จนกระทั่งมีเสียกเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นรบกวนบรรยากาศน่าอึดอัดใจนี้
สายนั้นมาจาก ลอเรน กรีน
แคโรประหลาดใจเล็กน้อย
ในขณะที่ฉันลังเลว่าจะรับสายของเธอดีไหม ดิกสันก็ชะโงกหน้ามามองเสียก่อน และเมื่อเห็นว่าชื่อที่โทรเข้ามาเป็นใคร คิ้วหน้าคู่นั้นก็ขมวดเข้าหากันทันที เสียงเข้มพูดติดรำคาญ “ในหัวของลอเรนก็มีแต่เรื่องของ แลนซ์ เกร็กเท่านั้นแหละ”
ดิกสันเรียกใช้คำว่า แลนซ์ เกร็ก แทนคำว่า ‘พี่ชาย’
บ่งความถึงความสัมพันธ์ที่ห่างเหินสำหรับสองคนนี้
การที่ดิกสันนอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ทำให้ฉันไม่อยากรับสาย แต่ลอเรนกลับไม่ยอมแพ้และเลือกโทรแบบวีดีโอคอลมาแทน
ร่างสูงที่เริ่มหงุดหงิดคว้าโทรศัพท์ของฉันไปพลันกดรับสาย “เธอมีธุระอะไรลอเรน?”
น้ำเสียงกร้าวที่ติดรำคาญนั้นทำให้ลอเรนตกใจไม่คิดว่าผู้เป็นพี่ชายจะใช้มันพูดกับเธอ พลางทำให้เธอได้แต่เอ่ยกลับอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “พี่รอง ฉันขอคุยกับพี่แคโรไลน์หน่อยนะคะ”
“เธอจะคุยกับพี่สะใภ้ตัวเองทำไม?”
ดิกสันเน้นย้ำสถานะของฉันต่อลอเรนอย่างไม่สนใจอะไร
ปลายสายชะงักไปนิด พลันเอ่ยอีกครั้ง “พี่สะใภ้ของฉันอยู่ไหนคะ?”
คนหน้านิ่งแต่อารมณ์คลุกกรุ่นไม่ยอมตอบ ทว่าถามโต้กลับคนเป็นน้อง “แล้วจะถามหาเธอไปทำไม?”
“ฉันโดนจับอยู่ที่สถานีตำรวจอีกแล้ว”
ดิกสันเงียบไป “...”
ลอเรนเริ่มเอ่ยปากอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงเศร้า “ฉันไม่กล้าบอกพี่ใหญ่ แล้วฉันก็กลัวว่าพี่จะด่าฉัน ฉันถึงอยากคุยกับพี่แคโรไลน์”
เสียงเข้มตอบกลับเพียงว่า “สมควรแล้ว”
“...”
ปลายสายเงียบลงก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “พี่รอง ได้โปรดช่วยฉันด้วยนะคะ”
“ช่วยเหลือตัวเองไปก็แล้วกัน”
ดิกสันตัดสายในลอเรนอย่างโหดร้าย พลางวางโทรศัพท์ลง การกระทำแบบนั้นของเขามันไม่น่ารักเลยซักนิด “ทำแบบนั้นไม่ดีเลยนะรู้ไหม?”
มือหนาส่งโทรศัพท์คืนฉัน “แล้วทำไมลอเรนถึงไม่คิดบ้างว่าทำแบบนั้นมันไม่ดีต่อตัวเธอ? ให้เธออยู่ในนั้นซักคืนเผื่อจะคิดได้ พรุ่งนี้ผมค่อยหาเวลาไปประกันตัวเธอออกมา”
ร่างสูงถอนหายใจพลันเอ่ยต่อ “ลอเรนเป็นคนที่หน้าสงสารนะ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อแลนซ์ไม่ได้น้อยไปกว่าคุณเลย พวกเขาโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก มันหลายปีมาก ๆ จริง ๆ”
ดิกสันชอบจุดประเด็นเรื่องที่ฉันชอบแลนซ์เสมอ
และมันน่ารำคาญเมื่อเขาพูดถึงมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หญิงสาวเอ่ยอย่างหงุดหงิด “คุณช่วยหยุดพูดถึง แลนซ์ เกร็กได้ไหม?”
ดิกสันยิ้มเหยียด “เหอะ ยังรู้สึกกับหมอนั้นอยู่หรือไง?
ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับเขาเลยซักนิด พลันยกมือขึ้นผลักเขาออกไปจากเตียง ทว่าดิกสันกลับดึงร่างเล็กกลับเข้าไปในอ้อมกอดแล้วรัดไว้แน่น
แคโรดิ้นแรง ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงเอ่ยถาม “คุณได้ยินไหม?”
“อะไร?” ฉันโต้ทันควัน
“เสียงหัวใจของผม”
ฉันแทบช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน
นี่เขาต้องการจะพูดอะไรกันแน่?!
ขณะที่สติกำลังกลับเข้าร่าง ดิกสันก็โน้มใบหน้าลงมาพร้อมริมฝีปากหนาที่ประทับจูบลงมาอย่างรวดเร็ว
“คุณพาฉันมาที่นี่เพื่อเรื่องอย่างว่าใช่ไหม!”
ร่างสูงดูดเม้มริมฝีปากของฉันแรงขึ้น “ใช่ จะว่างั้นก็ได้”
ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดผลักอกหนาออกไปก่อนจะถีบร่างสูงของเขาไปหนึ่งที ดิกสันไม่ได้ขยับหลบหรือปัดป้อง
“ดิกสัน เกร็ก ปล่อยฉันนะ!”
ฉันหงุดหงิดขั้นสุดจนแถบจะร้องไห้ออกมา และเมื่อดิกสันเห็นแบบนั้นเขาถึงปล่อยฉัน พลางพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ผมทำแบบนั้นเพราะอยากให้คุณกลัว นี่คือบทลงโทษของคุณ... ที่คุณคอยใส่ใจผมตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่ผม...”
“เดี๋ยวนะ บทลงโทษ?!”
บทลงโทษบ้าบออะไรถึงต้องจูบกันแบบนั้น?
พลันดิกสันกลับตอบด้วยตาเป็นประกาย “ใช่ บทลงโทษของคุณ”
ณ วินาทีนั้น ฉันรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาแกล้งฉัน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ