# มื้อเย็นจวนสกุลหลิน
"พ่อได้ข่าวว่าจวนแม่ทัพถูกโจรปล้นและทำร้ายคนใจจวนจนอาการสาหัสพวกเจ้ารู้ใช่หรือไม่" เฉินหยวนเอ่ยถามบุตรชาย บุตรสาวที่พูดจาน่าสงสัยตั้งแต่เช้า
"ท่านพ่อ ท่านอย่าโกรธพวกเราเลยนะเจ้าคะลูกขอโทษที่ทำไปโดยไม่บอกกล่าว ก็ใครใช้ให้พวกเขามาทำร้ายเราก่อนเล่าเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยยืดยาว ด้วยสีหน้าสำนึกผิดที่ไม่ได้ปรึกษาบิดาก่อนและไม่กล้าโกหกต่อไปได้อีก
"พวกเจ้าจะทำอะไรก็ควรปรึกษาพ่อบ้าง ถ้าเกิดพลาดพลั้งไปจะทำอย่างไร" เฉินหยวนเอ่ยตำหนิบุตรของตน
"ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ/ขอรับ" ทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
ไป๋หลันยื่นแหวนมิติให้ส่งให้บิดาแล้วเอ่ยบอก "ท่านพ่อในนั้นมีเอ่อ...สมบัติที่ลูกไปปล้นมา..."
เฉินหยวนและอู๋เหยาทำสีหน้าคล้ายจะยิ้มไม่ยิ้มนี่พวกเขาเลี้ยงบุตรให้ไปเป็นโจรตั้งแต่เมื่อไรกัน แต่พอเห็นใบหน้านางยามนี้เขาก็ดุไม่ลงเพราะรู้ว่านางทำไปด้วยเหตุผลใด
"พรุ่งนี้พ่อจะไปจวนแม่ทัพเพื่อเยี่ยมดูอาการเสียหน่อย" เฉินหยวนเอ่ย เขาไม่ได้สงสารคนพวกนั้นเลยสักนิดแต่เขาต้องการไปดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าคนที่คิดทำร้ายครอบครัวของตนมีสภาพเป็นอย่างไร
เมื่อกินอาหารและพูดคุยกันจบต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนส่วนมีมี่เดินตามสหายมาที่เรือนนอนเพื่อพูดคุยกัน
"หลันหลันข้ากลัวสตรีเมืองหลวงนักจนไม่อยากก้าวเท้าออกจากจวนแล้ว" มีมี่เอ่ยพร้อมกับนึกถึงใบหน้างามหยดย้อยของหลี่ฟางเซียน
"ถึงเจ้าไม่ออกไปนอกจวนนางก็เข้ามาหาเจ้าในจวนอยู่ดี" ไป๋หลันเอ่ยนางก็ไม่ค่อยชอบสตรีนางนั้นเท่าไรนัก ใบหน้าเปื้อนยิ้มคำพูดหวาน ๆ นั้นมันดูปลอม ๆ ไม่จริงใจ แต่ในเมื่อหลี่ฟางเซียนยังไม่ล้ำเส้นคิดทำร้ายคนในครอบครัว นางก็อนุโลมไม่คิดที่จะกำจัดหลี่ฟางเซียนในตอนนี้นางไม่ได้เป็นนางมารร้ายเสียหน่อยแต่เป็นคนสวยใจดีต่างหาก…
"โอ๊ย...กลุ้ม" มีมี่เอ่ยอย่างหัวเสีย
"ฮ่า ๆ ๆ กลัวสู้นางไม่ได้หรือ" ไป๋หลันเอ่ยพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
"ก็แหง...ดูข้าสิยังกะม้าดีดกะโหลกพูดจาขวานผ่าซากขนาดนี้บุรุษใดจะชมชอบกัน แล้วพี่หยางก็เห็นข้าเป็นแค่น้องสาว..." มีมี่เอ่ยอย่างท้อแท้ หลี่ฟางเซียนนางทั้งอ่อนหวานพูดจาไพเราะใครบ้างจะไม่ชอบ
"เอาน่า...เจ้าก็รวบหัวรวบหางกินกลางพี่ใหญ่ไปเลยก็สิ้นเรื่อง ส่วนจะได้เขามาครอบครองหรือไม่นั้นก็แล้วแต่บุญวาสนา แต่อย่างน้อย ๆ เจ้าก็ยังได้กินเขาก่อนคนอื่นจริงหรือไม่..." ไป๋หลันเอ่ยเสนอทางออกให้สหายรัก พลันเสกยาคุมกำเนิดออกมาให้สหายแล้วเอ่ย "เก็บเอาไว้เผื่อจำเป็นต้องใช้อายุเจ้ายังน้อยเกิดผู้...คนแรกไม่ได้ ก็ยังมีโอกาสหาผู้...ใหม่ที่เขารักเราจริงได้ แล้วข้าจะหาวิธีปรุงโอสถให้เจ้ายังสดยังซิงเหมือนเดิมดีหรือไม่" ไป๋หลันเอ่ยยืดยาวบอกกล่าวสหายรัก
มีมี่มองหน้าสหาย ประเสริฐ!!ยิ่งนัก ฮึ่ย..
"ข้าควรจะซาบซึ้งในคำแนะนำของเจ้าใช่หรือไม่?" มีมี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม
"ย่อมเป็นเช่นนั้นสหายรัก" ไป๋หลันเอ่ยตอบด้วยหน้าตาระรื่น
"เฮ้อ...ข้าสบายใจแล้วล่ะกลับเรือนนอนดีกว่า" มีมี่เอ่ยจบก็ก้าวเท้าออกจากเรือนทันที
" รีบ ๆ คิดรีบ ๆ ทำเข้าล่ะเดี๋ยวหมาคาบไปแดกแล้วจะมาร้องไห้ฟูมฟายไม่ได้นะ~..." ไป๋หลันยังไม่วายตะโกนยุแยงสหายตามหลังไป
จริง ๆ แล้วถ้าพี่ชายจะมีคนรักสักคนนางก็ยินดี แต่!!ต้องเป็นสตรีที่นิสัยดีด้วย และยิ่งถ้าเป็นสหายของตนก็ย่อมต้องสนับสนุนอยู่แล้ว อย่างน้อย ๆ พี่ชายของนางยังอยู่ใกล้หูใกล้ตาใกล้ไม้ใกล้มือตนด้วยอีกต่างหาก และมีมี่นางก็เป็นคนรักจริงเกลียดจริง นางแรง ๆ อย่างนั้นเองตามวิสัยของนางกระเทยมาก่อนก็เท่านั้น
ฮัดชิ๊ว!! เฉินหยางที่อาบแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและเตรียมตัวจะเข้านอน จู่ ๆ ก็จามและแถมยังรู้สึกขนลุกซู่ ๆ พิกล สงสัยว่าตนจะเป็นไข้หวัด คิดได้ดังนั้นจึงหยิบโอสถแก้ไข้ออกมาจากแหวนมิติแล้วหย่อนใส่ปากตัวเองทันทีตามด้วยน้ำทิพย์วารีแล้วลงนอนด้วยความเพลีย...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...