ทางด้านไป๋หลันที่กำลังต่อสู้กับคนร้ายอยู่สามคนเช่นกันนางเลือกหยิบกระบี่อ่อนเล่มหนึ่งออกมาจากแหวนมิติเพื่อป้องกันตัวเอง นางยอมรับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้จับอาวุธต่อสู้จึงทำได้เพียงยกกระบี่ขึ้นมาปัดป้องตัวเองเพียงเท่านั้น
เมื่อสบจังหวะเหมาะนางจึงใช้ธาตุน้ำแข็งสร้างแท่งน้ำแข็งที่มีปลายแหลมคมหลายสิบแท่ง บังคับให้มันพุ่งเข้าใส่คนร้ายทั้งสามอย่างตรงเป้าไม่มีตกหล่น ทั้งหมดล้มลงกระแทกพื้นกระอักเลือดออกมาพร้อมกับลมหายใจที่หลุดลอยไปอย่างง่ายดายในพริบตา
เมื่อจัดการคนร้ายเสร็จเรียบร้อยไป๋หลันจึงรีบหันหน้าไปทางสหาย เมื่อเห็นว่านางกำลังพลาดท่าถูกมีดสั้นของคนร้ายพุ่งเข้าใส่ในระยะเผาขนนางใบหน้าชาวาบขึ้นมาทันทีแขนขาแข็งเกร็งไม่อาจขยับได้ด้วยความตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น เพราะกลัวว่าจะเสียเพื่อนรักไป พลันมีมีดสั้นเล่มหนึ่งเข้าสกัดเอาไว้ได้ทันจึงทำให้มีดของคนร้ายเปลี่ยนทิศทาง นางพลูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก...
คนร้ายที่เห็นว่ามีกลุ่มทหารเข้ามาช่วยจึงคิดล่าถอย แต่ทันใดนั้นพวกมันสังเกตได้ถึงอากาศที่เปลี่ยนไปจากเดิม ความหนาวเย็นเริ่มคืบคลานเข้ามาสู่ร่างกาย จนไม่สามารถขยับตัวได้พวกมันรับรู้ได้ถึงชะตากรรมต่อจากนี้
ความหนาวเย็นกัดกร่อนภายในร่างกายทำให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ หยุดทำงานกะทันหันร่างล้มลงสิ้นใจทันที ไม่มีแม้แต่เลือดสักหยดที่จะไหลออกมาจากตัวคนร้าย ความตายที่แม้แต่พวกมันก็ไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ!! ด้วยน้ำมือของสตรีน้อยที่มีใบหน้าสวยงามน่ารัก
นางช่างร้ายกาจยิ่งนัก!! ความคิดภายในหัวของหลายคนดังขึ้นพร้อมกัน
ทางด้านตงชุนนั้นที่ต่อสู้จัดการกับคนร้ายเรียบร้อย ก็ทันได้เห็นการสังหารที่เด็ดขาดและร้ายกาจไม่ต่างจากเจ้านายของตนก็พลันตกใจและเลื่อมใสในเวลาเดียวกัน ว่าที่นายหญิงนางช่างเหมาะสมเจ้านายของตนยิ่งนัก ตงชุนคิดและเร้นกายหายวับไปเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยลงแล้ว
"มีมี่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" ซิ่นเฉิงเมื่อได้สติของตัวเองกลับมาก็รีบเดินเข้าไปหาสหายคนใหม่ที่เพิ่งแยกจากกันมาไม่นานด้วยความเป็นห่วง โชคดีที่เขามาทันเวลาพอดีที่มีดสั้นกำลังพุ่งเข้าใส่นางจึงรีบสกัดเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเขาเองก็ไม่อยากจะคิดเหมือนกันว่านางจะเป็นเช่นไร
"ข้าไม่ป็นไรเจ้าค่ะพี่เฉิงขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือ" มีมี่เอ่ยตอบ แต่ความเป็นจริงนางเป็นมาก...เจ็บจะตายอยู่แล้วแถมยังขาสั่นจนแทบจะยืนไม่ไหวแต่นางต้องปั้นหน้าต่อหน้าบุรุษแถมยังหล่อเหลาอีกต่างหาก
"มีมี่เจ้าบาดเจ็บหรือ!!" ไป๋หลันวิ่งหน้าตาตื่นมายังสหายเมื่อเห็นเลือดที่ไหลเปื้อนอาภรณ์ก็ร้องถามออกมาด้วยความตกใจ
"แค่เล็กน้อยเองเสียงดังไปได้" มีมี่เอ่ย นางกลัวว่าสหายจะเป็นห่วงจึงตอบออกไปแบบนั้น
"เรารีบกลับจวนกันเถิด" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมเข้าไปพยุงสหายเอาไว้ ขณะที่มือเอื้อมเรียวเล็กของตนขยับเข้าประคองตัวสหายนางได้แอบสกัดจุดยับยั้งพิษบนตัวสหายเอาไว้เพราะนางสังเกตว่าเลือดของมีมี่มีสีเข้มกว่าปกติและสีหน้าก็เริ่มซีดเซียวลงมากแล้ว
"เช่นนั้นข้าจะไปส่งพวกเจ้าเอง" ซิ่นเฉิงที่เห็นมีมี่ มีสีหน้าไม่ค่อยดีจึงเอ่ยอาสาไปส่งให้ถึงที่หมาย เพราะกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาเล่นงานอีก "ข้าจะให้คนไปตามหมอมาที่จวนของเจ้า" ซิ่นเฉิงเอ่ยขึ้นอีกครา
"ขอบคุณพี่เฉิงเจ้าค่ะ" ไป๋หลันเอ่ย
"ให้ข้าอุ้มนางกลับจวนเถิดจะได้ถึงเร็วขึ้น" ซิ่นเฉิงไม่รอคำตอบรวบร่างบางระหงขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วรีบเอ่ยกับสหายตัวน้อย "นำทางข้ากลับจวนเจ้าด้วยไป๋หลัน"
"อะ...อ่อ...เจ้าค่ะ" ไป๋หลันเองก็ตกใจกับการกระทำของพี่เฉิงแต่พอได้สติก็รีบเดินนำทางกลับจวนทันที
"ขอบคุณเจ้าค่ะพี่เฉิง" มีมี่เอ่ยขึ้น ขณะที่ร่างกายอยู่ภายใต้อ้อมกอดของบุรุษที่เพิ่งพบหน้ากัน นางไม่คิดว่าพี่เฉิงจะอุ้มร่างของตนมาเช่นนี้แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าเดินเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะพาตัวเองกลับมาถึงจวนได้ ด้วยเรี่ยวแรงที่เริ่มถดถอยดวงตาก็ใกล้จะปิดลงเต็มทน
"ข้าเต็มใจ" ซิ่นเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วรีบเดินต่อโดยไม่ได้สนใจคนในอ้อมแขนอีก
ทั้งสองเดินทางกันอย่างรวดเร็วเพียงไม่นานก็ถึงจวนจึงรีบเดินกันเข้ามายังโถงใหญ่ เฉินหยางที่เห็นน้องสาวเดินนำหน้าบุรุษมาด้วยท่าทางรีบร้อนและในอ้อมเเขนบุรุษผู้นั้นก็ยังมีร่างของน้องสาวบุญธรรมของตนอยู่ ไวกว่าความคิดสองขาก้าวก็พรวดออกไปยังบุรุษผู้นั้นทันที ในใจพลันนึกโมโหกล้าดีอย่างไรมาแตะต้องน้องสาวบุญธรรมของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...