#เช้าวันรุ่งขึ้นกลางยามซื่อ(09.00-10.59)
หน้าจวนสกุลหลินตอนนี้มีรถม้าจำนวนสิบคันถูกตกแต่งด้วยผ้าสีแดงสวยงามจอดเรียงรายอยู่ ตลอดทางชาวบ้านต่างจับจ้องว่าขบวนนั้นจะไปสิ้นสุดที่จวนผู้ใด แต่พอเห็นร่างสง่างามองอาจบนหลังอาชาสีขาวปลอดก็พอเดาได้ว่าขบวนรถม้านั้นจะไปสิ้นสุดที่ใด แต่กระนั้นชาวบ้านบางคนก็เดินตามขบวนมาด้วยความอยากรู้และชื่นชม
ประตูใหญ่ของจวนสกุลหลินเปิดต้อนรับอย่างกว้างขวาง เฉินหยวนและอู๋เหยาออกมาต้อนรับหน้าประตูด้วยตนเอง
ภายในโถงตอนนี้มีหีบของหมั้นมากมายหลายหีบ ยังไม่นับรวมกันข้าวของมากมายหลายอย่างที่บ่าวไพร่ช่วยกันนำไปเก็บไว้ในยุ้งฉาง ไป๋หลันที่เดินเข้ามาภายในโถงเมื่อเห็นบรรดาหีบทั้งหลายเรียงรายตรงหน้าถึงกับตกใจ นางไม่คิดว่าประมุขหนานจะเป็นพ่อบุญทุ่มถึงขนาดขนสมบัติมากมายมาให้นางอย่างไม่คิดเสียดายเลยหรือ?
หลังจากพูดคุยกันอยู่ราว ๆ หนึ่งชั่วยามก็ได้เวลากินมื้อเที่ยงกัน หลังจากนั้นเฉินหยวนและอู๋เหยาปล่อยให้ทั้งสองอยู่พูดคุยกันตามลำพัง เฉินหยวนนั้นต้องไปจัดการเรื่องศูนย์พักพิงที่ได้รับมอบหมาย ส่วนอู๋เหยาเข้าครัวกับบรรดาแม่ครัวทั้งหลายเพื่อสอนงานต่างๆ
ไป๋หลันชวนคู่หมั้นของนางมานั่งคุยกันที่ศาลาริมสระบัว เพราะส่วนมากเขาจะมาพบนางตอนกลางคืนเสียมากกว่า จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสมานั่งชมบรรยากาศแบบนี้ด้วยกันเท่าไรนัก
"พี่หลงได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันเกี่ยวกับคุณหนูซูฮวาหรือไม่" ไป๋หลันเอ่ยถาม
"พี่พอได้ยินมาบ้างและตงชุนก็รายว่าคนที่คุณหนูเมิ่งทำร้ายคือมีมี่และบ่าวของเจ้า" หนานเหวินหลงเอ่ยตอบ เขามองคนไม่ผิดว่าคุณหนูเมิ่งที่มีใบหน้างดงามนั้นภายในเนื้อแท้แล้วไม่ได้งดงามเช่นใบหน้า
''เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ"
"เรื่องข่าวลือนั่นนางมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย พี่ว่าเจ้าก็ระวังตัวเอาไว้บ้างไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไรอีก" หนานเหวินหลงเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้เมิ่งซูฮวาไม่ได้อยู่ที่พรรคจันทราแล้วนางคิดจะทำอะไรเขาก็ไม่อาจรับรู้ได้ แต่!!ถ้านางคิดทำร้ายเสี่ยวหลันของเขาละก็คงได้เห็นดีกันแน่
"ขอบคุณเจ้าค่ะ แต่อีกสิบวันข้าต้องเดินทางเข้าสำนักเซียนเเล้ว ฝากพี่หลงช่วยดูแลทุกคนแทนข้าด้วยนะเจ้าคะ" ไป๋หลันเอ่ยเสียงออดอ้อนเพื่อหวังใช้งานคนตรงหน้า
"เจ้าไม่บอกพี่ก็ต้องทำอยู่แล้ว" หนานเหวินหลงเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้คนตัวเล็กได้สบายใจโดยไม่ต้องกังวล
"ขอบคุณเจ้าค่ะพี่หลง" ไป๋หลันส่งยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างจริงใจ นางเองก็ใจหายเหมือนกันที่จากคนที่รักไปนานกว่าจะได้กลับมา การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญและอีกอย่างถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาอีกด้วยทั้งสองพูดคุยหยอกเย้ากันเบิกบานสำราญใจโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกด้านหนึ่งกำลังวุ่นวายใจแค่ไหน
# ร้านน้ำชาหอมหมื่นลี้
เฉินหยางที่เดินทางมาร้านกับน้องสาวบุญธรรม จริง ๆ เขาอยากให้นางนอนพักผ่อนอยู่ที่จวนมากกว่าแต่นางไม่ยอมบอกว่าไม่อยากอยู่เพราะอิจฉาคนมีคู่หมั้น เขาจึงตามใจให้นางมาด้วย แต่วันนี้เขาให้นางนั่งคิดเงินอยู่ที่โต๊ะบัญชี ไม่ได้ให้นางต้อนรับลูกค้า เพราะกลัวว่านางจะเหนื่อยร่างกายยังไม่ค่อยฟื้นตัวแข็งแรงเท่าไรนัก
มีมี่นั่งอยู่ที่โต๊ะบัญชีมองลูกเข้าออกและคอยคิดเงินทอนเงิน ครั้นเมื่อมองไปยังหน้าร้านเห็นมีลูกค้ากลุ่มใหญ่ราว ๆ เจ็ดแปดคนกำลังเดินเข้ามา บุรุษทั้งหลายที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ธรรมดา มันช่างเหมือนเด็กแว้นยกพวกตีกันในภพก่อนไม่มีผิดเพี้ยน ด้วยสัญชาตญาณของคนที่ผ่านชีวิตมาแล้วถึงสองภพอย่างมีมี่จึงรีบเดินเข้าไปสกัดกลุ่มที่เข้ามาใหม่ทันที
"ขออภัยพี่ชายตอนนี้โต๊ะเต็มหมดแล้วเจ้าค่ะ" มีมี่เอ่ยโกหกหน้าด้านๆทั้งที่จริงยังว่างอยู่หลายโต๊ะ แต่นางไม่อยากให้คนพวกนี้เข้ามานั่งภายในร้าน มันรู้สึกตงิด ๆ ยังไงพิกล
"อะไรกันคนสวยข้าเห็นว่ายังมีว่างตั้งหลายโต๊ะ" ช่ายรูปร่างใหญ่โตเอ่ยพร้อมกับจ้องมองร่างบางอย่างสำรวจจาบจ้วง
"โต๊ะพวกนั้นมีคนจองหมดแล้วต้องขออภัยไว้วันหน้าพี่ชายค่อยมาใหม่เถิด" มีมี่เริ่มมีอารมณ์ขึ้นเพราะคำพูดจาของอีกฝ่าย นางก็รู้อยู่หรอกว่าตนเองสวยแต่สายตาที่มองนั่นเหมือนลากนางไปข่มขืนแล้วกระมัง
"พวกข้าไม่ไปข้าจะกินวันนี้" ชายอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินดิ่งนำหน้าเข้าไปด้านในทันที พวกที่เหลือก็เดินตามเข้าไปอย่างถือวิสาสะเพราะพวกมันถูกจ้างให้มาป่วนก่อกวนร้านน้ำชาแห่งนี้ นายจ้างบอกทำอย่างไรก็ได้ยิ่งพังยิ่งดีและพวกมันก็รับค่าจ้างมาแล้วเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว เงินดีงานสบายเช่นนี้พวกมันถนัดนัก...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...