เฉินหยาง ไป๋หลันและมีมี่ นั่งคุยกันเรื่องร้านคาเฟ่ของพวกตนแบบคร่าวๆตามที่ใจนึกไว้โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง จนกระทั่งมีบุคคลคนหนึ่งมายืนอยู่ด้านข้างของโต๊ะอาหารที่พวกตนนั่งอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมอง
"หลินเฟิ่งจิ่ว!!" เฉินหยางอุทานออกมาอย่างตกใจไม่คิดว่าจะได้เจอคนรู้จักรวดเร็วเช่นนี้ เมืองหลวงออกจะกว้างใหญ่ใยจึงต้องมากินอาหารที่ร้านเดียวกันด้วย
"อ้อ…ที่แท้ก็พวกเจ้านี่เองไม่ได้เจอกันเสียนาน ยังไม่ตายอีกหรือ อุ๊ย...พูดผิดสบายดีหรือ" หลินเฟิ่งจิ่วพูดพร้อมกับลอยหน้าลอยตาอย่างถือดี
"พวกข้าสบายดียังไม่ตาย เชิญพวกเจ้าตามสบาย อย่ามารบกวนพวกข้าเลย" ไป๋หลันเอ่ย จริง ๆ นางอยากจะบอกว่าไปไกล ๆ อย่ามาเสือกแถวนี้ต่างหากแต่ยังยั้งคำพูดเอาไว้ให้เข้ากับยุคสมัยหน่อย
“เช่นนั้นก็ดี ฮึ!" หลินเฟิ่งจิ่วเค้นเสียงออกมาจากลำคอ คอยดูเถอะทำเป็นหยิ่ง เฟิ่งจิ่วเดินกลับมานั่งยังโต๊ะของตนด้วยใบหน้างอง้ำ
"ใครกันหรือเฟิ่งจิ่วดูหล่อเหลายิ่งนัก" หลี่ฟางเซียนเอ่ยถามอย่างสนใจเมื่อเห็นสหายไปยืนพูดคุยกับบุรุษรูปงามที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน
"ญาติผู้พี่ของข้าเอง เจ้าอย่าไปสนใจเลยข้ามองไม่เห็นจะหล่อเหลาตรงไหนสู้องค์ไท่จื่อก็ไม่ได้" หลินเฟิ่งจิ่วเอ่ยอย่างชื่นชม ตนเองนั้นหมายมั่นจะต้องได้ตำแหน่งพระชายามาครอบครองให้ได้
หลินเฉินหยางและสองสาวนั่งกินอาหารและขนมกันโดยมีสายตาของหลี่ฟางเซียนคอยจ้องมองและคอยส่งยิ้มหวานมาให้ จนมีมี่อดเบ้ปากใส่ชายตรงหน้าไม่ได้
“พี่หยางมีสาวสวยส่งยิ้มหวานมาให้ท่านก็ยิ้มไม่หุบเลยนะ" มีมี่เอ่ยแซวพี่ชายบุญธรรม
"พี่ก็แค่ยิ้มตอบตามมารยาทเท่านั้นแหละมี่เอ๋อร์"
"เรารีบกินรีบไปกันเถอะพี่ใหญ่ มีมี่ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ รู้สึกถึงรัศมีอาฆาตฟาดฟันอยู่ตลอดเวลาเลย" ไป๋หลันเอ่ย เมื่อกันไปมองยังโต๊ะเจ้าปัญหาก็พบศัตรูจ้องตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าทุกที
เมื่อกินเสร็จเรียบร้อยก็เรียกจ่ายเงินแล้วรีบเดินออกจากโรงเตี๊ยมทันที พวกนางเดินมายังอาคารตรงมุมถนนกลางตลาดที่ทำเลดีเหมาะแก่การทำร้านคาเฟ่ของตน จึงตกลงซื้อขายกันในราคาสูงลิบลิ่วถึงว่าทำเลดีแต่ไม่มีคนมาเช่าหรือมาซื้อมันเป็นเช่นนี้นี่เอง แต่นางไม่สนใจหรอกเพราะมันเหมาะมากจริง ๆ
ภายในตัวอาคารเป็นพื้นที่โล่งมีสองชั้น ไป๋หลันและมีมี่ เดินสำรวจชั้นล่างและชั้นบน ต่างช่วยกันวาดแบบออกแบบส่วนมากที่พวกนางวาดกันออกมาจะเป็นแนวของโลกเก่าเพราะมันดูทันสมัยแปลกตาดี
เมื่อวางแผนเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินไปยังร้านช่างไม้เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านทันที ไป๋หลันยื่นแบบให้นายช่างดู คราแรกนายช่างสงสัยเพราะมันสวยงามดูแปลกตา แต่ก็ทำไม่ยากเพราะนางอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดและบอกให้นายช่างทำงานชิ้นใหญ่ ๆ ไปก่อน อย่างเช่นทำระแนงด้านหน้าสองข้างเว้นช่องทางเข้าเอาไว้ทำเป็นบานเลื่อนแทนตอนเปิดร้านจะได้ดูโปร่งสบายตา ชั้นสองให้กั้นเป็นห้องสิบห้องโดยแบ่งเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นางจะอธิบายให้ฟังอีกที หลังจากว่าจ้างนายช่างเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกจากร้าน
"พี่ใหญ่ข้าว่าเราเอาโอสถไปขายกันเถอะไม่ได้เอาออกมาขายนานแล้ว" ไป๋หลันเอ่ย เพราะนางเห็นชื่อร้านหอหมื่นโอสถตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตลาดและอีกอย่างหนึ่งเงินของก็พร่องลงไปเยอะมากแล้วด้วย
"แล้วแต่เจ้าเถิดหลันเอ๋อร์" เฉินหยางเอ่ย
เมื่อตกลงกันเรียบร้อยทั้งสามคนก็ก้าวเท้าเดินไปยังร้านหอหมื่นโอสถทันที
"ยินดีต้อนรับขอรับคุณชายคุณหนูทั้งสอง ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้หรือขอรับ" คนงานหน้าร้านเอ่ยถามอย่างนอบน้อม พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายหยกของผู้อาวุโสที่ห้อยอยู่ที่สตรีน้อยนางหนึ่งก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย
"พวกข้านำโอสถมาขายที่นี่รับซื้อหรือไม่เจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...