บทที่108 ศิลปะการแสดง
เป้ยฉ่ายเวยเดินออกจากร้านกาแฟ และมองไปที่ท้องฟ้าสีเทาเหนือศีรษะ
--ติ๊ก
น้ำหยดลงบนหน้าผากเธอด้วย มันอุ่นไปด้วยความร้อนของฤดูร้อน หลังจากนั้นก็ติดตามมาด้วยเม็ดฝนที่หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนบนถนนเริ่มหาหลังคาหลบฝน เสียงกระหึ่มยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ
“ฝนตกแล้ว”
“ตายแล้ว ตกเวลานี้ได้ยังไงกัน ไม่คิดว่าจะตกไวขนาดนี้”
“ฝนในฤดูร้อนก็เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรอ นึกจะตกก็ตก ดูท่าจะไม่หยุดจนถึงพรุ่งนี้เช้านั่นล่ะ”
เป้ยฉ่ายเวยยื่นมือออก ปล่อยให้เม็ดฝนตกลงบนฝ่ามือ เธอปล่อยให้เม็ดฝนไหลรินไปตามแนวแขนช้าๆ ฤดูร้อนนี้เธอไม่ได้เห็นฝนตกมานานแล้ว
“นี่นี่ มาดูนี่เร็ว ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้าไปแล้วรึเปล่าเดินดุ่มๆอยู่กลางสายฝนน่ะ”
“ฉันไป มีส่วนร่วมในการแสดงหน่อย”
“สมองพังหรือยังไง คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือยังไง”
ผู้หญิงที่พวกเขาพูดถึงก็คือเธอ เธออยากตากน้ำฝนเพื่อที่จะทำให้จิตใจอันว้าวุ่นนี้สงบลง ตื่นขึ้นและได้สติ ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของใคร
เป้ยฉ่ายเวยปล่อยให้เส้นผมเปียกปอน เสื้อผ้า ทุกรูขุมขน เธอไม่คิดว่ามันจะสำคัญอีกต่อไป ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าบรรยากาศที่น่าเบื่อในร้านกาแฟอีกแล้วใช่ไหม จริงๆตากฝนตอนนี้ช่างเป็นทางเลือกที่ดีชะมัด
เป้ยฉ่ายเวยเงียบและจู่ๆก็หัวเราะขึ้นมา หัวเราตามอำเภอใจ จนดูเหมือนว่าเธอปล่อยวางจากภาระหน้าที่ทุกสิ่งไว้ และปลดปล่อยหัวใจที่ถูกกดขี่ออกมา
ฝนช่างทำให้เธอมีความสุข ทั้งข้อกล่าวหาของหนานฉิง การดูถูกจากเหาเสว่ฉิน การบังคับของฉูเจ๋อหยาง ความเครียดในชีวิต เธอปล่อยวางมันไปชั่วครู่
รถคันสีดำซึ่งจอดอยู่ในซอยท่ามกลางสายฝน ชายที่อยู่ในรถมองเห็นร่างอันบอบบางกำลังเคลื่อนไหวไปด้านหน้าไม่หยุด ร่างกายของเธอเปียกชุ่ม ฝนยังคงเทลงใส่เสื้อผ้าของเธอ
เขาถอนหายใจละพูดเฉื่อยๆ “คุณว่าทำไมตาเฒ่าหูลีถึงชอบผู้หญิงดื้อรั้นซุกซนคนนี้นะ”
ชายคนที่นั่งถัดไปมองที่ด้านหลังร่างที่อยู่กลางสายฝน ข้อความถูกส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์
“เค คุณว่าเราควรจะเตือนตาหูลีหรือไม่ ว่าผู้หญิงของเขากำลังลุยฝนอยู่” ชายคนนั้นดูไม่พอใจที่คนข้างๆไม่ตอบสนอง แววตาของเขาสั่นไหว
“หนูน้อยหมวกแดง ถ้าหากเขารู้ว่าคุณรีบมาดูเรื่องตลกของเขาตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าคิดว่าอย่าอยากทำผมก็ไม่ถือสา” ชายคนที่ชื่อตาเคปิดโทรศัพท์ลงอย่างช้าๆ
“เชอะ ไม่สนุก แล้วก็อย่ามาเรียกผมหนูน้อยหมวกแดง ผมมีชื่อ” เขารู้สึกไม่สนุกเลย
“เจี่ยงเสี่ยวเล่อรึ หรือว่าเจี่ยงรอง” ชายคนนั้นหัวเราะเบาๆ
“โดนัลด์ดั๊ก บอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกผมว่าเจี่ยงรอง!!!” เจี่ยงเสี่ยวเล่อเหมือนแมวโดนเหยียบหาง อยู่ๆเขาก็ร้องเสียงหลง
ถังฉีตงซึ่งถูกว่าเป็ดโดนัลด์ดั๊กก็ไม่ได้โกรธ เขามองไปที่นาฬิกาและพูดอย่างใจเย็น “ใกล้เวลาแล้ว คุณแน่ใจนะว่าไม่ต้องการอย่างเคย”
เมื่อรู้ว่าต้องทำธุระ เจียงเสี่ยวเล่อก็คำรามและเบี่ยงศีรษะ เขาไม่พูดอะไรต่อไป
เบื่อตาเคนี่ รอก่อนสิ เขาก็ฟังอยู่ดีดี ผู้หญิงผมแดงนั่นใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามาโทษว่าเขาไม่ดีแล้วกัน
“คนออกมาแล้ว”
ความโกรธของเจี่ยงเสี่ยวเล่อก็หายวับไป สีหน้าจริงจังมองผ่านกระจกหน้าต่าง เขามองไปที่ชายวัยกลางคนที่ออกมาพร้อมกับบอร์ดี้การ์ดหลายคนในชุดสูทสีดำ ไม่นานก็มีรถอีกคันขับมา
“หนอย หัวของเธอก็เหมือนลูกมะพร้าวย่ะ” ซือซือพบว่ารูปลักษณ์ของเธอถูกเปิดเผย เธอรีบปิดบังหัวของเธอเอาไว้ หัวเล็กเป็นความผิดของเธอหรือยังไง ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเธอ มีปมอยู่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว!
น่าเสียดายที่เรื่องนี้แก้ไขไม่ได้
“ฉันอยากหัวเราะจนเป็นบ้า ซือซือสีผมของเธอตกแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยเห็นว่าซือซืออมยิ้ม เธอคิดเสมอมาว่าซือซือย้อมผม ไม่คิดว่าพอโดนฝนแล้วสีจะตกออกมา
“ฉันว่า เธอยังจะพูดอีก ก็เป็นเพราะว่าเธอที่ไม่ยอมให้ฉันทำสีเป็นครึ่งปี ยังไม่ขึ้นรถอีก จะให้ฉันอายคนอื่นอีกเยอะแยะหรือยังไง”
ปากซือซือพูดเช่นนี้ แต่เมื่อเห็นสีแดงที่ไหลไปตามสายฝนเธอก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
ทั้งคู่หัวเราะเหมือนคนโง่อยู่ท่ามกลางสายฝน บางครั้งก็แหย่กัน เล่นกันอย่างหน้าไม่อาย
ผู้คนรอบตัวดูเหมือนจะติดเชื้อจากบรรยากาศอันร่าเริงจากพวกเธอไปด้วย
ฝนตกไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกมั๊ง
ชายทั้งสองคนที่อีกฝ่ายหนึ่ง ความจริงแล้วอุดอู้มาก แต่เมื่อเห็นร่างทั้งสองบนท้องถนน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูด “ตาเคผู้หญิงสองคนนั้นโง่รึเปล่า”
ถังฉีตงเห็นซือซือหัวเราะสนุกสนานเฮฮากับเป้ยฉ่ายเวย เขามีความนัยเล็กๆในแววตาและพูดขึ้นอย่างสุภาพ “หนูน้อยหมวกแดง ได้ยินว่าคุณไม่ใช่ผู้ชาย เรื่องนี้ผมเข้าใจได้”
“ใครไม่ใช่ผู้ชาย คนขายเนื้อพูดอะไรกับคุณรึเปล่า” เจียงเสี่ยวเล่อโกรธจัด
“อายหรอ” ถังฉีตงพูดอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าอาเจ๋อให้ท้ายผมอยู่”
“...” หมาป่าตัวโตหันไปหาหนูน้อยหมวกแดงภายในไม่กี่วินาที
ตัวแสบของตาหูลีแต่ไหนแต่ไรมาก็มีเพียงแค่คนเดียวก็คือผู้หญิงของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...