หลินไป๋หลัน นิยาย บท 105

# พรรคจันทรา

"เสี่ยวหลัน ทำไมเจ้าถึงยังไม่ฟื้นขึ้นมาพี่คิดถึงเจ้ามากรู้หรือไม่ หรือว่าเจ้ามัวแต่ไปท่องเที่ยวโลกในฝันของเจ้าจนเพลินหืม..." หนานเหวินหลงเอ่ยเสียงนุ่มนวลชวนฟังขณะที่นอนกอดร่างบางเอาไว้แนบกาย เขานอนกอดนางเช่นนี้แล้วหลับไปด้วยกันทุกค่ำคืน แม้แต่ตอนกลางวันยังเฝ้าวนเวียนพูดคุยกับนางอยู่ไม่ห่าง ส่วนงานต่าง ๆ ที่เขาเคยทำนั้นท่านตาเป็นคนอาสาทำแทนทั้งหมด จึงมีเวลาว่างดูแลนางทั้งกลางวันละยามกลางคืน

หนานเหวินหลงเข้ามานอนกับคนตัวเล็กของตนทุกคืนตลอดกว่าหนึ่งปีแล้วนางยังไม่ยอมตื่นขึ้นมาอีก ท่านหมอเทวดาหม่าเข้ามาดูอาการของนางท่านบอกว่านางอยู่ในระยะฟื้นตัวและจะตื่นขึ้นมาเองแต่บอกไม่ได้ว่าเมื่อใด นางนอนอยู่บนเตียงร่างกายเหมือนคนนอนหลับทุกอย่างชีพจรก็เต้นคงที่ดีแล้ว

ตอนนี้ร่างกายของนางมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง นางสูงขึ้นและดูเติบโตขึ้นจากเมื่อก่อนนางมีแก้มกลมน่าหยิกแต่ตอนนี้ใบหน้าของนางเรียวเล็กได้รูปมากแกล้มที่เคยมีก็หายไปหมด ทั้งหน้าอกเอวสะโพกล้วนมีการเปลี่ยนแปลงไปทั้งสิ้นที่เขารู้ก็เพราะทุกส่วนบนเรือนร่างของนางนั้นเขาเป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

"ตื่นขึ้นมาไว ๆ นะเสี่ยวหลันของพี่ พี่อยากฟังเสียงของเจ้าแล้วมันช่างเงียบเหงามากเลยรู้หรือไม่" หนานเหวินหลงเอ่ยพูดกับนางเช่นนี้ทุกครั้ง ทุกวันและหลับไปพร้อมกับอ้อมกอดของเขาที่กอดนางเอาไว้ และคอยเฝ้าวนเวียนดูแลอยู่ไม่ห่างแต่ก็ไม่ลืมที่จะไปยังร้านหอมหมื่นลี้ที่นางสั่งนักสั่งหนาว่าให้ไปเติมน้ำแข็งใส่ถังอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง

# วิมานส่วนตัวของท่านเทพปาเจียว

"หลานปู่เหตุใดถึงยังไม่กลับเข้าร่างของเจ้าอีกตอนนี้เจ้าก็แข็งแรงดีแล้วนี่" เทพปาเจียวเอ่ยถามหลานสาว

ในคราแรกดวงวิญญาณของนางอ่อนแสงลงเพราะใช้ธาตุมืดสูบกินพลังและพิษเข้าไปมากมาย นางใช้พลังเกินขีดจำกัดไปมากจึงทำให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อพลังที่กลืนกินมาได้ พลังปราณภายในจึงแปรปรวน

เขาต้องรีบนำดวงวิญญาณของนางออกมาเพื่อรักษา จากนั้นนำพลังธาตุมืดอันมหาศาลถ่ายเข้าไปไว้ในกำไรหยกเขียวกักเก็บธาตุที่ตนเคยให้ไว้ จากตอนแรกที่มันเป็นสีเขียวตอนนี้อัดแน่นไปด้วยธาตุมืดจนกลายเป็นสีดำไปแล้ว และนางก็ฟื้นคืนสติมาได้หลายชั่วยามแต่ยังไม่ยอมกลับเข้าร่างของตน

"โธ่...ท่านปู่เจ้าขา...นาน ๆ หลานจะได้ขึ้นมายังวิมานฉิมพลีของท่านปู นี่ถ้าไม่ตายไม่ได้มาเยือนนะเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับทำหน้าทะเล้น นางเพิ่งฟื้นขึ้นมาไม่กี่ชั่วยามเองอยู่ต่ออีกนิดหน่อยคงไม่เป็นไร อีกอย่างนางก็คิดถึงท่านปู่เทพเพราะไม่ได้เจอท่านนานแล้ว

"ยังจะมาพูดเล่นอีก ทางครอบครัวของเจ้าคงจะคิดถึงเจ้าแย่แล้วกระมัง" เทพปาเจียวเอ่ยบอกหลานสาว

"หลานเพิ่งมาได้ไม่นานเองคงยังไม่มีใครคิดถึงหรอกเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยนางฟื้นขึ้นมาและรวมกับตอนรักษาตัวก็ประมาณหนึ่งวันกว่า ๆ เท่านั้นเอง นางยังอยากพักผ่อนบนวิมานของท่านปู่และอยู่พูดคุยเป็นเพื่อนท่านปู่อีกสักสองสามวัน เพื่อเป็นการตอบแทนที่ท่านช่วยเหลือนางเอาไว้ไม่ให้ตายอีกรอบ

"เอ่อ...ปู่ลืมบอกไปเลยว่าเวลาบนโลกนี้กับโลกมนุษย์ไม่เท่ากัน หลานมาอยู่ที่นี่หนึ่งวันเท่ากับบนโลกมนุษย์หนึ่งปี..." เทพปาเจียวที่เพิ่งนึกได้ว่าลืมบอกหลานสาวเรื่องเวลาเสียสนิทเพราะนางมัวแต่ชวนเขาคุยนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย

"ห๊า!!...หนึ่งปี...ตาย ๆ ๆ..." ไป๋หลันลุกพรวดอ้าปากค้างจนผลไม้ที่นางกัดกินอยู่ล่วงออกจากปาก

'หนึ่งวันเท่ากับหนึ่งปีเชียวหรือ แล้วทางนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างเนี่ย...ท่านปู่นะท่านปู่ขี้หลงขี้ลืมอีกแล้ว' ไป๋หลันบ่นในใจ

เทพปาเจียวที่ได้ยินสิ่งที่หลานสาวคิดก็พลันขบขันจึงรีบเอ่ยเย้านางออกไป "ใจเย็น ๆ ปู่จะส่งเจ้ากลับไปประเดี๋ยวนี้เลย เอ๊ะ...หรือว่าอยากอยู่ต่ออีกสักสองสามวันหึ..หึ.."

"หลานก็อยากอยู่ต่อนะเจ้าคะ แต่กลัวกลับไปแล้วจะแก่เกินแกงก็เวลามันช่างไวเหลือเกินนี่เจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยพลางคิดในใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน