“เธอ เธอว่าอะไรนะ?”
“ความหมายตามตัวอักษรค่ะ!”
“ซูยุ่น! อย่าให้มันมากเกินไปนะ เรื่องเมื่อครั้งก่อนฉันยังไม่ได้คิดบัญชีเลย!”
ฉันมองหยาวตันตันด้วยรอยยิ้มเย็นชา: “เรื่องเมื่อครั้งก่อน คุณหยาวจะให้ฉันช่วยเตือนความจำว่าครั้งก่อนเกิดอะไรขึ้นมั้ยคะ?”
ตั้งท้องลูกของชายคนอื่น คิดจะเอาเด็กออก แล้วยังคิดจะดึงฉันมารับเคราะห์แทนอีก?
คิดว่าฉันเป็นคนที่หลอกใช้ง่ายจริงๆ หรือ?!
หยาวตันตันได้ฟังคำพูดของฉันแล้วก็รู้สึกหวาดผวา แต่เห็นได้ชัดว่าเพื่อนอีกสองคนของเธอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงให้คนหนึ่งอยู่หน้า คนหนึ่งอยู่ขวา อีกคนอยู่ซ้ายขวางทางฉันเอาไว้: “ซูยุ่นใช่มั้ย?”
สองคนพุ่งเข้ามาด้วยท่าทีดุดัน แต่ฉันไม่อยากให้มีเรื่องขึ้นในงานเช่นนี้ จึงได้แต่ยกชื่อ
ลู่จือสิงออกมา: “สามีรอฉันอยู่ทางนั้น รบกวนคุณทั้งสองช่วยหลบทางให้หน่อยนะคะ”
“ถ้าพวกเราไม่หลบให้ล่ะ เธอจะทำอย่างไร?”
ผู้หญิงที่ใส่เดรสสีเหลืองพูดพร้อมกับยักคิ้วทำหน้ายั่วยุใส่ฉัน พอเธอพูดจบ ผู้หญิงอีกคนในชุดเดรสสีม่วงก็พูดต่อว่า: “ซูยุ่น เธอนึกว่าแต่งให้ลู่จือสิงแล้ว เธอก็ราวกับได้บินไปอยู่บนกิ่งไม้จริงๆ แล้วงั้นหรือ? เธอก็เป็นได้แค่เพียงคนที่ออกมาจากตรอกซอยเล็กๆ เท่านั้นล่ะ!”
ใครๆ ก็รู้ว่าตรอกซอยเล็กๆ ในเมือง A เป็นพื้นที่ของคนยากจน ฉันไม่อาจที่จะโต้แย้งถ้อยคำของพวกเธอได้ แล้วก็ไม่มีอะไรมาหักล้างได้ แม้ว่าตัวฉันจะมีภูมิหลังที่ไม่ดี แต่ฉันก็ไม่คาดคิดว่านี้จะกลายมาเป็นจุดให้พวกเธอวิพากษ์วิจารณ์ฉันได้
“ทุกคนเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าเธอต้องการอะไรถึงแต่งเข้าบ้านสกุลลู่ เธอมีอะไรมาเทียบได้ ซูยุ่น ตันตันต่างหากถึงจะเป็นคนของบ้านสกุลลู่อย่างแท้จริง!”
ฉันไม่พูดอะไรออกมาซักคำ แต่พวกเธอกลับพูดอะไรออกมาเยอะมาก
ผู้คนรอบข้างจำนวนไม่น้อยชะโงกหน้ามามุงดูเหตุการณ์ แต่วันนี้เป็นวันมงคลฉันไม่อยากก่อเรื่องให้มันวุ่นวายแม้แต่น้อย
ขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะออกจากคนกลุ่มนี้อย่างไรดี ลู่จือสิงก็เดินเข้ามา: “มีอะไรหรือ?”
เขาโอบฉันไว้ในอ้อมกอด ก้มศีรษะมองฉันครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเงยหน้ามองหยาวตันตันด้วยสายตาที่เย็นชา
หยาวตันตันกลัวลู่จือสิงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอลู่จือสิงเดินมา เธอก็หงอทันที: “ไม่มีอะไรค่ะคุณลุง พวกเราแค่อยากจะชนแก้วกับคุณป้าเท่านั้นเองค่ะ”
ถ้าจะบอกว่าคนที่ดูสีหน้าคนเก่งที่สุด ก็มีเพียงหยาวตันตันเท่านั้นจริงๆ
ฉันรู้สึกว่าลู่จือสิงอารมณ์ไม่ดี จึงรีบยื่นมือไปกอดเขา: “คุณบอกว่าคุณหิวไม่ใช่หรือคะ? ฉันเลือกของที่คุณชอบทานมาสองสามอย่างเลยนะคะ”
เขามองลงมาที่ฉัน หยาวตันตันเหมือนจะรู้สถานการณ์ จึงพาเพื่อนสองคนของเธอเดินออกไป
“พวกเขาพูดอะไรกับเธอ?”
ฉันจูงเขามายังที่ที่ดูไม่ค่อยมีคน จากนั้นก็ยื่นขนมอบส่งให้เขา
เขามองอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่รับมา ฉันรู้ว่าเวลานี้เขาหิวแล้วจริงๆ จึงเอาส้อมจิ้มให้เขาชิ้นหนึ่ง: “ไม่ได้พูดอะไรค่ะ”
ฉันไม่ใช่หยาวตันตันซักหน่อย แค่คำพูดไม่กี่คำก็ยุให้ระเบิดได้ง่ายๆ แล้ว
เขามองฉัน ไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด
ฉันรู้สึกขำ จึงเอาขนมใส่เข้าปากเขา: “ไม่มีอะไรจริงๆ คะ ทานเถอะ”
“ประธานลู่”
ลู่จือสิงโชคไม่ดีเอาซะเลย เพิ่งจะได้ทานขนมไปแค่สองชิ้น ก็มีคนมาทักทายอีกแล้ว
ฉันรีบถอนมือกลับ ไปยืนข้างกายเขาแล้วยิ้มบางๆ ให้คนที่มาทักทาย
งานประชุมประจำปีเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยสำหรับคนระดับสูง โดยเฉพาะระดับสูงอย่าง
ลู่จือสิง
ในฐานะที่ฉันเป็นภรรยาของลู่จือสิง หลังผ่านไปหนึ่งคืนฉันก็เหนื่อยแล้ว โชคยังดีที่ลู่จือ
สิงดึงดันขอออกจากงานก่อนเวลา พอขึ้นรถฉันก็รีบถอดรองเท้าออกทันที
ลู่จือสิงคลายเนคไทออก จากนั้นก็ก้มตัวลงมายกเท้าทั้งสองข้างของฉันมาวางไว้บนต้นขาเขา
ฉันตกใจ: “คุณทำอะไรคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้