หลี่จื้อที่เป็นไม่เคยพูด เขาเป็นเหมือนมนุษย์ล่องหนมองไปยังลู่จือสิงและพยักหน้า เขาถือแท็บเล็ตไว้ในมือและส่งให้ลู่เว่ยกั๋ว "คุณชายลู่ นี่คือวิดิโอจากโรงแรมในคืนนี้ เราได้เอามาเพียงส่วนที่คุณหยาวตันตันล้มลงไป มาให้พวกคุณได้ดู"
หลังจากที่หลี่จื้อพูดจบเขาก็กดเล่นวิดิโอ แต่ลู่จือสิงที่อยู่ข้างกายฉันกลับไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเลย
ฉันผลักเขาเล็กน้อย "คุณไม่ไปดูหรือไง?"
เขาก้มหน้ามองฉัน ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองฉันอย่างชัดเจน "ผมเชื่อคุณ"
คืนนี้ลู่จือสิงบอกว่าเชื่อใจฉันหลายครั้งแล้ว ความเชื่อใจที่อธิบายไม่ได้นี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้รักคนผิด
ครั้งล่าสุดลู่จือสิงเคยกล่าวว่าเขาจะพยายามเชื่อในตัวฉัน เขาพยายามจริงๆ พยายามจนถึงตอนนี้ ตอนนี้เขาเชื่อใจฉันโดยไม่มีเงื่อนไขใด
ฉันจับมือเขาไว้แน่นพร้อมกับเอนกายพิงเขาโดยไม่รู้ตัว เขาเอื้อมมือมาแล้วโอบฉันไว้ในอ้อมแขนและจ้องมองไปยังลู่เว่ยกั๋วด้วยสายตาเย็นชา
พวกเขาสองสามคนรวมตัวกันราวกับว่าลู่จือสิงและฉันเป็นแค่คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร
ฉันอดไม่ได้ที่จะปวดใจแทนลู่จือสิง เห็นกันอยู่ว่าเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เพราะเป็นความลังเลสับสนของลู่เว่ยกั๋วและปราศจากความรักของเขา
ฉันสาบานว่าฉันจะรักษาจิตใจของลู่จือสิงให้ดีขึ้นในอนาคต อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว
"ดูจบหรือยัง?"
เมื่อหลี่จื้อเก็บโทรศัพท์ ลู่จือสิงก็ได้ถามออกไป
ฉันจับมือเขา ฉันสัมผัสได้ว่านิ้วของเขานั้นเย็นมาก เช่นเดียวกับความเย็นที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้และสามารถทำให้ผู้คนตื่นตระหนกได้
ลู่เว่ยกั๋วมองฉันด้วยสายตาที่ซับซ้อน ฉันรู้ในความจริงที่พวกเขาได้เห็นตามที่ลู่จือสิงได้กล่าว "ฉันเชื่อว่าแค่วิดิโอก็เพียงพอแล้วสำหรับทุกอย่าง ฉันไม่ได้ผลักหยาวตันตัน ความจริงของความยุติธรรมมีอยู่ในใจของทุกคน ภายใต้หลักฐานที่ชัดเจนเช่นนี้ หากว่าพวกคุณยังยืนกรานว่าฉันผลักหยาวตันตันอยู่อีกล่ะก็ฉันเองก็คงไม่มีอะไรจะพูด"
ลู่หงฉิงที่หยิ่งยโสเมื่อครู่นั้นไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกต่อไป ส่วนถันฮ่าวอวี่ที่อยู่ด้านข้างนั้นมีอารมณ์หดหู่และเหมือนจิตใจกำลังเหม่อลอย
บรรยากาศเงียบไปเป็นเวลานาน ลู่เว่ยกั๋วจึงกล่าว "ในเมื่อเข้าใจในเรื่องราวแล้ว เรื่องนี้ก็จบลงแล้ว" ในขณะที่เขาพูด เขาก็นิ่งไปและจ้องมองมาที่ฉันด้วยสีหน้ารังเกียจ "ฉันไม่มีลูกสาวเช่นเธอ เรื่องของเธอและจือสิง ฉันไม่ยอมรับ!"
"เรื่องของผมและซูยุ่นไม่ต้องการให้คุณมายอมรับ"
ลู่จือสิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาหมุนตัวฉันและพาฉันเดินออกมา
คำดุด่าสาปแช่งจากลู่เว่ยกั๋วดังมาจากด้านหลัง แต่ลู่จือสิงก็เดินออกมาอย่างรวดเร็ว ฉันเห็นสีหน้าเขาไม่ค่อยดีและเขาก็ไม่ได้หันหลังกลับไปมอง
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะหยาวตันตันทำตัวเองทั้งนั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันเลยแม้แต่น้อย
พูดตามความจริง ฉันก็ดีใจอยู่บ้างที่หยาวตันตันนั้นทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ลู่จือสิงนั้นไม่มีท่าทีดีใจเลยแม้แต่น้อย ฉันสัมผัสได้ อย่างน้อยฉันก็พอจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไรเขาถึงอารมณ์ไม่ดี พ่อของตัวเองปฏิบัติกับตัวเองเช่นนั้นต่อให้เปลี่ยนเป็นฉัน ภายในใจฉันก็คงไม่ได้จะรู้สึกดีหรอก
เมื่อกลับถึงบ้านลู่จือสิงยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น เมื่อฉันอาบน้ำเสร็จและออกมาก็เห็นว่าเขากำลังสูบบุหรี่อยู่
ฉันรู้สึกปวดใจมากเมื่อเห็นเขาในท่าทางเช่นนี้ ฉันเดินตรงไปหาเขาและแย่งบุหรี่ออกมาจากมือเขา "ไม่ต้องสูบแล้ว"
เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้มอย่างเยือกเย็น "ไม่สูบบุหรี่แล้วจะให้ทำอะไร?"
รอยยิ้มของเขานั้นทิ่มแทงภายในใจของฉัน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นลู่จือสิงในสภาพแบบนี้ มันทำให้ฉันอยากแสดงความรักทั้งหมดให้เขาจริงๆ
เมื่อคิดอย่างไรฉันก็ทำอย่างนั้น ฉันอ้าขาแล้วนั่งลงบนตักของเขา โอบรอบคอของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง จ้องมองเขาพร้อมกับเลิกคิ้วและยิ้มอย่างมีเสน่ห์ "ทำฉัน"
ลู่จือสิงหูแดงแต่สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย "ซูยุ่น คืนนี้คุณอย่ามากระตุ้นผม"
ฉันไม่ได้พูดอะไรและตรงไปประทับริมฝีปากเขาด้วยริมฝีปากของฉัน เขาไม่จูบตอบกลับฉํน ฉันจึงกัดริมฝีปากเขาเบาๆพร้อมกับจ้องมองเขา "ไม่กล้าเหรอ?"
สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือของเขาโอบหลังศีรษะของฉันและมองลงมาที่ฉัน "หวังว่าคุณจะไม่ร้องขอชีวิตจากผม!"
"ใครร้องขอ คนนั้นเป็นหมา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้