ส่วนบุตรชายที่มีโอกาสได้พบประมุขหนานจึงเอ่ยถามความจริงทั้งหมดแล้ว ประมุขหนานขอร้องว่าให้พวกตนอยู่ที่เมืองหลวงเผื่อมีเหตุการณ์ขับขันเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือทัน ส่วนเรื่องยุ่งยากทั้งหมดเขาจะเป็นผู้จัดการเองและรับรองความปลอดภัยของบุตรสาวเป็นอย่างดีเขาจึงเบาใจ
"เจ้าค่ะ ท่านพี่" อู๋เหยาเอ่ยรับคำแต่ในใจก็อดกังวลไม่ได้ บุตรสาวไปร่ำเรียนหลายเดือนแล้วยังไม่ติดต่อกลับมาเลย
# ยามไห่(21.00-22.59)
หนานเหวินหลง หนานเฟยเทียนและเหอซิ่นเฉิงได้เดินทางกลับหมู่บ้านชายแดนกันอย่างปลอดภัยทางหุบเขาพิษไม่คิดว่าพวกตนจะบุกเข้าไปจึงไม่ได้ป้องกันมากเท่าไรจึงง่ายต่อการเข้าโจมตี การกวาดล้างเป็นไปโดยง่ายและรวดเร็วคงเพราะมีเฟยเฟยที่ช่วยได้มากทีเดียว เพียงไม่นานหุบเขาพิษก็เหลือเพียงชื่อไม่สามารถไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครได้อีก
"เสี่ยวหลันเป็นอย่างไรบ้าง" หนานเหวินหลงเอ่ยถามมีมี่ที่นั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ
"ท่านประมุข...หลันหลันยังไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ ชีพจรยังเต้นไม่ปกติเลยเจ้าค่ะ" มีมี่เอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าสลด
"เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้าจะอยู่กับนางเอง'' หนานเหวินหลงเอ่ย ถึงตนจะเหนื่อยสักเพียงใดแต่ในเมื่อคนตัวเล็กยังนอนไม่ได้สติแบบนี้ เขาก็ไม่อาจทำใจให้ผ่อนคลายลงได้
"เจ้าค่ะ" มีมี่เดินออกมาแล้วตรงไปหาเย่วซินที่อยู่กระโจมถัดไปอีกหลังหนึ่งทันที
หนานเหวินหลงนั่งลงข้างร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้างามยามนี้หลับตานิ่งช่างดูสงบเงียบเกินไปไม่เหมาะกับนางเลยจริง ๆ หนานเหวินหลงเอื้อมมือเกลี่ยปรอยผมด้านข้างเบา ๆ อย่างทะนุถนอม แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนนุ่มนวล
"ตื่นขึ้นมาไว ๆ นะพี่อยากฟังเสียงของเจ้าแล้ว" หนานเหวินหลงเอ่ยกระซิบเบา ๆ แล้วขยับร่างสูงของตนนอนลงข้างร่างเล็กแล้วโอบกอดนางเอาไว้ประหนึ่งว่าอยากมอบความอบอุ่นให้แก่นางจากนั้นไม่นานก็หลับใหลไปพร้อมกับร่างเล็กด้วยความเหนื่อยล้า
# เช้าวันรุ่งขึ้น
เย่วซินและมีมี่ เข้ามาดูอาการสหายหลังจากประมุขหนานออกไปแล้ว ทั้งสองช่วยกันเช็ดตัวและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่ เสร็จแล้วก็ออกมาตรวจอาการคนเจ็บด้านนอกต่อ เหล่าสตรีที่ถูกช่วยออกมาจะถูกส่งตัวกลับบ้านในวันนี้ โดยมีองค์ไท่จื่อคอยช่วยเหลือสั่งการให้ทหารของพระองค์เป็นผู้ดูแล ส่วนสตรีอีกจำนวนหนึ่งที่บอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจยังคงต้องรักษาตัวต่อไปอีกสักสองสามวันเพราะมีมี่ต้องการปรับเปลี่ยนความคิดในการใช้ชีวิตไม่ให้พวกนางกลายเป็นคนซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตายจากอดีตที่เลวร้าย
"มีมี่เจ้าจะกลับเมือหลวงเมื่อใดหรือ?" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยถามเมื่อเห็นนางกำลังนั่งพักหลังจากตรวจคนเจ็บเสร็จ
"ยังไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ หลันหลันก็ยังไม่ฟื้น" มีมี่เอ่ยตอบ นางมืดแปดด้านไปหมดไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี
"นั่นสิ ไป๋หลันก็ยังไม่ฟื้นเลย" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ ตนก็เป็นห่วงนางอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
"เย่วซินเจ้าว่าเราควรทำอย่างไรกันดีหรือ?" มีมี่หันไปถามเย่วซินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
"รอดูอีกสักสองสามวัน ถ้านางยังไม่ฟื้นเราคงต้องปรึกษากับท่านประมุขหนานว่าจะทำเช่นไรต่อไป" เย่วซินเอ่ย เพราะนางต้องอยู่รักษาคนเจ็บและส่งพวกเขากลับบ้านอยู่แล้ว แต่ถ้าสหายยังไม่ฟื้นคงต้องถามคู่หมั้นของนางด้วยเช่นกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป
"อืม...ก็ดีเหมือนกันรอดูไปก่อน" มีมี่เอ่ยแล้วหันไปถามเหอซิ่นเฉิง "พี่เฉิงจะนำทัพกลับเมืองหลวงวันไหนหรือเจ้าคะ"
"องค์ไท่จื่อยังไม่มีคำสั่งเลย" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยบอกมีมี่
องค์ไท่จื่อก็ทรงห่วงใยไป๋หลันมากเช่นกันยังคงเข้าออกดูอาการอย่างใกล้ชิด แม้ประมุขหนานจะออกอาการหึงหวงบ้างก็ตาม แต่ตนรู้นิสัยของสหายสูงศักดิ์ผู้นี้ดีว่า พระองค์ทรงรักนางเหมือนสหายสนิทและน้องสาวคนหนึ่งเพียงเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...