"ดี ๆ เช่นนั้นเรามาลุยไปด้วยกัน เย้..." มีมี่เอ่ยพร้อมกับชูมือขึ้นร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นดีใจ
"ฮ่า ๆ ๆ ทำเป็นเด็กไปได้อายุปาไปเท่าไรแล้วนังกระเทย" ไป๋หลันเอ่ยปรามสหายที่เห็นท่าทางสะดีดสะดิ้งนั่นแล้วเอ่ยต่อ "แล้วแกฝึกพลังปราณบ้างหรือเปล่า หมั่นฝึกฝนบ่อย ๆ โอสถทะลวงฟ้าที่ให้ไปมันสามารถยกระดับขั้นได้ดีนักแล" ไป๋หลันเอ่ยถามสหาย
"เมื่อคืนก็ใช้โอสถแล้วนั่งดูดซับพลังปราณอยู่ชั่วครู่แต่ก็ยังไม่ได้เลื่อนระดับเลยเดี๋ยวคืนนี้ค่อยว่ากันใหม่"
"เออ...ดีแล้วขยันทำบ่อย ๆ อย่ามัวแต่อ่อยผู้ชาย..." ไป๋หลันเอ่ยแซวสหายอย่างรู้ทัน
"ย่ะ..." มีมี่เอ่ยตอบ
ทั้งสองเดินคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนถึงร้านคาเฟที่นายช่างไม้และคนงานกำลังปรับปรุงร้านกันอยู่ ที่ต้องมาดูนั้นเพราะว่าเผื่อนายช่างสงสัยหรือมีปัญหาจะได้อธิบายให้เข้าใจเพราะร้านของนางค่อยข้างแปลกตาต่างจากร้านอื่น ส่วนชั้นสองที่ทำเป็นห้องส่วนตัวนั้นนางยกหน้าที่ให้มีมี่เป็นคนคิดและออกแบบเองทั้งหมด เพราะนางมีหัวด้านออกแบบตกแต่งและเก่งด้านศิลปะจึงไว้ใจนางได้หายห่วง
ยามอู่ (11.00-12.59)ไป๋หลันและมีมี่เดินออกไปหาร้านอาหารนั่งกินข้าวกัน วันนี้พวกนางเปลี่ยนร้านไม่ได้ไปที่โรงเตี๊ยมเดิม เพราะในเมืองหลวงมีเหลาอาหารมากมายที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย นางและสหายจึงตัดสินใจที่จะตระเวนชิมกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าร้านคาเฟ่ของพวกนางจะเสร็จเรียบร้อย
ทั้งสองเดินมาหยุดที่หน้าโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ด้านล่างเปิดเป็นเหลาอาหารที่มีผู้คนมากินกันอย่างเนืองแน่นแสดงว่ารสชาติอาหารนั้นคงจะอร่อยถูกปากชาวบ้านอย่างแน่นอน หลงจู้ของร้านที่เห็นพวกนางก็รีบเดินมาต้อนรับทันที
"คุณหนูทั้งสองเชิญด้านในเลยขอรับมีโต๊ะว่างอยู่พอดี" หลงจู๊ของร้านเอ่ยพร้อมกับเดินนำหน้าไปยังโต๊ะที่ว่างแต่ระหว่างเดินมานั้นนางเห็นทหารกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งกันอยู่เต็มโต๊ะและเหมือนว่าพวกเขากำลังมองมาทางพวกนางเสียด้วย
ไป๋หลันและสหายเดินมานั่งยังโต๊ะที่หลงจู๊จัดเตรียมให้และมีเสี่ยวเอ้อร์มารอรับรายการอาหารพวกนางสั่งอาหารขึ้นชื่อของร้านมาสี่อย่างขนมสองอย่างและน้ำชาอย่างดีอีกหนึ่งกา
"ไป๋หลันนั่นเจ้าจริง ๆ ด้วยข้าดีใจยิ่งนักที่ได้เจอเจ้าที่นี่" ซิ่นเฉิงเอ่ยขึ้น เขาลอบมองนางอยู่ก่อนแล้วเมื่อแน่ใจว่าไม่ผิดตัวแน่จึงรีบลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินมาทักทายด้วยความดีใจ
"พี่เฉิง!!...ข้าเกือบจำท่านไม่ได้ ท่านเล่นแต่งตัวเสียเต็มยศเช่นนี้ เชิญนั่งก่อนสิเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยชวนสหายต่างวัยของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"อ้อ...ข้าเกือบลืมแนะนำนี่คือพี่สาวบุญธรรมข้าชื่อมี่ฮวาเจ้าค่ะ มีมี่ นี่พี่ซิ่นเฉิงบุตรชายท่านเจ้าเมืองหนานเหอ" ไป๋หลันเอ่ย พร้อมกับแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกันเมื่อเห็นว่าซิ่นเฉิงนั่งลงเรียบร้อยแล้ว
"ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าค่ะท่านซิ่นเฉิงเรียกข้าว่ามีมี่ก็ได้เจ้าค่ะ" มีมี่เอ่ยพร้อมกับค้อมศีรษะเล็กน้อย
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันเรียกข้าว่าพี่เฉิงเหมือนกับไป๋หลันเถิด" ซิ่นเฉิงเอ่ย เพราะนางน่าจะมีอายุไล่เลี่ยกันกับไป๋หลันสหายตัวน้อยของตน
"เจ้าค่ะพี่เฉิง" มีมี่เอ่ยพร้อมรอยยิ้มสดใส พลางนึกในใจว่าสหายตัวแสบรู้จักผู้ชายหล่อเหลาและน่าเกรงขามเช่นนี้ด้วยหรือและน่าจะสนิทกันน่าดู
"พี่เฉิงนั่งกินอาหารกับพวกข้าเถิด ข้าจะเลี้ยงท่านเองเนื่องในโอกาสที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง แล้วพี่เทียนล่ะเจ้าคะไม่ได้ทำงานที่เดียวกับท่านหรือ" ไป๋หลันเอ่ยชักชวนและเอ่ยถามถึงสหายอีกคนที่นางรู้จักและคุ้นเคย
ซิ่นเฉิงที่ได้ยินชื่อสหายต่างชนชั้นของตนก็สำลักอากาศเล็กน้อย เขาลืมไปเลยว่าไป๋หลันยังไม่ได้รับรู้ถึงสถานะที่แท้จริงขององค์ไท่จื่อหนานเฟยเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...