สภาพของเฉียวซุนดูแทบจะไม่ได้
แต่ลู่เจ๋อกลับยังคงแต่งตัวดูดี มีเพียงกางเกงสแล็คขายาวสีเข้มที่เปื้อนความชื้นเล็กน้อย
แสดงออกถึงการเสพสุขที่หวานซึ้งอยู่หลายส่วน
มือของเฉียวซุนสั่นอย่างไม่เข้าท่า หลายครั้งที่เธอไม่สามารถควบคุมปุ่มที่งดงามและละเอียดอ่อนขนาดเท่าเมล็ดข้าวนั่นได้
ลู่เจ๋อยืนมองด้วยสายตาเหยียดอยู่ข้าง ๆ ไม่แสดงการช่วยเหลือใด ๆ
เขาชอบสัมผัสกระดุมข้อมือจนเป็นนิสัย แต่กลับไม่ได้สัมผัสมัน ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
กระดุมข้อมือคู่นั้น เขายังหาไม่เจอ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก้มหน้าถามในเวลานี้
เป็นเวลานาน ในที่สุดเฉียวซุนก็แต่งตัวเรียบร้อย
เธอเงยหน้ามองลู่เจ๋อ ลู่เจ๋อกำลังมองเธออยู่เช่นกัน สายตาที่ล้ำลึกเกินกว่าที่จะทำให้เธอเข้าใจ แต่เฉียวซุนก็ไม่อยากที่จะเข้าใจด้วย น้ำเสียงของเธอเจือความท้อแท้เล็กน้อย “ลู่เจ๋อ ฉันเหนื่อยจริง ๆ นะ! เราเจอกันด้วยดีก็ขอให้จากกันด้วยดีเถอะ!”
พูดจบ เธอก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป
ครั้งนี้ ลู่เจ๋อไม่ได้รั้งเธอไว้
เขายืนอยู่ตรงนั้น มองดูร่างที่จากไปของเฉียวซุน เป็นเวลานาน เขาหลับตาลงและยิ้มเย็นชาบาง ๆ
สามีภรรยาหย่ากัน ส่วนใหญ่ต่างคนต่างก็ต้องเจ็บปวด
มีเรื่องอะไรให้เจอกันด้วยดีแล้วจากกันด้วยดีมากมายขนาดนั้น!
*
ในตอนที่เฉียวซุนออกจากตึกลู่ซื่อ ขาก็ยังคงสั่นอยู่
ผิวที่ถูกลู่เจ๋อสัมผัสยังคงร้อนราวกับไฟแผดเผาเหมือนเดิม ราวกับว่าการสัมผัสจากฝ่ามือของลู่เจ๋อยังคงอยู่...... ในหัวของเธอมีคำพูดของลู่เจ๋อดังก้องอยู่อย่างต่อเนื่อง
[กลับบ้านกับฉัน เธอจะยังเป็นคุณนายลู่เหมือนเดิม!]
[เธอคิดว่าประตูบ้านของตระกูลลู่นึกจะเข้าก็เข้า นึกจะออกก็ออกตามใจ หรือคิดว่าคนอย่างลู่เจ๋อเป็นคนนิสัยดี จะปล่อยให้คนอื่นมาบงการง่าย ๆ งั้นเหรอ!]
……
คำพูดเหล่านั้นทำให้เฉียวซุนหอบหายใจไม่ทัน
เธอผ่อนคลายอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน ถึงได้กลับไปที่บ้านเช่า
ชุมชนเก่าคร่ำครึขนาดหกสิบตารางเมตร มีเพียงเฟอร์นิเจอร์งานหยาบที่สุดเท่านั้น เมื่อเทียบกับวิลล่าของตระกูลเฉียวแต่ก่อน แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แล้ววันนั้นป้าเสิ่นยืนเงียบ ๆ ในห้องโถงแคบ ๆ เป็นเวลานานมาก
เฉียวซุนรู้ว่าเธอไม่ชิน แต่ตอนนี้ เธอเองก็มีความสามารถได้เพียงเท่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้ามหย่าร้าง นายลู่คุกเข่าทุกคืนเกลี้ยกล่อม