ไม่นานนักมือปราบก็เดินทางมาถึงนำโดยเหอซิ่นเฉิงหัวหน้ากองปราบนั่นเอง เขาทราบเรื่องทั้งหมดระหว่างเดินทางที่คนของทางร้านเป็นผู้เล่าให้ฟัง เมื่อมาถึงจึงสั่งให้ทหารควบคุมตัวกลุ่มอันธพาลทั้งหมดไปขังไว้รอตัดสินโทษ
"คุณชายเฉินหยางไม่ต้องห่วง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางการเป็นผู้จัดการเถิด อันธพาลพวกนี้ก่อความเดือดร้อนไปทั่วคงมิพ้นติดคุกยาวเป็นแน่" ซิ่นเฉิงเอ่ยบอกคนตรงหน้า แล้วหันไปหาร่างบางด้านข้างแล้วเอ่ยถามต่อ "มีมี่ เจ้าหายดีแล้วหรือ เมื่อวานตอนอุ้มเจ้ากลับจวนอาการยังดูมิสู้ดี" ซิ่นเฉิงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
เฉินหยางที่ได้ยินดังนั้นก็หันหน้าตวัดสายตาไปหาร่างบางด้านข้างทันที นางไม่เห็นเล่าให้ฟังเลยว่าคุณชายซิ่นเฉิงเป็นคนอุ้มนางมาส่ง ฮึ่ย...มันน่านัก นางโดนบุรุษผู้นี้อุ้มมากี่ครั้งกันแล้ว
"พี่เฉิงข้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้าเมื่อวาน แล้วยังมาเรื่องวันนี้อีกลำบากท่านแล้ว" มีมี่เอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ เขาช่วยเหลือนางเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง คงต้องหาโอกาสตอบแทนบ้างแล้ว
"ข้าไม่ได้ลำบาก ถ้าเจ้ามีเรื่องเดือดร้อนอันใดก็ขอให้บอกเข้าใจหรือไม่" ซิ่นเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เฉินหยางที่ยืนฟังการสนทนาของคนทั้งสองมันช่างระคายหูยิ่งนัก ทำอย่างกับว่ากำลังเกี้ยวกันอยู่ เฉินหยางขบกรามแน่นด้วยความโกรธ
"เจ้าค่ะ พี่เฉิง" มีมี่เอ่ย
"เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน" ซิ่นเฉิงเอ่ย พร้อมกับเดินจากไปทำหน้าที่ของตนต่อ
"ดูเจ้ามีความสุขไม่น้อยที่ได้พูดคุยกับมือปราบผู้นั้น เห็นเจ้ายิ้มไม่หุบเลย" เฉินหยางเอ่ยเหน็บแนมน้องสาวบุญธรรม นางจะดีใจอะไรนักหนายิ้มหน้าบานเชียว
มีมี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ ทีเขาเองคุยกับคุณหนูฟางเซียนยิ้มทีปากแทบฉีกถึงใบหู นางยังไม่ว่าอะไรเลยคิดได้เช่นนั้นจึงเอ่ยยียวนกวนคนตรงหน้าเสียหน่อย
"ข้ามีความสุขมาก~...เลยเจ้าค่ะ อยากคุยด้วยทั้งวันเลย"
"เจ้าชอบคุณชายเฉิงเช่นนั้นหรือ" เฉินหยางเอ่ยถามออกไป
"ข้าก็ไม่ได้เกลียดพี่เฉิงนี่เจ้าคะ พี่เฉิงเป็นคนดีมีน้ำใจ" มีมี่เอ่ยตอบคุมเครือออกไป พี่เฉิงเป็นคนดีนางไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ชอบแบบคนรักสักหน่อย
เฉินหยางที่ได้ยินคำตอบพลันหัวใจกระตุกวูบ นางไม่เกลียดก็หมายความว่านางชอบเช่นนั้นหรือ คิดได้ดังนั้นก็เดินคอตกกลับเข้าร้าน แล้วจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยดังเดิม
วันนี้ร้านหอมหมื่อนลี้ปิดไวขึ้นกว่าปกติเพื่อความสะดวกในการจัดร้านใหม่เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับจวนพร้อมกับน้องสาวบุญธรรม ระหว่างทางเขาไม่พูดจาสิ่งใดได้แต่เดินเงียบ ๆ เพียงเท่านั้น ด้วยใจที่ห่อเหี่ยวเกินจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมา
มีมี่เมื่อเดินกลับมาถึงจวนก็พบกับสหายที่นั่งอยู่กับท่านแม่ที่ห้องโถง ส่วนท่านประมุขหนานคงกลับไปแล้ว นางและพี่หยางจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองคนฟัง
"เจ้าว่าเป็นฝีมือของผู้ใดหรือหลันเอ๋อร์" เฉินหยางเอ่ยถามน้องสาว
"พวกเราไม่มีศัตรูที่ใดนอกเสียจากสตรีผู้นั้น ข้าว่าต้องเป็นนางแน่ ๆ" ไป๋หลันเอ่ย สตรีที่ลุ่มหลงในความรัก มักทำได้ทุกอยางที่ตนเองต้องการยิ่งสตรีผู้นั้นมีทั้งเงินและอำนาจ
"ใช่เลย ข้าก็ว่าเป็นนางนั่นแหละนางช่างร้ายกาจยิ่งนักชอบลอบกัดอย่างกับหมา..." มีมี่เอ่ยอย่างโกรธแค้น ลอบปล่อยข่าวลือ ทำร้ายนางและบ่าวแล้วยังจะร้านน้ำชาแล้วต่อไปนางคิดจะทำอะไรอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลินไป๋หลัน
1...