ฉันเดินออกมารับลมเย็นกับบรรยากาศอบอุ่นของแสงแดดในฤดูร้อนที่ด้านนอกของคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ ๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับเข้าไปนอกเล่นมือถือในห้อง
โปรแกรมวีแชทไม่เคยโดยเปิดเช็คข้อความนานเกือบสองเดือน ทำให้มีข้อความตกค้างอยู่ในช่องแชทเป็นร้อยข้อความ ฉันไม่รู้ว่าคนที่ส่งมาเป็นใครบ้าง แต่ฉันก็ไม่คิดที่จะใส่ใจมันอยู่แล้ว
หลังจากค้นหาสอดส่องอยู่ในโลกออนไลน์อยู่หลายนาทีก็รู้สึกเบื่อซะอย่างนั้น ร่างเล็กลุกขึ้นพลันหมุนตัวเดินไปยังห้องทำงานของแซคคารี่เพื่อหาหนังสือมาอ่านฆ่าเวลา
มือบางผลักประตูเข้าไปพลันเบนสายตาไปยังงานศิลปะมากมายที่อยู่ด้านในห้อง และภาพวาดทิวทัศน์จากสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกที่แขวนอยู่บนผนัง
มันมีข้อความสั้น ๆ ที่ถูกเขียนอย่างบรรจงไว้บนภาพเขียนแทบจะทุกรูป
แม้ว่าฉันจะเคยเข้ามาในห้องนี่แล้ว แต่ตอนนั้นกลับมัวแต่วิตกกังวลจนลืมสังเกต ตอนนี้แซคคารี่ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ทำให้ฉันสามารถใช้เวลาในการดื่มด่ำกับงานศิลปะพวกนี้ได้อย่างอิสระและสบายใจ
ฉันเพลิเพลินกับมันไปเรื่อย ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นรอยประทับละลายมือชื่อที่อยู่บนงานศิลปะพวกนั้น มันเขียนไว้ว่า “ชิค” ขอเดาว่าคนที่สร้างสรรค์งานพวกนี้ขึ้นคงเป็นลูกชายคนอื่น ๆ ของตระกูลชิค
บนชั้นหนังสือของแซคคารี่เต็มไปด้วยตำราเก่า ๆ แทบไม่มีเล่มไหนน่าสนใจซักนิด ดังนั้นฉันเลยเลือกหยิบมาซักเล่ม มือเรียวหยิบเรื่อง “คุณคือความสดใสของโลกใบนี้” ออกมา ก่อนสาวเท้าเดินกลับห้องไป
ไม่นานสาวใช้ก็เดินขึ้นมาตามฉันลงไปทานอาหารเย็น แคโรวางหนังสือลงพลางเดินลงไปชั้นล่าง แล้วพบกับอาหารมากมายละลานตาที่ถูกจัดเตรียมไว้
ฉันบอกให้เธอนั่งลงแล้วทานมันเป็นเพื่อนฉัน แต่สาวใช้ขี้เกรงใจรีบปฏิเสธทันควัน ไม่ว่าจะคะยั้นคะยอขนาดไหนเธอก็ไม่ยอมนั่งลงอยู่ดี!
เด็กสาวปฏิเสธหน้าเครียดจนจะร้องไห้ พลันเอ่ย “คุณชอว์ ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ ดิฉันลำบากใจ…”
“เพราะอะไรล่ะ?” ฉันขมวดคิ้วถาม
“ตระกูลชิคมีกฏว่า…”
สาวใช้ชะงักไปเหมือนเผลอพรั้งปากออกมา เธอคิดอยู่ซักพักก่อนจะอธิบาย “บ้านของดิฉันรับใช้ตระกูลนี้มานาน ทำให้รู้ว่ากฏของตระกูลชิคเคร่งครัดแค่ไหน และสาวใช้อย่างพวกเราก็ต้องปฏิบัติต่อกฏอย่างเคร่งครัดเช่นกัน”
แล้วจะมีอะไรมาทำลายกฎบ้า ๆ นี่ได้ไหมเนี่ย?! ฉันต้องการแค่เพื่อนทานข้าวเองนะ!
“แต่ฉันไม่ใช่คนของตระกูลนี้”
แคโรจำได้ว่าก่อนหน้านี้ ชัคเคยบอกว่าตระกูลชิคนั้นเป็นตระกูลที่พิเศษ เธอก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มันยังเป็นพิเศษอยู่ไหม แต่คงต้องยอมรับเรื่องการเคร่งครัดของกฏสำหรับคนที่นี่
ร่างเล็กทานอาหารไปเรื่อย ๆ อย่างเงียบเชียบ เพราะไม่อยากสร้างความลำบากใจให้เมดตัวน้อยนี่อีก เมื่อทานเสร็จก็หันไปยิ้มให้เธอน้อย ๆ พลางเดินออกมาจากห้องครัว
หากไม่นับสาวใช้คนนี้ก็เหมือนว่าฉันอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี่คนเดียว นาน ๆ เข้าจะรู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ฉันนอนกลิ้งอยู่บนเตียงไปมาแล้วพยายามข่มตาหลับ จนแล้วจนรอดก็ยังตาสว่างอยู่ดี มือเรียวคว้าเจอกันดอกไม้ขึ้นมาพลันก้าวเท้าเดินออกไปนอกคฤหาสน์
ในฤดูนี้ดอกไลเซนทัสที่อยู่บริเวณสองข้างทางด้านนอกจะบานเบ่งสวยงามกว่าปกติ โดยเฉพาะดอกสีชมพูกับสีเชียวอ่อนที่จะสะดุดตาและดึงดูงผู้คนได้มากกว่าสีอื่น
ไฟตรงด้านหน้าทางเข้าของคฤหาสน์ค่อนข้างสลัว หญิงสาวก้มตัวนั่งลงยอง ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้สวย ๆ จำนวนหนึ่งออกมาใส่แจกัน ส่วนมากเป็นดอกสีขาวที่ถูกแซมด้วยสีเขียวอ่อนและสีชมพูแลดูนุ่มนวล
เมื่อพอใจแล้วฉันก็ลุกขึ้นพร้อมกอดแจกันดอกไม้ไว้แน่นเพื่อเดินกลับเข้าไปด้านใน ทว่าพอหันหลังกลับต้องตะใจกับใครบางคนที่อยู่ด้านหลัง
แสงไฟอันน้อยนิดทำให้บรรยากาศของคนตรงหน้าดูอึมครึมกว่าเดิม มันทำให้ฉันนึกถึงวันนั้น วันที่จู่ ๆ เขาก็ปรากฏอยู่ท่ามกลางฝูงชนเมื่อสองเดือนก่อน วงแขนแกร่งโอบกอดฉันไว้โดยไม่ปริปากอะไร มีเพียงเสียงเรียกชื่อแคลลี่ที่ออกมาจากริมฝีได้รูปนั่น
ถึงแม้ว่าใคร ๆ จะบอกว่าใบหน้าหล่อนั่นเย็นชาแต่มันกลับอบอุ่นสำหรับฉันเพราะเขาก้าวเข้ามาช่วยฉันไว้ในวันที่ฉันหมดหนทาง ไร้สึกความหวัง ขายขี้หน้า และอ่อนแอ
...
“ขอบคุณนะ” ฉันยิ้มให้เขา
ร่างสูงมองตรงมาด้วยความเข้าใจพลางเอ่ย “อืม แล้วสุขภาพเป็นไงบ้าง?”
“หมอบอกว่าพักอีกสองสามเดือนอาการก็จะดีขึ้นตามลำดับ” ฉันรีบตอบ
“ก็ดี แล้วทำไมยังไม่ไปนอนอีกล่ะ?”
แคโรเดินเข้าไปหาร่างตรงหน้าพร้อมแจกันดอกไม้ที่อยู่ในอ้อมแขน เมื่อเห็นใบหน้านิ่งที่แฝงด้วยความเหนื่อยล้า มือเรียวก็หยิบดอกไลเซนทัสสีขาวดอกหนึ่งออกมาจากแจกันแล้วยื่นให้ร่างสูง “ฉันแค่อยากเก็บดอกไม้สวย ๆ พวกนี้กลับไปไว้ในห้องน่ะ”
นัยย์ตาคู่คมก้มลงมองดอกไม้ในมือของฉัน แต่ไม่ยอมรับมันไป
ชายหนุ่มยังคงเงียบนิ่งไม่ยอมพูดอะไรเหมือนตอนที่เฮนรี่ถามเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนเมื่อสองเดือนก่อน
คนคนนี้ไปเคยพูดหรืออธิบายอะไรให้คนอื่นฟัง เขาไม่เคยบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ นั่นทำให้เขากลายเป็นคนที่ดูโดดเดี่ยวและเหย่อหยิ่ง ทว่าความเหย่อหยิ่งนี้กลับทำให้เขาเป็นที่เด็ดเดี่ยว
เสมือนว่าเกิดมาพร้อมความกล้าอันมากล้นและไม่ตื่นกลัวต่อสิ่งใด
และถ้ามองจากพื้นเพของตระกูลเขา ก็ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะดูเหมือนคนที่ไม่เคยกลัวอะไรเลย
ฉันดึงมือของตัวเองกลับมาก่อนจะพูดบอกปัด “เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ฉันเลือกเดินเข้าไปในรั้วบ้านก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร และพอหันกลับไปมองก็เห็นว่าอีกฝ่ายเดินตามเข้ามาแล้ว
มือบางผลักประตูเข้าไปพลางวางแจกันดอกไม้ไว้บนโต๊ะ แคโรโคลงศีรษะเล็กน้อยและถาม “คุณกินอะไรมาหรือยัง?”
“เรียบร้อย” เสียงทุ้มเปล่งออกมาเบา ๆ
ฉันไม่ได้ถามอะไรต่อแต่บอกราตรีสวัสดิ์ให้เขาแล้วเดินกลับขึ้นห้องตัวเองไปแทน
ทว่าเมื่อถึงห้องกลับนึกขึ้นได้ว่าห้องที่อยู่ตอนนี้เป็นห้องของเขา ถ้าเขานอนนี่แล้วฉันจะนอนไหนล่ะ?
แคโรเดินวนไปมาพลางครุ่นคิดก่อนจะเปิดประตูเดินออกไปยังชานพักบันได นัยย์ตาคู่สวยมองไปยังร่างสูงที่กำลังนั่งหลับตาเอนกายพิงพนักโซฟาอยู่ด้านล่าง
ฉันรอบรวมความกล้าถามขึ้นเบา ๆ “พี่รอง อยากกลับไปนอนพักที่ห้องตัวเองไหมคะ?”
เขาลืมตาขึ้นมาทันทีพลันเบนสายตามามองเมื่อได้ยินฉันพูดแบบนั้น แววตานั่นทั้งลึกเกินอ่านและเย็นชา
“มันสบายกว่าถ้านอนบนเตียงนะ” ฉันบอก
เสียงทุ้มปฏิเสธ “มันมีห้องนอนแค่ห้องเดียว”
ฉันพึมพำ “แต่เตียงมันใหญ่มาก เราแบ่งที่นอนกันก็ได้”
ทว่าเมื่อนึกขึ้นได้ก็อยากจะตีปากตัวเองแรง ๆ ซักที นี่ฉันพูดอะไรกำกวมเกินไปหรือเปล่า
เขาชะงักก่อนเอ่ย “งั้นเธอไปนอนก่อนเลย”
ฉันอายจนแก้มแทบแตก
ร่างเล็กรีบหมุนตัววิ่งกลับเข้าไปในห้องทันควัน พลันล้มตัวลงนอนอย่างเร่งรีบ แต่ไม่ว่าจะหันทางไหนฉันก็นอนไม่หลับ ในใจอยากจะเปลี่ยนใส่ชุดนอนที่ดูมิดชิดนี้ แต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าฉันระแวงเขา
ฉันลุกขึ้นพลางมองสำรวจรอบเตียงอีกครั้ง เตียงหลังนี้ใหญ่พอที่จะแบ่งกันนอนได้สบาย ๆ และนั่นทำให้ฉันเริ่มใจเย็นลง
ยี่สิบนาทีต่อมา ร่างสูงก็เดินเข้ามาในห้องพลางถอดเสื้อคลุมออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออก พร้อมฝีเท้าที่ก้าวมายังเตียงนอน ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างฉันเงียบ ๆ
แซคคารี่ไม่พูดอะไรเลยซักคำตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในห้อง ช่างเป็นชายที่นิ่งเฉยดีแท้ แม้กระทั่งสถานการณ์น่าอึดอัดแบบนี้ อีกฝ่ายก็ยังดูชิวเหมือนการที่เรานอนด้วยกันนั้นเป็นเรื่องปกติ ฉันคิดวนไปมาก่อนจะรู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไป แคโรผ่อนลมหายใจและปล่อยสมองให้ว่างและซักพักก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
ทว่าขณะที่กำลังหลับลึกกลับรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังกอดอะไรบางอย่าง ฉันพยายามลืมตาขึ้นมองพลันต้องเบิกตาโพล่งด้วยความช็อคเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ในอ้อมอก แขนเรียวผละออกทันทีก่อนจะเขยิบออกมาห่าง ๆ จากเขา
อีกฝ่ายยังคงนอนหลับเป็นตาย
ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพบว่าพึ่งหกโมงเช้าเท่านั้น ฉันเบนสายตาหันออกไปดูแรงของรุ่งสางที่กำลังวิบวับอยู่ด้านนอกหน้าต่าง
ก่อนหันกลับมามองใบหน้าหล่อคมของแซคคารี่ที่หันมาทางฉัน
อย่างกับเกิดมาเพื่อชนะทุกสิ่ง แคมองหน้าก็รู้โดยไม่จำเป็นจะต้องอธิบายอะไรเลยซักนิด!
ฉันถอนหายใจพลันต้องตกใจกว่าเดิมเมื่อเสียงนั่นเอ่ย “เธอจะมองหน้าฉันอีกนานไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ