"พี่คะ แบบนั้นไม่ได้นะ นั้นเป็นทรัพทย์สินของเขาก่อนแต่งงาน ฉันไม่ได้ออกเงินช่วยซื้อสักบาท แล้วจะให้เขาเพิ่มในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกันอีกได้อย่างไร เรื่องนี้เราจะไม่พูดกันอีกนะคะ"
เมื่อได้รับใบทะเบียนสมรสมา จ้านหยินก็มอบกุญแจบ้านให้ ทำให้เธอสามารถย้ายเข้าบ้านนั้นได้ทันที ปัญหาเรื่องบ้านก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
เธอจะไม่ขอให้จ้านหยินเพิ่มชื่อเธอในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกัน ถ้าเขาต้องการเพิ่มชื่อของเธอในใบครอบครองทรัพย์สินเอง เธอก็จะไม่ปฏิเสธในฐานะสามีภรรยาที่ตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต
ไห่หลิงแค่พูดแบบไปนั้น เพราะรู้ว่าน้องสาวพึ่งพาตนเองก่อนและไม่โลภมาก เธอจึงหยุดกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้
หลังจากที่ถูกพี่สาวสอบถามทุกเรื่องแล้ว ไห่ถงจึงสามารถย้ายออกจากบ้านพี่สาวได้สำเร็จ
พี่สาวต้องการไปส่งเธอที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น แต่ทันใดนั้นหลานชายโจวหยางตื่นขึ้นพอดี เจ้าตัวเล็กตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้และมองหาแม่ของเขา
"พี่คะ พี่ไปดูแลหยางหยางก่อน สัมภาระของฉันไม่เยอะ ฉันไปคนเดียวได้"
ไห่หลิงต้องป้อนข้าวลูกชาย เมื่อป้อนข้าวเสร็จแล้วก็ต้องเตรียมอาหารกลางวันต่อ เพราะสามีตอนเที่ยงจะกลับมาทานอาหารกลางวันที่บ้าน ถ้ายังทำกับข้าวไม่เสร็จ เขาจะตำหนิเธอว่าอยู่แต่บ้านทำไมไม่เตรียมอาหาร แค่เตรียมกับข้าวแค่นี้ยังทำไม่ได้
จึงทำได้เพียงแค่บอกว่า "งั้นเดินทางปลอดภัยนะ ตอนเที่ยงกลับมาทานข้าวที่บ้านไหม? เรียกน้องเขยมาด้วยล่ะ"
"พี่ ตอนเที่ยงฉันจะกลับร้าน คงไม่มาแล้วล่ะ น้องเขยพี่น่ะงานเขายุ่งมาก แล้วเขายังบอกว่าตอนบ่ายต้องไปทำงานต่างจังหวัด หลังจากช่วงนี้ฉันจะพาเขามาพบพี่ค่ะ"
ไห่ถงพูดโกหก
เธอไม่รู้จักจ้านหยินสักนิด แต่จากที่ฟังคุณยายจ้านเล่าเขายุ่งมาก ตอนเช้าออกจากบ้านเร็วกลับบ้านดึกดื่น บางครั้งต้องไปทำงานต่างจังหวัดนานถึง 10 วัน เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะว่างเมื่อไร จึงไม่กล้าสัญญากับพี่สาวเพราะกลัวจะให้รอเก้อ
"วันนี้เพิ่งจดทะเบียนสมรสก็ออกไปทำงานต่างจังหวัดแล้วเหรอ"
ไห่หลิงรู้สึกว่าน้องเขยไม่ใส่ใจน้องสาวเธอ
"พวกเราแค่จดทะเบียนสมรสกัน ไม่ได้จัดงานแต่งงานกันสักหน่อยค่ะ เขาต้องไปทำงานต่างจังหวัดเพื่อจะได้เงินเพิ่มมากขึ้น ในอนาคตต้องมีเรื่องให้ใช้จ่ายอีกเยอะ พี่คะ ฉันไปก่อนนะ พี่รีบไปป้อนข้าวหยางหยางเถอะค่ะ"
ไห่ถงโบกมือลาพี่สาวและหลานชายพร้อมพูดว่าแล้วเจอกัน ก่อนลากกระเป๋าเดินทางลงชั้นล่าง
เธอรู้ว่าหมิงหยวนฮวา การ์เด้นอยู่ที่ไหน แต่เธอไม่เคยไปที่นั่นเลย
เธอเรียกแท็กซี่ไปส่งที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น เมื่อถึงแล้วเธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมถามจ้านหยินบ้านอยู่ชั้นไหน
เธอรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาจ้านหยิน แต่ลืมไปว่าไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ของเขา ยังดีที่เพิ่มเพื่อนกับเขาแล้วในวีแชท เธอจึงได้ต่อสายโทรหาเขาผ่านการโทรด้วยเสียงในแอพพลิเคชั่น
จ้านหยินกำลังประชุมอยู่ ทุกคนในห้องประชุมจะตั้งค่าโทรศัพท์โหมดปิดเสียง เพราะในระหว่างการประชุมไม่อนุญาตรับสายโทรศัพท์ส่วนตัว
เขาก็ตั้งค่าโทรศัพท์โหมดปิดเสียงเช่นกัน แต่โทรศัพท์ของเขาวางอยู่บนโต๊ะ เมื่อไห่ถงโทรเข้ามาผ่านการโทรด้วยเสียง เขาจึงเห็นได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อคู่แต่งงานเพิ่มเพื่อนกัน จ้านหยินไม่ได้เปลี่ยนชื่อบัญชีวีแชทของไห่ถง ชื่อบัญชื่อของเธอคือ "เงือกน้อยใต้ก้นมหาสมุทร" ที่โทรเข้า เขามองดูชื่อที่ไม่รู้จักจึงไม่มีความคิดที่จะรับสาย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปฎิเสธการรับสายจากไห่ถงที่โทรผ่านการโทรด้วยเสียง
หลังจากนั้นเขาลบบัญชีวีแชทของไห่ถงออกจากรายชื่อเพื่อน
ไห่ถงไม่รู้ว่าเขาได้ลบบัญชีของเธอแล้ว เธอเห็นว่าจ้านหยินไม่รับสายโทรศัพท์ของเธอ เธอจึงส่งเป็นข้อความหาเขาแทน
เธอถามว่า "คุณจ้านคะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้นแล้วค่ะ แต่ไม่ทราบบ้านคุณอยู่ชั้นไหน"
พิมพ์ข้อความเสร็จ ครั้นกดส่งข้อความก็พบว่าจ้านหยินไม่ได้เป็นเพื่อนในแอพพลิเคชั่นกับเธอแล้ว
เธอจ้องมองโทรศัพท์ด้วยความงุนงง
"ทำไมไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้ว? ตอนที่อยู่สำนักทะเบียน เห็นชัดๆ ว่าพวกเราเพิ่มเพื่อนกันแล้วนิ หรือฉันเพิ่มเพื่อนผิดคน?"
ไห่ถงบ่นพึมพำกับตัวเอง พยายามนึกให้ออกว่าเพิ่มบัญชีวีแชทผิดหรือไม่
เธอแน่ใจว่าไม่ได้เพิ่มผิดบัญชีในตอนนั้น ตอนนี้พวกเขาสองคนไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว มีความเป็นไปได้ทางเดียวเท่านั้นคือจ้านหยินลบเธอออกไป
เขาลืมไปหรือเปล่าว่าพวกเขาเพิ่งแต่งงานกัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังวิวาห์ฟ้าแลบ ฉันก็กลายเป็นภรรยาคนโปรดของมหาเศรษฐี