัติดีกับคุณตลอดไป"

ฉันถูกเขาจูบจนมึนงงไปเล็กน้อย แต่ก็ได้ยินคำพูดของเขาชัดเจน

ยิ้มมุมปาก ขยับๆอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วทำเสียงตอบรับ "อืม"

ฉันเชื่อ เขาปฏิบัติต่อฉันดีมากจริงๆ

เร่องราวของหลินเมิ่งเซียก็ผ่านไปขนาดนี้แล้ว ลู่จือสิงจะจัดการเธอยังไง ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรมาก

เพียงแต่ลู่จือสิงบอกกับฉันว่า เขาส่งหลินเมิ่งเซียไปรักษาอาการติดยาที่บ้านเกิดของเธอ ถ้าเธอต้องการจะเริ่มต้นใหม่จริงๆ ตัวเธอเองก็รู้ว่าจะทำยังไง หากเธอยังไม่ตระหนักถึงความผิดพลาดของเธอ แบบนั้นก็ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้แล้ว

ถึงแม้ว่วิธีการของลู่จือสิงจะโหดเหี้ยมเล็กน้อย แต่ต้องบอกเลยว่า ขจัดความโกรธในจิตใจได้มากจริงๆ

หลังจากที่หลินเมิ่งเซียไปแล้ว ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดจะได้รับการบรรจุในไม่ช้า

เมื่อฉันไปทำงานในวันจันทร์ แผนกของเราก็มีเด็กจบใหม่มาหนึ่งคน ชื่อว่าหลี่ฮุ้ยหรู

เนื่องจากช่วงนี้ฉันไม่ได้จัดการกับโครงการอะไรนอกจากโครงการในเมืองJ ดังนั้นติงหยวนจึงให้หลี่ฮุ้ยหรูมาเป็นลูกน้องฉันให้ฉันฝึกฝน

หลี่ฮุ้ยหรูคนนี้ จะพูดยังไงดีล่ะ ปากค่อนข้างหวาน แต่รู้สึกว่าความสามารถในการทำงานของเธอไม่ค่อยดี

ก็คือพูดได้สวยงามมาก แต่พอทำกลับเละเทะไปหมด

แม้ว่าปกติแล้วฉันจะอัธยาศัยค่อนข้างดี แต่ว่าเกี่ยวกับเรื่องงาน ฉันเข้มงวดมากมาตลอด

เห็นหลี่ฮุ้ยหรูทำผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดฉันก็เหลืออด "ฮุ้ยหรู วันนี้สภาพจิตใจของคุณดีมากเลยใช่ไหม?"

ฉันเดินเข้าไป คาดไม่ถึงว่าจะพบหลี่ฮุ้ยหรูดูหนังเกาหลีอยู่

เห็นอย่างนี้ ความโกรธของฉันก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น : "คุณมีเวลาดูหนังเกาหลี ก็เลยไม่มีเวลาตรวจสอบข้อผิดพลาดในหนังสือวางแผนของตัวเองใช่ไหม? งบประมาณในนี้ คุณดูจุดทศนิยมของตัวคุณเองหน่อย เห็นได้ชัดว่างบประมาณหลายหมื่นหยวน ทว่าคุณเขียนเป็นหลายแสนหยวน เรื่องง่ายๆแบบนี้คุณก็ทำผิดพลาด ต่อไปคุณจะทำโครงการด้วยตัวเองสำเร็จได้ยังไง?"

สองสามวันนี้ถูกหลินฮุ้นหรูทำจนเป็นประสาทอ่อนๆไปเลย ในประวัติย่อของเธอว่าจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แต่ไม่คิดว่าจะทำงานได้แย่ขนาดนี้

หลี่ฮุ้ยหรูคนนี้ โดยเฉพาะมองดูที่สีหน้า นี่ไม่ได้ เห็นว่าฉันโมโหเลย เธอรีบแสดงอาการน่าสงสารทันที : "พี่ซูยุ่น ฉันผิดไปแล้ว ฉันสัญญาว่าจะจริงจังมากขึ้นในครั้งต่อไป!"

คำพูดนี้ ในสามวันนี้ฉันได้ฟังมันไม่น้อยกว่าสามสิบครั้ง ฉันหน่ายจริงๆ ฉันโบกๆมือ : "คุณไม่ต้องแสดงคำพูดเหล่านี้กับฉันอีก ในเมื่อคุณเป็นลูกน้องฉัน ฉันบอก คุณก็ควรจะตั้งใจไปทำ ตอนนี้คุณทำอย่างนี้ ฉันจนปัญญาที่จะรับมันได้อีกต่อไป ฉันรู้สึกไม่ดีที่จะต้องตามฉัน ฉันสามารถบอกกับผู้จัดการติงได้ทันที ให้เขาเปลี่ยนคนฝึกให้คุณ!"

ได้ฟังคำพูดของฉัน ชั่วขณะสีหน้าของหลี่ฮุ้ยหรูก็ซีดไป : "ไม่ต้อง พี่ซูยุ่น! ฉันผิดไปแล้ว! จะไม่ทำพลาดแล้วจริงๆ!"

"คำนี้ฉันได้ยินมามากแล้ว ฉันหวังว่าครั้งนี้คุณจะตระหนักถึงปัญหาจริงๆ

พูดจบ ฉันก็ไม่อยากพูดคุยกับเธอต่อ กลับไปนั่งที่ของตัวเอง

เพิ่งจะนั่งลง ฉันก็เห็นเซี่ยงฉิงถามในแชทฉันว่าเกิดอะขึ้น

ฉันพูดความผิดพลาดทั้งหมดที่หลี่ฮุ้ยหรูทำในสองสามวันนี้ เซี่ยงฉิงก็ระเบิดอารมณ์ทันทีทันใด

เห็นเซี่ยงฉิงส่งสติกเกอร์ไม่หยุด ฉับพลันฉันก็หยุดโกรธทันที

ช่างเถอะ ถึงอย่างไรอนาคตก็เป็นของตัวเธอเอง หากว่าเธอไม่ยอมฟัง ฉันก็ไม่สามารถบังคับให้ฟังได้

ก่อนเลิกงานหลี่ฮุ้ยหรูเอาหนังสือวางแผนมาให้ฉันดูอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าเธอใช้ประโยชน์จากคำพูดของฉันหรือเปล่า ครั้งนี้เธอไม่ได้ทำผิดพลาดในขั้นตอนง่ายๆอีกแล้ว

ในที่สุดฉันก็โล่งอก ถึงอย่างไรฉันก็ไม่ได้อยากติเตียนคนบ่อยๆ

"ครั้งนี้ไม่ผิด แต่หนังสือวางแผนง่ายไปหน่อย โดยเฉพาะเนื้อหาการเจรจาในนี้ มันทันสมัยไม่พอ อีกทั้งเป็นจุดหลักในการดึงดูดความสนใจของพวกเรา สัดส่วนของคุณน้อยเกินไป"

“โอเค งั้นฉันจะแก้ไขอีกครั้ง"

ฉันพยักหน้า ให้เธอกลับไป

ก่อนเลิกงาน ฉันกับเซี่ยงฉิงออกมาจากห้องประชุม แล้วไปห้องน้ำด้วยกัน แต่คาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ้ยหรูจะกำลังพูดถึงฉันในห้องน้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้