หลินไป๋หลัน นิยาย บท 104

สรุปบท บทที่ 104 แยกย้ายทำหน้าที่ของตน: หลินไป๋หลัน

บทที่ 104 แยกย้ายทำหน้าที่ของตน – ตอนที่ต้องอ่านของ หลินไป๋หลัน

ตอนนี้ของ หลินไป๋หลัน โดย ไป๋หลัน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 104 แยกย้ายทำหน้าที่ของตน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ส่วนบุตรชายที่มีโอกาสได้พบประมุขหนานจึงเอ่ยถามความจริงทั้งหมดแล้ว ประมุขหนานขอร้องว่าให้พวกตนอยู่ที่เมืองหลวงเผื่อมีเหตุการณ์ขับขันเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือทัน ส่วนเรื่องยุ่งยากทั้งหมดเขาจะเป็นผู้จัดการเองและรับรองความปลอดภัยของบุตรสาวเป็นอย่างดีเขาจึงเบาใจ

"เจ้าค่ะ ท่านพี่" อู๋เหยาเอ่ยรับคำแต่ในใจก็อดกังวลไม่ได้ บุตรสาวไปร่ำเรียนหลายเดือนแล้วยังไม่ติดต่อกลับมาเลย

# ยามไห่(21.00-22.59)

หนานเหวินหลง หนานเฟยเทียนและเหอซิ่นเฉิงได้เดินทางกลับหมู่บ้านชายแดนกันอย่างปลอดภัยทางหุบเขาพิษไม่คิดว่าพวกตนจะบุกเข้าไปจึงไม่ได้ป้องกันมากเท่าไรจึงง่ายต่อการเข้าโจมตี การกวาดล้างเป็นไปโดยง่ายและรวดเร็วคงเพราะมีเฟยเฟยที่ช่วยได้มากทีเดียว เพียงไม่นานหุบเขาพิษก็เหลือเพียงชื่อไม่สามารถไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครได้อีก

"เสี่ยวหลันเป็นอย่างไรบ้าง" หนานเหวินหลงเอ่ยถามมีมี่ที่นั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ

"ท่านประมุข...หลันหลันยังไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ ชีพจรยังเต้นไม่ปกติเลยเจ้าค่ะ" มีมี่เอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าสลด

"เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้าจะอยู่กับนางเอง'' หนานเหวินหลงเอ่ย ถึงตนจะเหนื่อยสักเพียงใดแต่ในเมื่อคนตัวเล็กยังนอนไม่ได้สติแบบนี้ เขาก็ไม่อาจทำใจให้ผ่อนคลายลงได้

"เจ้าค่ะ" มีมี่เดินออกมาแล้วตรงไปหาเย่วซินที่อยู่กระโจมถัดไปอีกหลังหนึ่งทันที

หนานเหวินหลงนั่งลงข้างร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้างามยามนี้หลับตานิ่งช่างดูสงบเงียบเกินไปไม่เหมาะกับนางเลยจริง ๆ หนานเหวินหลงเอื้อมมือเกลี่ยปรอยผมด้านข้างเบา ๆ อย่างทะนุถนอม แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล

"ตื่นขึ้นมาไว ๆ นะพี่อยากฟังเสียงของเจ้าแล้ว" หนานเหวินหลงเอ่ยกระซิบเบา ๆ แล้วขยับร่างสูงของตนนอนลงข้างร่างเล็กแล้วโอบกอดนางเอาไว้ประหนึ่งว่าอยากมอบความอบอุ่นให้แก่นางจากนั้นไม่นานก็หลับใหลไปพร้อมกับร่างเล็กด้วยความเหนื่อยล้า

# เช้าวันรุ่งขึ้น

เย่วซินและมีมี่ เข้ามาดูอาการสหายหลังจากประมุขหนานออกไปแล้ว ทั้งสองช่วยกันเช็ดตัวและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่ เสร็จแล้วก็ออกมาตรวจอาการคนเจ็บด้านนอกต่อ เหล่าสตรีที่ถูกช่วยออกมาจะถูกส่งตัวกลับบ้านในวันนี้ โดยมีองค์ไท่จื่อคอยช่วยเหลือสั่งการให้ทหารของพระองค์เป็นผู้ดูแล ส่วนสตรีอีกจำนวนหนึ่งที่บอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจยังคงต้องรักษาตัวต่อไปอีกสักสองสามวันเพราะมีมี่ต้องการปรับเปลี่ยนความคิดในการใช้ชีวิตไม่ให้พวกนางกลายเป็นคนซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตายจากอดีตที่เลวร้าย

"มีมี่เจ้าจะกลับเมือหลวงเมื่อใดหรือ?" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยถามเมื่อเห็นนางกำลังนั่งพักหลังจากตรวจคนเจ็บเสร็จ

"ยังไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ หลันหลันก็ยังไม่ฟื้น" มีมี่เอ่ยตอบ นางมืดแปดด้านไปหมดไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี

"นั่นสิ ไป๋หลันก็ยังไม่ฟื้นเลย" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ ตนก็เป็นห่วงนางอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

"เย่วซินเจ้าว่าเราควรทำอย่างไรกันดีหรือ?" มีมี่หันไปถามเย่วซินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

"รอดูอีกสักสองสามวัน ถ้านางยังไม่ฟื้นเราคงต้องปรึกษากับท่านประมุขหนานว่าจะทำเช่นไรต่อไป" เย่วซินเอ่ย เพราะนางต้องอยู่รักษาคนเจ็บและส่งพวกเขากลับบ้านอยู่แล้ว แต่ถ้าสหายยังไม่ฟื้นคงต้องถามคู่หมั้นของนางด้วยเช่นกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"อืม...ก็ดีเหมือนกันรอดูไปก่อน" มีมี่เอ่ยแล้วหันไปถามเหอซิ่นเฉิง "พี่เฉิงจะนำทัพกลับเมืองหลวงวันไหนหรือเจ้าคะ"

"องค์ไท่จื่อยังไม่มีคำสั่งเลย" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยบอกมีมี่

องค์ไท่จื่อก็ทรงห่วงใยไป๋หลันมากเช่นกันยังคงเข้าออกดูอาการอย่างใกล้ชิด แม้ประมุขหนานจะออกอาการหึงหวงบ้างก็ตาม แต่ตนรู้นิสัยของสหายสูงศักดิ์ผู้นี้ดีว่า พระองค์ทรงรักนางเหมือนสหายสนิทและน้องสาวคนหนึ่งเพียงเท่านั้น

“เอาเช่นนั้นก็ได้...หวังว่านางจะฟื้นมาโดยเร็ว” อี้หลางเอ่ยพลางถอนหายออกมาสายตาจับจ้องร่างเล็กที่นอนไร้สติด้วยความห่วงใย

“ยายจะสั่งให้สาวใช้มาคอยดูแลนางเจ้าก็พักผ่อนบ้างเถอะอาหลง” หลิงเซียงเอ่ยบอกหลานชายที่ยามนี้ดูซูบเซียวลงมาก

“หลานจะแลนางเองขอรับ นางตื่นขึ้นมาจะได้เจอหลานเป็นคนแรก” หนานเหวินหลงไม่ยอมให้ผู้ใดมาเฝ้าดูแลเขาจะเป็นคนดูแลคู่หมั้นของเขาเองเพียงผู้เดียว

“ตามใจเจ้าแล้วกัน เช่นนั้นเราออกไปกันเถิดปล่อยให้อาหลงพักผ่อนก่อน” อี้หลางเอ่บบอกภรรยาของตนจากนั้นก็ออกจากห้องไปทันที

หนานเหวินหลงมองร่างเล็กบนเตียงจากนั้นก็เดินไปด้านหลังฉากกั้นอาบน้ำพลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของตนเรียบร้อย จากนั้นก็ยกอ่างน้ำพร้อมผ้าผืนเล็กเพื่อมาเช็ดเนื้อตัวให้คู่หมั้นของตน หนานเหวินหลงปรนิบัติคู่หมั้นเป็นอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด...

# หนึ่งปีกว่าๆผ่านไป

มีมี่และเย่วซินยังคงอาศัยอยู่ที่สำนักเซียนเพื่อศึกษาหาความรู้ และบางครั้งก็ลงเขาไปรักษาชาวบ้านหนึ่งถึงสองเดือนถึงจะกลับมาที่สำนักสักครั้งหนึ่ง และพวกนางต้องยังคอยสอนบรรดาศิษย์น้องที่สำนักอยู่เป็นประจำ

พวกนางทั้งจะคอยแวะเวียนไปเยี่ยมไป๋หลันที่พรรคจันทราอาทิตย์ละหนึ่งครั้งโดยมีเฟยเฟยอาสาพาไปจึงสะดวกและรวดเร็ว เวลาล่วงเลยมาหนึ่งปีกว่าแล้วพวกนางคงต้องกลับจวนเร็ว ๆ นี้ เพราะบ่ายเบี่ยงมาหลายครั้งแล้วคงต้องถึงเวลาบอกความจริงกับท่านแม่เสียที แต่อย่างไรพวกนางก็เชื่อว่าสหายจะต้องฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอน

ส่วนท่านพ่อและพี่ชายบุญธรรมของพวกนางนั้นท่านประมุขหนานเอ่ยบอกความจริงเรื่องที่สหายนอนไม่สติตั้งแต่หนึ่งเดือนแรกแล้ว เพราะทั้งสองคนรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมามากพอสมควร แต่ทั้งสองก็ยังช่วยกันปกปิดท่านแม่เพราะกลัวว่าท่านกังวลมากมากเกินไปจนป่วยไข้ไปอีกคน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน