คิดว่าฉันไม่เชื่อคุณเหรอ?
ฉันโมโห “ฉันได้ยินสิ่งที่คุณพูดก่อนหน้านี้ชัดเจน คุณยังจะให้ฉันเชื่ออะไรอีก? ไหนพูดมาซิ คุณยังจะแต่งงานกับเธอไหม?”
ฉันไม่เคยถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เพราะไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายแพ้ รวมทั้งไม่อยากทะเลาะกับเขา
ร่างสูงชะงัก ก่อนเอ่ย “ผมขอโทษ ผมบอกไม่ได้ว่าเธอเป็นใคร แต่ผมก็มีเหตุผลนะ”
นี่เขาอยากจะทำให้ฉันคลั่งเพราะคำแก้ตัวแบบนั้นเหรอ!
ดิกสันนี่มันจริง ๆ เลย!
“ได้ งั้นเราจบกัน”
พูดจบก็ยื่นมือไปผลักอกของคนตรงหน้าอย่างแรงด้วยความโกรธ แต่ดิกสันยังพยายามเกลี้ยกล่อมต่อ “เชื่อผมสิ ผมไม่มีทางทรยศคุณหรอก!”
พูดออกมาได้นะ
คุณมันก็แค่คนเห็นแก่ตัว!
“ไปตายซะ!”
ฉันเริ่มหมดความอดทนและไม่อยากจะสนทนากับคนตรงหน้าอีก มือไม้และขาสองข้างสะบัดเตะใส่ดิกสันไม่หยุด
ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยพร้อมค่อย ๆ ก้าวถอยหลังออกไป ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึง ทว่าสายตาที่มองมานั้นยังคงสงบนิ่ง
ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นตรงมาที่หัวใจ แต่ยังเจ็บไม่เท่ากับความรู้สึกของการถูกหักหลัง
“ดิกสัน เกร็ก ฉันจะถามคุณครั้งเดียว”
“ตกลง” เสียงเข้มเอ่ย
ฉันถามเน้นที่ละคำ “คุณจะแต่งงานกับเธอไหม?”
“ถ้าเธอมาเมืองอู๋ ผมจะแต่งงานกับเธอ”
ดิกสันตอบด้วยท่าทางมั่นใจ คำพูดนั่นเด็ดเดี่ยวและยังคงดังก้องอยู่ในใจของฉัน แคโรกัดฟันแน่น พลันเอ่ย “จากนี้ไป เราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว และในอนาคต... ฉันหวังว่าคุณจะมีความสุขกับสิ่งที่คุณเลือก”
“แคโร” เสียงเข้มเรียกชื่อของฉันแผ่วเบา
นี่เขายังมีหน้ามาเรียกฉันว่าแคโรอีกเหรอ?
ฉันโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ทว่าจิตใต้สำนึกยังคงบอกเตือนให้อดทนอย่าผลีผลามกับคำพูดเหล่านั้น
ฉันไม่ควรตบะแตก
แม้ว่าฉันจะแพ้ แต่ก็ควรแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี
หญิงสาวเลือกเดินออกมาก่อนจะก้าวเท้าขึ้นรถขับออกไป เมื่อเบนสายตาไปยังกระจกหลัง แคโรยังเห็นดิกสันยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เหมือนกับภาพของแลนซ์เมื่อวานก่อน
ฉันคิดว่านี่คือจุดจบของเราทั้งคู่
มือเรียวยังกำพวงมาลัยไว้แน่น พร้อมหยดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุดหลังจากการอดกลั้นก่อนหน้า เพราะไม่ชอบความรู้สึกของการถูกมองว่าเป็นโง่และอ่อนแอ ฉันถึงไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็น
ทุกครั้งที่ใช้มือเช็ดมันออกไป ก็อดรู้สึกแย่กับโลกใบนี้ไม่ได้ ให้ตายสิ ฉันจะใช้ชีวิตในโลกที่บัดซบนี่ต่อไปทำไมกัน
โดนทำร้ายมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจากผู้คนรอบตัว
ฉันขับรถผ่านร้านขายอาหารเล็ก ๆ ริมทาง พลางหยุดจอดเพื่อสั่งอาหาร ถึงจะไม่รู้สึกหิวหรือกระหาย สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องกินเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไป
แม้ว่ามันจะยากและเหลือเพียงความหวังอันน้อยนิด ไม่ว่าจะโดนทำร้ายจากคนที่รักขนาดไหน ฉันก็ต้องสู้เพื่อมีชีวิตอยู่
อยู่กับชะตากรรม
แต่ชะตากรรมของฉันคืออะไรล่ะ?
อย่างน้อยก่อนหน้านี่ฉันก็เคยหลงไหลในความรักที่มีต่อเขา ทว่าเมื่อรู้ว่ารักเป็นไปไม่ได้ แล้วยังจะให้ฉันหวังอะไรกับชีวิตอีก?
ทำไมฉันต้องรักผิดคนด้วย?!
ทั้งเสียใจและไม่เหลือความหวังอะไรอีกแล้ว!
ฉันยืนร้องไห้หนักอยู่หน้าร้านราวกับจะตายเสียตรงนั้น จนเวลาผ่านไปซักพักถึงเดินออกมาอย่างเลื่อนลอย ฉันไม่ได้ดื่ม แต่มึนหัวยิ่งกว่าคนเมาซะอีก
บางทีอาจจะเป็นเพราะความเศร้าที่ทับถมอยู่ในใจ
ร่างบางเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงสวนสาธารณะริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในเมืองอู๋ แคโรนั่งลงบนม้านั่งริมน้ำ พลางสูดหายใจรับลมเย็นยามค่ำคืนเข้าไปเฮือกใหญ่ พลันภาพในอดีตบางอย่างก็ค่อย ๆ แวบเข้ามา...
ฉันไม่ควรยึดติดกับอดีต ฉันรู้
เพราะระหว่างดิกสันกับแลนซ์ ฉันเลือกดิกสัน ถ้าตัดสินใจหันหลังให้แลนซ์ไปแล้ว ฉันก็ไม่ควรเอาความอบอุ่นเมื่อก้าวปีก่อนมาใช้เยียวยาตัวเองอีก
ฉันไม่รู้จะไปหาความหวังมาจากไหน
ไม่มีสถานที่ให้หลบหนี้จากความรู้สึกแย่ ๆ อีกต่อไป
แคโรก้มหน้าลงต่ำพร้อมความรู้สึกมากมายในใจ
ใครกันคือคนที่ดิกสันคุยด้วย?
ทำไมเขาถึงทำร้ายฉันแบบนั้น?
ฉันมันเฮงซวยมากเลยเหรอ?
มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าและกดเปิดเครื่อง มีสายไม่ได้รับอยู่เป็นโหล สองสายจากซัมเมอร์ หกสายจากดิกสัน และที่เหลือจากแอนดรู
ฉันนั่งคิดครู่ใหญ่ ก่อนจะกดโทรกลับหาแอนดรู
ถ้าไม่เกิดอะไรร้ายแรงหรือมีเรื่องสำคัญจะต้องคุย แอนดรูไม่มีทางโทรมาแน่นอน ทว่าเมื่อโทรออกปลายสายกลับปิดเครื่อง
แคโรวางโทรศัพท์ไว้ไกล ๆ พลางถอนหายใจออกมายาว ๆ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง ลองพยายามกลั้นหายใจกลับยิ่งเจ็บช้ำกว่าเดิม
ไม่นานน้ำตาที่แห้งไปก็พลั่งพรูออกมาอีกครั้ง ฉันหยุดร้องไห้ไม่ได้จริง ๆ แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง มันเป็นเบอร์ที่ฉันคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีกแล้วตลอดชีวิต แต่มันกลับปรากฎขึ้นในคืนที่หนาวและเงียบเหงาแบบนี้
มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาโทรหาฉัน
ริมฝีปากบางเม้มแน่นลังเลที่จะกดรับ เพราะลึก ๆ แล้วรู้สึกว่าเราไม่มีธุระกงการอะไรที่ต้องคุยกันอีก
แต่สุดท้าย ฉันก็รับสาย
เสียงทุ้มนุ่มของอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นทันที “เด็กน้อย คุณอยู่ที่ไหนกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ