หลินไป๋หลัน นิยาย บท 32

เมื่อมองใบหน้านั้นชัด ๆ ก็ต้องตกใจอีกรอบพร้อมกับร้องเอ่ยออกมาเสียงดัง "พี่หลง!!" ไป๋หลันเอ่ยขึ้นอย่างตกใจพร้อมกับพยายามเด้งตัวให้ลุกขึ้นแต่เขากับกอดนางเอาไว้แน่นจนลุกไม่ได้

"เสี่ยวหลันเจ้าจะเสียงดังไปใย อยากให้คนในบ้านเจ้าตื่นขึ้นมาเช่นนั้นหรือ" หนานเหวินหลงเอ่ยดุคนในอ้อมแขนที่ส่งเสียงดัง นางคงตกใจมิใช่น้อยที่เจอเขานอนอยู่เช่นนี้ ใครอยากใช้ให้นางไม่ระมัดระวังเองถือเป็นบทเรียนสำหรับนาง

"พี่หลงท่านเข้ามาได้อย่างไรท่านปล่อยข้าก่อน" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับขยับตัวหวังให้คนตรงหน้าคลายอ้อมแขนที่กอดรัดนางเสียแน่น

"เป็นเจ้าที่กอดข้าแน่นเมื่อคืนนี้จนข้าขยับตัวไม่ได้ข้าย่อมต้องเอาคืนบ้าง" หนานเหวินหลงเอ่ยขึ้นมาอย่างหน้าตาย เป็นเขาเองที่ยอมให้นางกอดและอยากอยู่แบบนี้ให้นานยิ่งขึ้นไปอีก จากไปครานี้เขาจะว่างมาหานางเมื่อไรอีกก็ยังไม่รู้

"เอาที่สบายใจเลยข้าขี้เกียจเถียงกับท่านแล้ว แล้วท่านแอบเข้ามาในห้องข้ามีธุระอันใดหรือ" ถ้านางเถียงกับเขายันเช้าก็ไม่จบ เพราะเขาดูท่าแล้วจะแถเก่งไม่เบา นางจึงเอ่ยถามธุระให้มันจบ ๆ ไป

"ข้ามาบอกเจ้าว่าข้าจะต้องกลับไปสะสางงานบางอย่างวันนี้คงไม่ได้ไปที่ศูนย์ของเจ้า ถ้าเสร็จงานแล้วจ้าจะรีบกลับมา" หนานเหวินหลงเอ่ยขณะที่ตนเองกำลังกอดคนตัวเล็กเอาไว้ เขารู้จักกับนางเพียงไม่กี่วันแต่ทำไมถึงรู้สึกอยากอยู่ใกล้ และคิดถึงนางเช่นนี้

นี่เขาเรียกว่าความรักเช่นนั้นหรือ? ต้องใช่แน่ ๆ

"เจ้าค่ะ" นางตอบออกไปสั้น ๆ พลางคิดว่า

'พี่หลงชอบนางเช่นนั้นหรือ ต้องใช่แน่ ๆ !!

"แค่นั้นเองหรือ เจ้าไม่คิดจะเอ่ยคำอื่นบ้างเลยหรือเสี่ยวหลัน"

"ก็ข้าไม่รู้จะเอ่ยคำใดนี่เจ้าคะพี่หลง ท่านต้องไปทำงานของท่านถึงข้าจะมิอยากให้ท่านไป ท่านก็ต้องไปอยู่ดี " จะให้นางพูดอะไรได้ มีพบย่อมมีพราก มีจากย่อมต้องมีเจอเป็นเรื่องปกติ

"ถ้าเช่นนั้นเจ้าสัญญากับข้าได้หรือไม่ว่าจะรอข้ากลับมา…" หนานเหวินหลงเอ่ยพร้อมกับคลายอ้อมกอดลุกขึ้นมองคนตัวเล็ก

"ได้ข้าสัญญาก็ได้" ไป๋หลันลุกขึ้นนั่งพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยออกมา

"คืออะไรหรือ" หนานเหวินหลงเอ่ยอย่างสงสัย

"ทำสัญญาอย่างไรเล่าเจ้าคะ ท่านยื่นนิ้วก้อยของท่านมาเกี่ยวกับข้าไว้ แล้วเอานิ้วหัวแม่มือมาประกบกันอย่างนี้เจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับจับมือพี่หลงให้ทำตาม

"แบบนี้เขาเรียกว่าทำสัญญาหรือ" เขาไม่เคยรู้มาก่อนคงมีแต่นางที่ทำแบบนี้

"ใช่แล้วเจ้าค่ะ ท่านรีบไปได้แล้ว อีกสักครู่ฟ้าจะสางแล้ว" นางเอ่ยถ้าไม่ไล่เขาคงยังไม่ยอมกลับไปโดยง่าย วันนี้มาแปลกพูดจาหวานเลี่ยนพิลึก

"เช่นนั้นข้าต้องไปก่อน ดูแลรักษาตัวให้ดีข้าเป็นห่วง" หนานเหวินหลงเอ่ยพร้อมกับเดินไปที่หน้าต่างเตรียมตัวจากไป

"ท่านก็เช่นกันนะเจ้าคะ บ๊าย บาย เจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ยลาพร้อมกับโบกมือให้คนตรงหน้า พลางคิดในใจ

'ต่อไปนี้นี้คงต้องใส่กลอนให้แน่นหนาเสียแล้วเข็ดจนวันตาย ดีนะที่พี่หลงนับว่าเป็นคนดีอยู่มิน้อยที่ไม่ได้ล่วงเกินมากไปกว่านี้'

หนานเหวินกระโดดออกทางหน้าต่างหายวับไปด้วยวิชาตัวเบาขั้นสูงเคล็ดลับวิชาของพรรคจันทรา ก็ได้เดินทางมาหาท่านตาและท่านยาย เพื่อบอกกล่าวเรื่องที่ตนต้องเดินทางกลับพรรคจันทราเพื่อสะสางบางเรื่อง ให้ท่านทั้งสองอยู่ที่ศูนย์พักพิงไปสักระยะหนึ่งก่อนแล้วเขาจะกลับมาหา เมื่อพูดคุยเสร็จเรียบร้อยหนานเหวินหลงก็ดีดตัวพุ่งออกไปทันที

เช้าวันรุ่งขึ้นไป๋หลันเดินทางไปยังศูนย์พักพิงดังเช่นทุกวัน ระหว่างทางได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันเรื่องคุณหนูเหอเพ่ยอิงที่โดนไฟไหม้ร่างกายบาดเจ็บสาหัส แต่ท่านเจ้าเมืองไม่ได้ติดประกาศหาหมอเก่ง ๆ มารักษาอย่างเช่นเคย และเดินผ่านบุรุษสองคนที่กำลังคุยกันเรื่องการคัดเลือกศิษย์อะไรสักอย่างนางจึงเอ่ยถามบุรุษทั้งสองคน

"พี่ชายข้าได้ยินท่านทั้งสองคุยกันเรื่องการคัดเลือกศิษย์ คืออะไรหรือเจ้าคะ"

"อ๋อ การคัดเลือกศิษย์ปีนี้มีหลายสำนักเข้าร่วมเพื่อคัดเลือกศิษย์เข้าสำนักของตน งานคัดเลือกศิษย์ในปีนี้จะจัดขึ้นในอีกสี่เดือนข้างหน้า รับตั้งแต่อายุสิบสองปีถึงอุสิบหกปี ถ้าเจ้าสนใจก็เดินทางไปคัดเลือกสิเผื่อจะโชคดีได้เข้าร่วมสำนักใหญ่" บุรุษคนหนึ่งเอ่ยตอบ

"แล้วการคัดเลือกศิษย์จะจัดขึ้นที่ใดหรือเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถามต่อ

" ปีนี้จะจัดขึ้นที่สำนักเหลียงซาน สำนักอันดับหนึ่งมีทั้งสายฝึกยุทธ์และสายปรุงยามีลูกศิษย์เก่ง ๆ มากมายยิ่งนัก"

"ขอบคุณพี่ชายทั้งสองมากเจ้าค่ะที่เสียเวลาตอบคำถามข้า" ไป๋หลันเอ่ยขอบคุณพร้อมกับโค้งศีรษะเล็กน้อยให้บุรุษทั้งสอง

"ไม่เป็นไรหรอกถ้าเจ้าสนใจก็อย่าลืมลองไปคัดเลือกดูเสีย" บุรุษตรงหน้าเอ่ยพร้อมกับเดินจากไปทันที

ไป๋หลันครุ่นคิดเกี่ยวกับงานคัดเลือกศิษย์ จริง ๆ นางก็อยากไปดูว่ามันเป็นเช่นไรเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่โลกแห่งนี้ก็ยังไม่ได้ออกเดินทางไปที่ใดเลย แต่นางไม่อยากไปสอบคัดเลือก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน