ตอนที่ 114 ถูกใส่ร้าย
เป่ยฉ่ายเวยเอาของที่ซื้อมางไว้บนโต๊ะ ให้คนอื่นมาหยิบเอง
กำลังจะจูงมือหลูเสี่ยวหยาออกไป
เป่ยฉ่ายเวยไม่ทันได้ระวัง ไม่รู้ว่าใครยื่นขาออกมา ทำให้เธอสะดุดล้มลงไปที่โต๊ะ
‘เสียงของหล่นโครมคราม’ กาแฟและน้ำผลไม้หล่นลงมาเลอะตัวและหัวของเธอ แซนด์วิช เค้กและของกินบางส่วนก็ตกลงมาที่พื้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ทุกคนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ คนบางส่วนอยู่ใกล้ๆก็รีบกระเถิบถอยออกไปเพราะกลัวว่าตัวเองจะเลอะ
“เวยเวยเธอไม่เป็นไรนะ” หลูเสี่ยวหยารีบเข้ามาช่วยพยุงเป่ยฉ่ายเวยขึ้นมา จากนั้นเธอก็หันไปพูดเสียงดังกับลวี่อานหรานด้วยความโกรธ “คุณทำแบบนี้หมายความว่าไง”
ลวี่อานหรานนั่งเป่าเล็บตัวเอง แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจคำถามนั้น “หลูเสี่ยวหยา ฉันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร”
“ลวี่อานหราน คุณอย่ามาแกล้งโง่หน่อยเลย ฉันเห็นว่าคุณตั้งเอาเท้ายื่นออกมาขัดขาเวยเวย” ผู้หญิงคนนี้หน้าไม่อายจริงๆ
เธอเป็นอะไร ใครจะพิสูจน์ได้ ลวี่อานหรานพูดกล่าวเตือน “หลูเสี่ยวหยาจะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานด้วย เธอเองก็เรียนกฎหมาย ไม่น่าจะไม่รู้นพว่าการให้ร้ายคนอื่นจะมีผลที่ตามมายังไง”
“ลวี่อานหราน นี่มันมากเกินไปแล้วนะ” หลูเสี่ยวหยาโกรธอย่างมาก ตำแหน่งที่ลวี่อานหรานยืนอยู่เป็นมุมอับของกล้อง อีกอย่างตำแหน่งเท้ามันก็ต่ำมาก จนกล้องไม่น่าจะสามารถจับภาพได้ เธอจึงไม่สามารถทำอะไรได้
“เสี่ยวหยา ฉันไม่เป็นไร อย่าไปโกรธเค้าเลย มันไม่คุ้มหรอก” หลังจากเป่ยฉ่ายเวยลุกขึ้นมายืนเรียบร้อยแล้ว เธอก็ค่อยๆเช็ดคราบกาแฟและเศษขนมปังออก แล้วมองไปที่ลวี่อานหรานด้วยสายตาที่เย็นชา
เธอไม่โต้เถียง ไม่ได้แปลว่าเธอไม่โกรธ
“เธอมองอะไรเป่ยฉ่ายเวย”
ลวี่อานหรานที่ถูกเป่ยฉ่ายเวยมองด้วยสายตาแบบนั้น ในใจก็เริ่มรู้สึกหนาวๆขึ้นมาบ้าง จากนั้นเขาก็คิดได้ว่ายังไงเป่ยฉ่ายเวยก็ไม่มีหลักฐานแน่ๆ เลยพูดยั่วยุไปว่า “ถ้าเธอคิดว่าฉันทำจริง จะแจ้งตำรวจก็ได้นะ หรือจะเอากล้องวงจรปิดมาเปิดก็ตามใจ”
“ลวี่อานหราน ตั้งแต่ไหนแต่ไรฉันเป็นคนที่ถ้าไม่มีใครทำฉัน ฉันก็ไม่ทำใครก่อน คุณอย่ากดดันนักเลย” เป่ยฉ่ายเวยมองไปที่น้ำเสาวรสในมืออย่างรู้สึกเสียดายนิดหน่อย ดูเหมือนว่าวันนี้คงกินไม่ลงแล้ว
เป่ยฉ่ายเวย ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเธอนี่ ที่เธอล้มลงไป มันก็แค่อุบัติเหตุ” ลวี่หรานกอดอกแล้วพูดต่อด้วยท่าทีที่หยิ่งยโส “บางทีเธออาจไม่พอใจ ก็เลยแกล้งทำเป็นล้มให้ของคนอื่นตกลงมาก็ได้”
“ลวี่อานหราน เธอป่วยหรือไง? ถ้าเป็นคุณ คุณจะลำบากออกไปซื้อด้วยตัวเอง แล้วทำตัวให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพแบบนี้แค่เพราะไม่อยากให้คนอื่นกินงั้นหรอ?” หลูเสี่ยวหยาเกือบจะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะให้กับความคิดแบบนี้
ตอนแรกผู้คนรอบข้างก็เชื่อ แต่พอได้ยินหลูเสี่ยวหยาพูดแบบนี้ ก็คิดว่าเป่ยฉ่ายเวยคงไม่โง่ขนาดที่จะให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้ท่ามกลางผู้คนมากมายขนาดนี้
“เหอะ ใครจะไปรู้ล่ะ มันก็มีคนบางประเภทที่จิตใจมืดบอดไม่ใช่หรือไง?” ในใจลวี่อานหรานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยคนอื่นๆไม่เชื่อเขาอย่างที่วางแผนไว้ ยิ่งพอมองไปที่หลูเสี่ยวหยาก็ยิ่งรู้สึกแค้น
‘เสียงสาดน้ำ’ ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนลั่น “กรี๊ดดดด เป่ยฉ่ายเวย เธอกล้าดียังไงเอาน้ำผลไม้มาสาดใส่ฉัน”
จากแรกตอนแรกที่เป็นจุดสนใจอยู่แล้ว ตอนนี้กลับกลายเป็นจุดสนใจมากขึ้นกว่าเดิม
เธอมองไปที่เหตุการณ์ตรงหน้าเลื่อนลอย เสียงรอบๆเธอเงียบหายไปชั่วขณะ
เป่ยฉ่ายเวยทิ้งขวดเปล่าไปในถังขยะด้านข้าง พูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “อืม ที่เธอพูดก็ถูกนะ มันมีคนบางประเภทที่จิตใจมืดบอดจริงๆน่ะแหละ”
หลูเสี่ยวหยาพูดอย่างขุ่นเคือง “คืออย่างนี้ค่ะเลขาหลิน เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะว่าลวี่อานหรานเริ่มก่อน เธอให้เวยเวยออกไปซื้อของเยอะแยะมากมายคนเดียว พอกลับมาก็จงใจขัดขาให้เวยเวยสะดุดล้ม แต่ไม่ยอมรับ”
ลวี่อานหรานรีบสวนขึ้นมาทันที “หลูเสี่ยวหยาอย่ามาพูดจาเหลวไหล ใครเห็นว่าฉันขัดขาเวยเวย จะพูดอะไรต้องมีหลักฐานสิเธอทำงานเป็นทนายก็น่าจะรู้”
ทุกคนไม่มีใครเห็นลวี่อานหรานขัดขาเป่ยฉ่ายเวย แต่ทุกคนเห็นเป่ยฉ่ายเวยสาดน้ำใส่ลวี่อานหราน
เพื่อนร่วมงานข้างๆกับลวี่อานหราน ที่น่าจะสนิทกันรีบพูดต่อ “ใช่ค่ะเลขาหลิน คุณคงไม่ปล่อยปละละเลยเพราะเป่ยฉ่ายเวยเป็นผู้ช่วยของคุณหรอกนะคะ”
“พวกเราเห็นกันหมดว่าผู้หญิงคนนี้สาดน้ำใส่อานหราน”
“ใช่ ใช่ ผู้ช่วยคนนี้อวดดีขนาดนี้ ต่อไปพวกเราจะกล้าทำงานกับเธอได้ยังไง”
“แบบนี้ไม่รู้ว่าฝ่ายบุคคลคิดได้ยังไงที่เอาคนแบบนี้เข้ามาทำงานที่นี่”
หลินไห่ได้ยินทุกคนพูดป็นเสียงเดียวกันว่าเป่ยฉ่ายเวยไม่ดี ก็รีบหันไปมองเปยฉ่ายเวย แล้วถามอย่าใจเย็น “เวยเวย เธอมีอะไรอยากจะอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกไหม?”
ถ้าเธอไม่อธิบายอะไร เขาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้มากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อเวยเวย แต่ถ้าลวี่อานหรานไม่กลัวกล้องวงจรปิดแบบนี้หมายความว่าเขาต้องมั่นใจว่ากล้องจะไม่สามารถจับภาพได้แน่นอน
“เลขาหลิน ตอนนี้ฉันไม่มีหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของฉัน ดังนั้นก็จัดการลงโทษฉันตามสบายเลยค่ะ” เป่ยฉ่ายเวยรู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้ ถึงพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเธอไม่มีหลักฐานจริงๆ
อย่างมากก็แค่โดนไล่ออก ยังไงเธอก็ไม่อยากทำงานที่นี่ต่อแล้ว แต่ก็น่าเสียดายอย่างหนึ่ง ที่ต้องบอกลาเพื่อนที่เพิ่งได้รู้จักกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...