เนื่องจากต้องไปร่วมงานเลี้ยงฉลอง ฉันจึงเลิกงานก่อนเวลาหน้าครึ่งชั่วโมงเพื่อไปเปลี่ยนชุดและแต่งหน้า
เมื่อเช้านี้ตอนกำลังเลือกชุดไปร่วมงานอยู่ มีลู่จือสิงคอยจู้จี้อยู่ข้างๆ ฉันจึงเลือกได้เพียงชุดกระโปรงสีดำที่ดูไม่โป๊และสุภาพชุดหนึ่ง
ในบริษัทของเรามีคนไปร่วมงานเลี้ยงฉลองทั้งหมด 6 คน ฉันและเพื่อนร่วมงานไปถึงสถานที่จัดงานก็พบว่าแขกมากันเยอะมากแล้ว
“ซูยุ่น”
พอฉันมาถึง ซวี่ชิงหนานก็เข้ามาทักฉัน
ฉันเดินยิ้มๆ เข้าไปหา: “คุณซวี่” ฉันจำได้ว่าเขาไม่ชอบให้ฉันเรียกเขาว่ารองประธานซวี่
สายตาเขามองไปรอบๆ ตัวฉัน จากนั้นก็ยกนิ้วโป้งกล่าวชื่นชม: “คุณสวยมากครับ”
“ขอบคุณค่ะ วันนี้คุณซวี่ก็ดูหล่อขึ้นนะคะ”
ผู้หญิงชอบฟังคำชมกันทั้งนั้น ฉันเองก็ชอบ ซวี่ชิงหนานชมจนฉันยิ้มไม่ยอมหุบ
ห่างกันไม่ไกลนัก มีคนโบกมือทักทายซวี่ชิงหนาน ฉันไม่ควรยึดครองเขาไว้นานๆ จึงเอ่ยปากก่อน: “คุณซวี่แวะไปทางนู้นเถอะค่ะ ฉันมากับเพื่อนร่วมงานน่ะค่ะ”
เขาส่งสัญญาณให้แขกคนนั้น จากนั้นก็มาตบไหล่ฉันเบาๆ: “ช่วงที่ผ่านมานี้ ลำบากคุณแล้ว คืนนี้เอาให้เต็มที่เลยนะครับ”
ฉันยิ้มกลับ มองดูเขาทักทายต้อนรับแขกท่านอื่นๆ
“ซูยุ่น ซวี่ชิงหนานคนนี้เขาคิดจะจีบเธออยู่หรือเปล่า?”
ฉันรับน้ำผลไม้ที่ต๋งฉิ๋ง เพื่อนร่วมงานของฉันยื่นมาให้: “ขอบใจ” ฉันจิบไปอึกหนึ่งแล้วเอ่ยตอบ “เธอคิดมากไปแล้ว ฉันกับรองประธานซวี่สนิทกันเพราะทำโครงการร่วมกันแค่นั้นเอง”
ฉันรู้ว่าในบริษัทมีข่าวลือเกี่ยวกับฉันกับซวี่ชิงหนานอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเรื่องที่เขาเคยช่วยฉันไว้ ฉันจึงไม่คิดที่จะพูดออกไป คนพูดก็พูดตามๆ กันไป ใครจะรู้สุดท้ายจะถูกลือออกไปแบบไหน
พอฟังฉันพูดออกไปแบบนี้ สายตาของต๋งฉิ๋งก็เป็นประกาย: “แล้วเขามีแฟนหรือยัง? หล่อๆ แบบนี้ เธอไม่หวั่นไหวบ้างเลยหรือ อ๊า ฉันลืมไป เธอมีประธานลู่แล้วนิ! แต่รองประธานซวี่ก็มีเสน่ห์จริงๆ น๊ะ มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมือนประธานลู่ ทำได้เเค่มอง แต่ไม่อาจเข้าใกล้……”
เห็นท่าทางเธอแบบนี้ ถ้าฉันเดาไม่ออกว่าเธอมีใจให้ซวี่ชิงหนาน ตลอดหลายปีมานี้ของฉันก็เสียเปล่าแล้ว: "ฉันไม่รู้ว่ารองประธานซวี่มีแฟนหรือยัง แต่ฉันน่าจะช่วยถามให้ได้น้ะ"
แม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เวลาคุยกับซวี่ชิงหนานก็ดูชิลๆ ดี ถ้าลองถามดูก็คงไม่น่าขัดเขินอะไร
"ฉันแค่อยากรู้เฉยๆ"
เห็นเธอไม่ยอมรับซักที ฉันจึงเอนตัวเข้าไปใกล้แล้วกระพริบตาใส่: "เธอแค่อยากรู้จริงๆ หรือ?"
"ก็ ก็——โอ๊ย ซูยุ่น ทำไมเธอน่ารำคาญจัง"
"ฮ่าฮ่า ฉันเข้าใจแล้ว วางใจเถอะ เรื่องนี้ให้เป็นธุระของฉันแล้วกัน เดี๋ยวจะไปสืบมาให้"
ฉันพูดแล้วก็ตบไหล่เธอเบาๆ แสดงท่าทางบอกว่า "ฉันเข้าใจแล้ว"
"งั้น งั้นเธอก็อย่าลืมแล้วกัน"
แย่ล่ะ ดูท่าต๋งฉิ๋งจะหลงเสน่ห์ซวี่ชิงหนานเข้าแล้วจริงๆ
ขณะที่ฉันกำลังจะเอ่ยปาก ผู้จัดการก็เรียกเราสองคนให้เข้าไปหา: "ซูยุ่น ต๋งฉิ๋ง มานี่ซิ"
ฉันสบตาต๋งฉิ๋ง แล้วรีบเดินเข้าไปหา: "ผู้จัดการหลี่"
ผู้จัดการยิ้มให้เราสองคน: "ท่านนี้คือ ประธานฟาง" พูดจบก็หันไปยิ้มให้ประธานฟาง "ประธานฟาง นี่คือ ซูยุ่น เป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ และนี่คือต๋งฉิ๋ง เป็นผู้รับผิดชอบสถานที่จัดงานโปรโมททั้งหมดในครั้งนี้
"ขอบคุณมาก คุณซู คุณต๋ง"
ประธานฟางคือเจ้าของบริษัทป๋ายเล่อ ทั้งฉันกับต๋งฉิ๋งทราบดีว่าผู้จัดการต้องการให้สานสัมพันธ์กันไว้ จึงยื่นมือไปจับมืออีกฝ่าย
คุยกันได้ซักพัก ก็มีคนมาเรียกประธานฟาง จากนั้นผู้จัดการก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับฉันและ
ต๋งฉิ๋งอีก
"ซูยุ่น ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนน๊ะ"
"ได้ ฉันจะรอเธออยู่ที่นี่แล้วกัน"
ฉันเดินถอยไปด้านข้าง ดูเวลาเห็นว่าใกล้จะเริ่มงานแล้วจึงพูดออกไปอีกคำว่า: "เธอรีบหน่อยแล้วกัน งานจะเริ่มแล้ว"
"ฉันรู้แล้ว จะรีบแล้วกัน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้