ตอนที่ 115 แก้ตัวแทน
หลูเสี่ยวหยาเห็นเป่ยฉ่ายเวยแบบนี้ ก็รู้สึกวิตก “เวยเวยไม่ต้องพูดแบบนี้ก็ได้ ฉันสามารถช่วยเธอหาหลักฐานได้นะ”
“เวยเวยนี่ไม่ใช่คำพูดเล่นๆนะ” หลินไห่เตือนสติ สำหรับคนมาใหม่แล้วนี่อาจเป็นความผิดที่ร้ายแรง ที่การพักงานอาจจะเบาไป แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไล่ออก
“เลขาหลิน เป่ยฉ่ายเวยก็ยอมรับความผิดตัวเองแล้ว ยังมีอะไรต้องพูดอีก” ในใจของลวี่อานหรานช่างมืดมน เธอหัวเราะ สุดท้ายก็สามารถจัดการผู้ช่วยไปได้อีกคนอย่างง่ายดาย
เมื่อหลินไห่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทุกคนก็เหมือนจะถูกใครบางคนสะกดสายตาไว้ให้ทันไปในทิศทางเดียวกัน
“ท...ทนายฉู”
ไม่รู้ว่าเสียงใครร้องเรียกออกมา ทุกคนก็หันไปทางเดียวกัน แล้วค่อยๆถอยออกเปิดเป็นช่องทางเดิน ก็เห็นผู้ชายท่าทีเย็นชาที่กำลังเดินเข้ามา
ส่งผลให้อุณหภูมิบริเวณนั้นลดลงไปหลายองศา จากตอนแรกที่มีเสียงดังจอกแจกจอแจ ตอนนี้กลับเงียบหายไปหมด
ฉูเจ๋อหยางคือที่ที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้
เมื่อเขาเดินมาถึง ก็ขมวดคิ้วให้เวยเวยเล็กน้อย ทุกคนก้มหัวไม่กล้าสบตาเหมือนนักเรียนชั้นประถมที่ทำความผิดมา
“หลินไห่ เกิดอะไรขึ้น” สายตาของฉูเจ๋อหยางมองไปที่ตัวของเป่ยฉ่ายเวยแล้วนิ่งไปสักพัก แล้วก็หันหน้าหนีเหมือนมองไม่เห็นอะไรเลย
หลินไห่รายงานเหตุการณ์ให้ฉูเจ๋อหยางฟัง
เมื่อได้ยินคำว่าทนายฉูสามคำ เป่ยฉ่ายเวยก็หลับตาปี๋ เหมือนตัดทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว
เขาต้องรู้สึกผิดในใจแน่ๆที่เธอต้องมาเจอเรื่องแย่ๆในบริษัท แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ยังไงอย่างน้อยที่สุดก็ถือว่าเธอทำตามข้อตกลงแล้วใช่ไหม?
แต่ทำไมในใจมันถึงรู้สึกเจ็บปวด หรือจะเป็นเพราะเรื่องที่ถูกใส่ร้ายกันแน่นะ?
เมื่อลวี่อานหรานเห็นฉูเจ๋อหยาง เธอก็เปลี่ยนจากท่าทีที่หยิ่งผยองก่อนหน้านี้เป็นคนอ่อนแอขึ้นมาทันที “ทนายฉูต้องช่วยฉันตัดสินเรื่องนี้นะคะ ฉันแค่ให้เธอไปซื้อของนิดๆหน่อยๆ ผู้ช่วยคนใหม่นี่ก็มาทำแบบนี้กับฉัน”
“ผู้ช่วยเลขาของเราไปทำงานให้เด็กผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉูเจ๋อหยางพูดด้วยเสียงที่ไม่เบาและไม่ดังเกินไป แต่ก็พอที่จะทำให้ทุกคนได้ยิน แล้วทุกคนก็เข้าใจว่าที่เขาพูดมันหมายความว่าอะไร
ลวี่อานหรานมองหน้าฉูเจ๋อหยางอย่างอ้ำๆอึ้งๆแล้วพูดอย่างตะกุกตะกัก “ต...แต่ว่าทนายฉูคะ เป่ยฉ่ายเวยเค้าสาดน้ำผลไม่ใส่ฉันนะคะ ทุกคนก็เห็น”
นี่เป็นสิ่งที่เป่ยฉ่ายเวยไม่อาจปฏิเสธได้
ฉูเจ๋อหยางไม่ได้สนใจที่ลวี่อานหรานพุด แต่เขาหันไปสั่งคนข้างๆ “หลินไห่ ไปเอาเทปกล้องวงจรปิดมา”
เมื่อได้ยินคำว่ากล้องวงจรปิด ลวี่อานหรานก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร แถม
ยังลำพองใจเล็กน้อย แต่ยังดีที่เธอสามารถเก็บอาการไว้ได้
หลินไห่พูดอย่างลังเลว่า “ทนายฉูครับ จากมุมที่ทนายลวี่อยู่ เกรงว่ากล้องวงจรปิดจะไม่สามารถจับภาพได้ เอามาเปิดก็น่าจะมองไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ดีครับ”
ดวงตาสีเข้มของฉูเจ๋อหยางค่อยๆเปลี่ยนเป็นความนิ่งและเยือกเย็น “ตำแหน่งของเธอไม่สามารถมองเห็นได้ก็จริง แต่จะไม่มีจุดสังเกตอื่นเลยหรอ อย่าลืมสิว่าในของทำงานนี้มีดาร์กไลน์อยู่”
ทันใดนั้นหลินไห่ก็นึกขึ้นได้ทันที ตั้งแต่แรกเราให้ฝ่ายโลจิสติกส์มาติดตั้งดาร์กไลน์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทกับลูกค้า เขาลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงนะ พอนึกขึ้นได้ หลินไห่ก็รีบรับคำอย่างดีใจ “เข้าใจแล้วครับทนายฉู”
เป่ยฉ่ายเวยเงยหน้าขึ้นมามองผู้ชายคนนั้นทีมีท่าทางจริงจัง นี่เขาตั้งใจจะช่วยเธอแก้ปัญหางั้นหรอ?
“ฉันคิดว่าไม่จำเป็นหรอกค่ะ เรื่องเล็กแค่นี้เอง คุณคิดงั้นไหมคะ?” ตอนนี้ก็ถึงคราวที่ลวี่อานหรานต้องหน้าซีดเผือดแล้ว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มีดาร์กไลน์ แต่ก็นะ เรื่องที่เป็นความลับแบบนี้ ฉูเจ๋อหยางจะบอกคนอื่นทำไม
แต่เพื่อผู้ช่วยเล็กๆคนหนึ่ง ทำไมต้องเปิดโปงเรื่องที่สำคัญขนาดนี้ ในใจเธอเริ่มมีความหวาดกลัวขึ้นมา
ทนายระดับต้นงั้นหรอ? มันแย่กว่าทนายทั่วไปอีกนะ เพียงแค่ตำแหน่งดีกว่าทนายฝึกหัดนิดหน่อย แต่จะให้เธอเป็นแบบนั้นเธอยอมไม่ได้แน่
นี่ยังไม่พูดถึงการที่เธอทำงานหนักมาตลอดสามปีอย่างเสียเปล่านะ แล้วสำนักงานติ่งเซิงก็เป็นสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิ่นอานแล้ว แม้จะเป็นทนายความระดับต้นก็เงินเดือนดีกว่าทนายทั่วไปของที่อื่นหลายเท่า
ถึงแม้ว่าเธอจะถูดลดขั้น แต่เธอก็ยังมีความสามารถอยู่แต่ปัญหามันอยู่ที่เวลา แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเธอจะไม่ยอมกลืนน้ำลายตัวเองเด็ดขาด
เธอจะไม่ปล่อยเป่ยฉ่ายเวยไว้แน่ แต่ตอนนี้เธอแค่ต้องทำเป็นฝืนยิ้ม “ฉันเข้าใจค่ะทนายฉู ฉันก็แค่ต้องพยายามให้มากๆเพื่อกลับไปที่ตำแหน่งเดิม
ฉูเจ๋อหยางได้ยินอย่างนั้นแล้วเขาก็เดินออกไปโดยไม่พูดอะไร ทำให้ทุกคนในนั้นรู้สึกโล่งอก
แต่ฉูเจ๋อหยางเดินไปแค่ไม่กี่ก้าว เขาก็หยุด ทำให้แต่ละคนเริ่มระหวาดระแวงกันขึ้นมาอีกรอบ ก่อนที่ฉูเจ๋อหยางจะพูดโดยไม่ได้หันหน้ากลับมา
“ฉันหวังว่าทุกคนจะไม่ลืมให้ความเคารพเพื่อนร่วมงานของตัวเอง และฉันก็ไม่อยากได้ยินข่าวซุบซิบพวกนี้ในเวลาทำงานอีก ต่อไปถ้ามีใครสร้างปัญหาอีกล่ะก็ สำนักงานของเราจะไม่ปล่อยไว้แน่”
“แล้วก็ผู้ช่วยเป่ย อย่าลืมหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบของการเป็นผู้ช่วย”
เมื่อเสียงฝีเท้าของฉูเจ๋อหยางค่อยๆหายไปแล้ว ทุกคนก็พร้อมใจกันถอนหายใจกันอย่างโล่งอก แต่จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้เธอค่อยๆถอยหลังไปดูให้แน่ใจว่าเขาออกไปแล้วจริงๆ แล้วค่อยถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ
“แม่เจ้า ฉันกลัวแทบแย่ คราวนี้ทนายฉูมาแบบเหนือคำบรรยายเลยจริงๆ”
“โอ้ยย ฉันแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว”
“ไปๆ รีบไปทำงานกันต่อเถอะ”
ทุกคนรีบแยกย้ายกันไปทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อเดินออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ แต่ละคนก็กลับไปทำงานของตัวเอง ในใจก็เข้าใจลวี่อานหรานที่ต้องเจอเรื่องที่ยากลำบากขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...