ร่างสูงข้างตัวแผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมาเต็มเปี่ยม แคโรหลับตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย พลางหันไปบอกชายหนุ่มหน้าหล่ออีกคนที่ยังทำหน้าเลิกลักกับสถานการณ์ตรงหน้า “โทษทีนะ ฉันไม่มีแฟนหรอก แต่ว่าก็ให้เบอร์คุณไม่ได้ เพราะเราไม่ได้รู้จักกัน”
อีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเกินออกไป ร่างเล็กหมุนตัวออกจากอ้อมแขนหนา พลันปรายตามอง “เราก็ไม่ได้รู้จักกัน”
แซคคารี่ยังคงนิ่งทว่าขบริมฝีปากแน่น นัยน์ตาคู่คมมองมาที่ช่วงเอวคอดด้วยสายตาไม่พอใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ฉันหมุนตัวเดินไปอีกทาง แต่ชั่วพริบตา มือหนากลับคว้าข้อมือบางไว้จนต้องหันมอง
“เบล เธอไม่อยากคุยกับฉันเหรอ?”
แปดเดือนก่อน ฉันคิดถึงเขา คิดถึงมาก ๆ จนไม่อยากให้หนีจากกันไปไหน ฉันบินไปฟินแลนด์ถึงสองครั้ง ไม่สิ ถ้ารวมตอนที่อีกฝ่ายอยู่ในคุกก็รวมเป็นสามครั้ง แต่ทั้งสามครั้งนั้น ไม่เคยมีสักครั้งที่ฉันจะได้เห็นคนตรงหน้า!
แล้วมันเป็นความผิดเขาใช่มั้ย?!
ฉันไม่กล้าโยนความผิดให้เขาหรอก
ถึงได้เลือกเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง
และจะให้โทษเขาเรื่องเด็ก ๆ ก็ไม่ได้
เพราะฉันเป็นคนเลือกที่จะเก็บพวกเขาไว้ และให้กำเนิดเอง
แค่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น น้ำตาก็แทบจะไหลออกมา “ฉันไม่รู้จักคุณ”
แซคคารี่ยื่นนิ่ง แต่ดวงยังคงจับจ้องมองอย่างลึกซึ้ง
ฉันทนสายตาของเขาไม่ไหว และรีบหันหลังก้าวออกมาทันที เขาก็ไม่ได้รั้งไว้อย่างเคย เมื่อวิ่งออกมาถึงรถ ร่างบางก็ทิ้งตังลงนั่งพลางมองข้อมือของตัวเองที่โดนมือหนาจับไว้เมื่อครู่ ความอุ่นร้อนและกลิ่นหอมยังติดอยู่จาง ๆ
ฉันคิดถึงเขามาก ๆ อยากวิ่งเข้าไปกอดอีกคนแน่น ๆ
และอยากเล่าเรื่องแย่ ๆ ทีกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้เขาฟัง
แต่ก็ไม่กล้าพอ
ในใจลึก ๆ ฉันยังเสียใจที่เคยทำร้ายเขา
เรื่องของเรามาเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ได้ยังไงนะ?
ฉันขับรถกลับไปอพาร์ตเมนต์ ก่อนจะทิ้งตังลงนั่งที่โซฟาอย่างหมดแรง ทว่าไม่นาน ทักเกอร์ก็โทรเข้ามารายงาน “คุณหมอฆ่าตัวตายเมื่อวานนี้ครับ ส่วนสามีและลูก ๆ ของเธอก็ไม่รู้สาเหตุที่เธอทำแบบนั้นเหมือนกัน พยานสำคัญของเราไม่เหลือแล้ว”
ถ้าอย่างนั้น จากนี้ก็เหลือแค่ดิกสันคนเดียว ที่รู้ว่าลูกของฉันอยู่ไหน
ฉันตอบกลับทันที “จับตาดูดิกสันไว้”
ส่วนคุณหมอ เธอคงมีเหตุผลอื่นที่ทำเลือกจบชีวิตด้วยความตาย ฉันเชื่อว่าดิกสันไม่ใช่คนที่โหดร้ายขนาดนั้น เขาจะไม่ทำร้ายเด็ก ๆ
ถ้าเด็กทั้งสองยังอยู่กับเขา ไม่นานสิ่งที่ดิกสันปิดเงียบไว้ก็จะเปิดเผยออกมาเอง
ทักเกอร์รับคำสั่งแล้ววางสายไป สักพักโทรศัพท์ก็แจ้งเตือนอีกครั้ง มันเป็นข้อความจากยารา “แคโรไลน์ ไปดื่มกันมั้ย? พี่ชายกับฌอนก็จะไปด้วย”
วันก่อนเธอก็ช่วยฉันแบบนี้ ถ้าครั้งนี้ปฏิเสธเธออีกคงจะน่าเกลียดเกินไป อีกทั้งยาราพึ่งกลับมาจากฟินแลน์ ฉันควรไปต้อนรับเธอหน่อย
ร่างบางคิดก่อนตอบ “ได้เลย ไว้เจอกันคืนนี้”
ฉันตอบกลับไปเพียงเท่านั้น และรอเวลาให้ค่ำกว่านี้แล้วค่อยลุกไปเปิดตู้เซฟในห้องนอน
มือเรียวหยิบแหวนสไตล์วินเทจที่แซคคารี่เคยให้ไว้ ฉันมองมันอยู่แบบนั้นพักหนึ่ง มันดูสวยมีราคาเมื่ออยู่บนนิ้วเรียวขาวของเขา และดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะชอบใส่แหวนสไตล์นี้เป็นพิเศษมากกว่าเครื่องประดับชนิดอื่น
แคโรสวมแหวนลงบนสร้อยคอ พลางเดินไปนั่งแต่งหน้าที่โต๊ะเครื่องแป้ง ฉันหยิบเสื้อกล้ามตัวเล็กสีดำออกมาใส่
พร้อมกางเกงลำลองสบาย ๆ สีดำ
ผมยาวสลวยที่ถูกปล่อยลงมา ขลับให้ใบหน้าสวยดูเซ็กซี่น่าดึงดูดกว่าเดิมหลายเท่า— สวยใช่เล่นนะเรา
ฉันมีใบหน้าที่สวยงามโดดเด่นกว่าผู้หญิงคนอื่น ซึ่งเรื่องนี้ซัมเมอร์เคยพูดไว้เองว่า “ถ้าอยากรู้ว่านิยามของคำว่าสวยคืออะไร ให้ดูที่แคโรไลน์”
เมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ ขาเรียวก็ก้าวฉับลงมารอแท็กซี่ด้านล่าง ใช้เวลาซักพัก รถก็มาจอดยังที่หมาย แคโรกวาดตามองไปทั่ว ก่อนจะพบเพียงฌอนที่นั่งรออยู่
ฉันเดินเข้าไปใกล้ “คนอื่น ๆ ไปไหนซะล่ะ?”
“กำลังมา”
มือหนารินเหล้าให้ ฉันรับมาจิบสองสามอึกอย่างรำคาญใจ “โคตรเบื่อเลย”
ฌอนเลิกคิ้ว “งั้นก็ดื่มซะ”
“ร่างกายไม่ให้ความร่วมมือน่ะสิ”
ทว่าอีกคนกลับคะยั้นคะยอ “นาน ๆ ทีดื่มไม่เห็นจะเป็นไรเลย ร่างกายเธอไม่ทรุดหรอก”
ฉันยิ้มกว้างทันที “จริง ๆ นะ?”
“จริง กินไปเถอะ ถ้าเมาเดี๋ยวฉันไปส่งเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ