# จวนเจ้าเมืองเหอจื่อหมิง
หนานเฟยเทียนที่ออกจากจวนตั้งแต่ยามสายเดินเที่ยวเล่นในตลาด ลิ้มลองอาหารพื้นบ้านที่เขาไม่ค่อยได้กินบ่อยนักเพราะอยู่ในวังก็กินแต่อาหารชาววังช่างน่าเบื่อ เมื่อเดินทางกลับมายังจวนก็พบกับสหายยืนรออยู่
"คุณชายเฟยเทียนท่านออกไปเที่ยวที่ใดมาหรือ? ถึงได้กลับมาเสียมืดค่ำเมืองนี้มีอะไรให้น่าเที่ยวกัน" เหอซิ่นเฉิงเอ่ย สหายของตนนั้นอายุก็ย่างเข้ายี่สิบปีแล้วแต่ยังเที่ยวซุกซนเหมือนเด็กอยู่อีก
"ข้าก็เดินเที่ยวอยู่ในตลาดและหาของอร่อย ๆ กินอย่างไรเล่า แล้วน้องสาวของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ข้ามิกล้าเข้าไปเยี่ยมกลัวว่านางจะรู้สึกไม่ดีที่มีคนภายนอกเข้าไป" หนานเฟยเทียนเอ่ยที่เขาไม่เข้าไปเยี่ยมน้องสาวของสหายเพราะกลัวว่านางจะอับอายที่มีคนอื่นมาเห็นสภาพอันไม่น่ามองเช่นนี้
"ข้าก็อยากปรึกษาท่านเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน นางช่างน่าสงสารยิ่งนักข้ามิอาจทนเห็นนางทุกข์ทรมานเช่นนี้ได้ " เหอซิ่นเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองด้วยความที่สงสารน้องสาวสุดหัวใจ
"เช่นนั้นเจ้าจะให้ข้าช่วยเหลือสิ่งใดก็บอกมาถ้าข้าสามารถช่วยได้ข้ายินดีทำ" หนานเฟนเทียนเอ่ย เขารับปากกับสหายเอาไว้แล้วว่าจะทำตามในสิ่งที่ร้องขอเพื่อแลกกับการช่วยพาตนเองหลบหนีออกจากเมืองหลวง
"ท่านพอจะหาหมอฝีมือดีหรือมียารักษาแผลที่สามารถทำให้ผิวของนางกลับมาหายเป็นปกติได้หรือไม่" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยสหายของตนเป็นถึงองค์ไท่จื่อแห่งแคว้นคงจะมียาดี ๆ อยู่มิใช่น้อย ตนเองก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาผู้ใดนอกจากสหายผู้เดียวเท่านั้น
"หมอฝีมือดีก็พอมีแต่อยู่ที่เมืองหลวงคงต้องใช้เวลาเดินทางหลายวันเพราะพวกเขามิเป็นวรยุทธ์ แต่ยาดี ๆ ข้าพอมีติดกายเอาไว้บ้าง คงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่จะให้หายเป็นปกติคงมิได้ถ้าแผลนั้นสาหัสเกินไป" หนานเฟยเทียนเอ่ยพร้อมกับหยิบตลับยาในแหวนมิติ
แต่!!เขาเพิ่งจะคิดได้ว่าไม่มียาแล้ว
"มีเรื่องอันใดหรือ?ทำไมท่านถึงได้ทำหน้าเช่นนั้น"
"ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามอบยาตลับนั้นให้เด็กสาวผู้หนึ่งที่นางเดินมาชนข้าจนเท้าได้รับบาดเจ็บ"
"เด็กสาวเช่นนั้นหรือแล้วจะทำเช่นไรดีเราไปขอคืนจากนางได้หรือไม่นางคงจะยอมคืนให้ถ้าเราบอกถึงความจำเป็นที่ตัองใช้ยาตลับนั้น" เหอซิ่นเฉิงเอ่ยอย่างร้อนรน ยาตลับนั้นมีความหมายต่อน้องสาวของตนมากต่อให้ต้องคุกเข่าขอร้องเขาก็ทำได้
"ขอยาคืนมันได้อยู่หรอกแต่ข้าไม่ทราบว่านางอยู่ที่ใด อ้อ!! แต่นางมีนามว่าไป๋หลัน" หนานเฟยเทียนเอ่ย นางบอกแต่ชื่อมิได้บอกสกุลให้ทราบแต่คงหาได้ไม่ยาก
"ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราลองไปถามชาวบ้านดูว่ามีใครพอที่จะรู้จักนางบ้าง" เหอซิ่นเฉิงเอ่ย
"ได้พรุ่งนี้เราจะออกไปตามหานางกัน"
เมื่อทั้งสองปรึกษากันเรียบร้อยก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เหอซิ่นเฉิงเข้าไปแจ้งข่าวให้ท่านพ่อได้ทราบว่าองค์ไท่จื่อจะตาหมอหลวงมารักษาน้องสาว ระหว่างรอหมอหลวงมานั้นจะให้นางทายาบรรเทาอาการเจ็บปวดไปก่อน แต่ยาตลับนั้นอยู่กับเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งเขาต้องออกไปตามหาในวันพรุ่งนี้ เมื่อพูดคุยเสร็จก็กลับเข้าห้องพักผ่อน
# ศูนย์พักพิง ปลายยามเฉิน
วันนี้ไป๋หลันแจ้งข่าวกับชาวบ้านว่าอีกเจ็ดวันข้างหน้าจะมีพิธีเปิดศูนย์พักพิงอย่างเป็นทางการและจะเรียกศูนย์แห่งนี้ว่า ' ศูนย์พักพิงบ้านหลันฮวา ' ชาวบ้านที่ได้ฟังต่างก็ชื่นชมยินดีและตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้การจัดระเบียบภายในศูนย์ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ทุกคนให้ความร่วมมือและถ้อยอาศัยกัน แต่ก็ยังมีบางคนที่ออกไปขอทานตามเดิมผู้ใหญ่ตงคอยดูแลและพูดคุยกับชาวบ้านเสมอให้มีน้ำใจและแบ่งปันกัน ถ้าใครทำผิดกฎอาจตั้งโดนลงโทษตามความเหมาะสม ชาวบ้านต่างเข้าใจและปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด
ไป๋หลันและชาวบ้านที่ทำจักสานกำลังนำผักตบชวาที่ตากแห้งเข้าตู้อบกำมะถันเพื่อป้องกันการขึ้นราและคงสภาพให้คงทนมากขึ้น
ชาวบ้านนำผักตบชวาไปวางบนชั้นที่มีทั้งหมดห้าชั้นส่วนชั้นล่างสุดนำถ่านที่จุดไฟติดแล้วใส่ถาดวางไว้แล้วโรยผงกำมะถันลงไปแล้วปิดตู้อบทิ้งไว้หนึ่งวัน จากนั้นก็ให้ชาวบ้านลงไปตัดผักตบชวานำมาจากแห้งอีกเพราะการตากแห้งใช้เวลาหลายวันจึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง
# ยามอิ่ว(17.00-18.59)
"นี่ซิ่นเฉิง เรายืนดักรอนางมาพักใหญ่แล้วยังไม่เห็นวี่แววของนางเลย หรือว่าจะไม่ใช่นางกัน" เฟยเทียนเอ่ย พวกเขาสอบถามชาวบ้านว่าพอรู้จักเด็กสาวหน้าตาน่ารัก ตาโต อายุประมาณสิบสามสิบสี่ปีที่มีนามว่าไป๋หลันบ้างหรือไม่ ชาวบ้านบางคนบอกเห็นนางเดินผ่านตลาดทุกวันเช้าและเย็น เขาจึงมายืนดักรอนางแต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...