เฉียวซุนรู้สึกว่าสนิทสนมมากเกินไป
ขณะที่กำลังจะปฏิเสธ เฮ่อจี้ถังก็หยิบกล่องถนอมอาหารตรงที่นั่งผู้โดยสารออกมา “แม่ผมทำเกี๊ยวเองเลยนะ ไส้ขึ้นฉ่ายที่คุณชอบทาน ท่านจึงให้ผมเอามาให้คุณ”
เฉียวซุนรู้สึกเกรงใจนิดหน่อย “คุณป้ายังจำได้!”
เฮ่อจี้ถังยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเอียงตัวเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร “ขึ้นรถสิ ผมผ่านทางนั้นพอดี”
เฉียวซุนคิดว่าคงไม่ดีแน่หากจะปฏิเสธอีกครั้ง
เธอขึ้นรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย “รบกวนคุณแล้วค่ะ”
มือทั้งสองข้างของเฮ่อจี้ถังจับพวงมาลัย เอียงตัวหันไปมองเธอที่กำลังกอดกล่องถนอมอาหารด้วยสายตาที่อบอุ่น “ถ้าหิวแล้วก็เปิดทานเถอะ มันกำลังร้อน ๆ อยู่”
เฉียวซุนไม่คิดที่จะสนิทสนมมากเกินไป นอกจากนี้แล้วเธอกลัวว่าจะทำรถเขาสกปรก เธอส่ายหน้า “ฉันอยากกลับไปทานที่บ้านค่ะ”
เฮ่อจี้ถังไม่บังคับเธอ เขาค่อย ๆ เหยียบคันเร่ง หลังจากนั้นเขาก็พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ “กลับบ้านแล้วค่อย ๆ ทานก็ดีเหมือนกัน!”
รถบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวขับออกไปอย่างช้า ๆ
ห่างออกไปประมาณสิบเมตร ลู่เจ๋อมองไปยังรถที่เคลื่อนออกไป ด้วยสีหน้าอึมครึมราวกับจะมีน้ำสามารถหยดได้
เขาหยิบโทรศัพท์มาจากในรถ ต่อสายโทรศัพท์หาใครบางคน ไม่นานเขาก็ได้คำตอบ
เป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริง ๆ
บอสที่อยู่เบื้องหลังร้านอาหารแห่งนี้ คือ เฮ่อจี้ถัง
……
อาจเป็นเพราะเหนื่อยล้าเกินไป เฉียวซุนจึงเผลอหลับไปในรถ
ขณะที่จอดรถ เธอก็ยังคงหลับอยู่
เฮ่อจี้ถังเอียงตัวมองเธอ มองใบหน้าที่งดงามแต่กลับซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด มองร่างกายอันบอบบางของเธอที่สวมชุดผ้าไหมกระโปรงยาวกำลังนอนคุดคู้ เขาไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนแบบเปิดเผยขนาดนี้มาก่อน
เมื่อก่อนในสายตาของเขา เฉียวซุนเป็นแค่เด็กผู้หญิง
แต่หลายปีที่ผ่านมา เธอเติบโตขึ้นเป็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว อีกทั้งลู่เจ๋อเองที่สอนให้เธอกลายเป็นคนมีที่เสน่ห์อย่างทุกวันนี้
ความรู้สึกของเฮ่อจี้ถังซับซ้อนเล็กน้อย
เขาอดไม่ได้ที่จะเอียงตัว สัมผัสเบา ๆ ที่ใบหน้าขาวนั้นอย่างนุ่มนวล พูดด้วยเสียงแหบ ๆ “ทั้งๆ ที่ผมรู้จักคุณก่อน”
เฉียวซุนตื่นขึ้นมา
เธอลืมตาแล้วมองไปรอบ ๆ “ถึงเร็วขนาดนี้เลยเหรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม