หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 147

บทที่ 147คนช่วยแก้สถานการณ์

ผู้คนโดยรอบจ้องมองลิ่วเอ่อร์จริงๆอย่างที่คิดไว้ เสียงกระซิบกระซาบกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“คนที่เคยติดคุกเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ด้วยหรอ ฝ่ายจัดงานนี่ไม่ปล่อยปละละเลยเกินไปหน่อยหรอ”

“พวกเราเป็นถึงนักธุรกิจหัวกะทิเลยนะ อยู่ร่วมกับคนแบบนี้ในงานไปได้ยังไงกัน”

“ใช่ๆ รู้สึกว่าอากาศสกปรกไปหมดแล้ว”

“ชู่ว เงียบๆหน่อยอย่าพูดไร้อะไรเหลวไหลสิ”

เจี่ยงเสี่ยวเล่อที่กวนเรื่องขึ้นมองฉูเจ๋อหยางอย่างลำพองใจ เหมือนกับกำลังอวดว่าตัวเองเก่งนักหนา

สายตาคมเข้มของฉูเจ๋อหยางเหลือบมองมือที่วางอยู่บนบ่าตัวเอง ทั้งร่างของเจี่ยงเสี่ยวเย่จึงสั่นกระตุกขึ้นมา รีบวางมือของตัวเองลง กลัวว่าถ้าช้ากว่านี้ มือของตัวเองคงไม่อยู่ดีแน่

เขามัวแต่ลำพองใจจนลืมไปเลยจริงๆว่าคนบางคนรักสะอาดมาก จึงมองไปยังมือเล็กๆของเป้ยฉ่ายเวยที่คล้องอยู่กับแขนของฉู๋เจ๋อหยางอย่างหมั่นไส้อยู่หน่อยๆ

เห้อ เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนชัดๆเลย

เมื่อสายตาเกรี้ยวกราดของลิ่วเอ่อร์กวาดมองผู้คนรอบกาย เสียงซุบซิบเบาๆก็หายไปทันที คนเหล่านั้นก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว

ลิ่วเอ่อร์ถอนหายใจแรงอย่างดูแคลน หันหน้ากับมาพูดกับเจี่ยงเสี่ยวเล่ออย่างอาฆาต “เจี่ยงเสี่ยวเล่อ ฝากไว้ก่อนนะ”

“ได้เลย กระผมคนนี้จะรับฝากไว้ กลัวก็แต่ไม่มาเอาคืนสักทีนี่ล่ะนะ” เจี่ยงเสี่ยวเล่อไม่ได้เอาลิ่วเอ่อร์มาอยู่ในสายตาสักนิด ถึงกับจงใจเอ่ยคำพูดยั่วโมโหขึ้น “เมื่อผมสามารถประณามคุณได้ครั้งหนึ่ง ก็สามารถมีครั้งที่สองได้ หรืออาจจะถึงครั้งที่ร้อยแต่ถึงยังไงคุณลิ่วเอ่อร์ก็น่าจะหน้าหนาหน้าทนอยู่แล้วหนิใช่ไหม?”

ท่าทางที่ดูทะนงแบบนั้น ไม่ใช่มีแค่ลิ่วเอ่อร์ที่มองแล้วรู้สึกว่าเส้นเลือดตรงหน้าผากปูดขึ้นมา แม้แต่เป้ยฉ่ายเวยก็รู้สึกเหงื่อตกแทนเขาเลย

ผู้ชายที่ชื่อเจี่ยงเสี่ยวเล่อคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนของฉูเจ๋อหยาง เขาดูไม่กลัวลิ่วเอ่อร์เอาคืนเขาเลย

ลิ่วเอ่อร์อยากจะฉีกกระชากเจี่ยงเสี่ยวเล่อให้เป็นชิ้นๆมันซะเดี๋ยวนี้เลย แต่เขาก็รู้ว่าสถานการณ์ในวันนี้เขาไม่ควรทำอะไรโง่ๆ ทำได้แค่กดความโกรธเอาไว้ข้างใน แล้วจากไปอย่างขุ่นเคือง

คนอื่นๆไม่กล้าทำเป็นว่าสนใจอะไรมาก จึงพูดคุยกันต่อราวกับแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าพวกเขาเหล่านั้นต่างรู้ดี เรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆแน่

เจี่ยงเสี่ยวเล่อเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งขรึม พูดทวงเครดิตให้ตัวเองว่า“อาเจ๋อ นายเห็นหรือยังว่าฉันพยายามจะเบนความสนใจของลิ่วเอ่อร์ ควรได้อะไรตอบแทนนะ เพราะงั้นให้ฉันย้ายไปอยู่บ้านนายสักพักได้ไหม”

ฉูเจ๋อหยางตอบกลับเขาแค่สองคำว่า “อย่าฝัน”

โอบเป้ยฉ่ายเดินไปข้างหน้า

“เห้ยๆ ทำไมนายใจจืดใจดำอย่างนี้ ฉันทำเพื่อคนสวยที่มากับนายเลยนะ” เจี่ยงเสี่ยวเล่อพูดพร้อมยักคิ้วหลิ่วตาให้เป้ยฉ่ายเวย

เป้ยฉ่ายเวยนิ่งอึ้ง ไม่นานก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมเมื่อครู่เจี่ยงเสี่ยวเล่อถึงได้ยั่วโมโหลิ่วเอ่อร์ เพียงแค่อยากช่วยให้เธอรอดพ้นจากสายตาของลิ่วเอ่อร์งั้นหรอ?

สายตาที่ลิ่วเอ่อร์ใช้มองเธอก็ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีจริงๆนั่นแหละ ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ต้องกล่าวขอบคุณกับเขาสักหน่อย “ขอบคุณ คุณเจี่ยงมากนะคะ”

คิ้วของฉูเจ๋อหยางขมวดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าพูดกับเป้ยฉ่ายเวยหรือเจี่ยงเสี่ยวเล่อกันแน่

“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”

“อาเจ๋อ นายช่างกล้าแหกอกฉัน ฉันวิ่งจากที่ไกลโพ้นเพื่อมาให้ความช่วยเหลือนายเลยนะ นายนี่มันใจร้ายจริงๆ” เจี่ยงเสี่ยวเล่อกุมอกทำท่าเจ็บหัวใจ

เมื่อเห็นว่าฉูเจ๋อหยางไม่สนใจเขา เขาเลยเปลี่ยนแผน เดินอ้อมไปอยู่ข้างๆเป้ยฉ่ายเวย

พูดกับเธออย่างเป็นกันเอง “คุณคนสวยครับ คุณทนรับมือกับภูเขาน้ำแข็งอย่างเขาได้ยังไงกัน ผมว่าคุณไปเต้นรำกับผมดีกว่า ตอนกลับเดี๋ยวผมไปส่งคุณเองเป็นไง”

เจี่ยงเสี่ยวเล่อจงใจเน้นคำว่า ‘เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง’ อย่างกำกวม

“ก็เปล่า” มุมปากของเป้ยฉ่ายเวยอ้าออกแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร คนนอกอย่างเธอทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว คนที่แทบไม่เกี่ยวอย่างเธอจะเข้าไปยุ่งก็กระไรอยู่

เป้ยฉ่ายเวยเดินตามฉูเจ๋อหยางไปพบผู้คนอีกเยอะ และดื่มไปเยอะด้วย ถึงความแรงจะไม่แรงมาก แต่เธอก็ยังกลัวว่าจะเมาจนภาพตัดเหมือนครั้งที่ผ่านมา

จึงขอตัวมาเข้าห้องน้ำเพื่อหนีออกมา

เมื่อเดินออกมาจากฮอลใหญ่ที่ร้อนอบอ้าว เป้ยฉ่ายเวยจึงแอบออกมาอู้ แต่ใครบางคนก็ไม่น่ามาเห็นเธอตอนนี้เลย

อย่างเช่นลิ่วเอ่อร์ที่เพิ่งจากไปอย่างฉุนเฉียวเมื่อครู่ “นี่มันคนสวยของทนายฉูนี่นา แอบออกมาอู้อยู่นี่คนเดียว ไม่ชอบงานในนั้นหรือไง”

เป้ยฉ่ายเวยกำมือหน่อยๆ หันกลับไปตีหน้าตายมองลิ่วเอ่อร์ที่ยิ้มอ่อนๆเดินตรงมาหาตัวเอง พูดขึ้นเสียงนิ่งๆว่า “คุณลิ่วเอ่อร์ คุณน่าจะเข้าใจผิดแล้ว ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยของทนายฉูเท่านั้นเอง”

“หรอครับ ผมก็นึกว่าคุณเป็นคนของเขาซะอีก ดูเขาเอาใส่ใจคุณมากเลยนะ” ลิ่วเอ่อร์มองหญิงสาวที่ดูไม่สะทกสะท้านอะไรตรงหน้า ดวงตาไล่มองหญิงสาวด้วยแววที่สื่อความหมายบางอย่าง ไม่บ่อยนักที่จะมีผู้หญิงใจกล้ามองตาเขาแบบนี้

“คุณลิ่วเอ่อร์ดูท่าจะสนใจเรื่องของทนายฉูนะคะ ไม่ไปถามเขาเอาเองล่ะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ขอตัวนะคะ” เป้ยฉ่ายเวยยอมพบปะผู้คนกับฉูเจ๋อหยางบนโต๊ะสังสรรค์ ยังจะดีกว่าอยู่กับผู้ชายที่ดูโหดร้ายแบบนี้

ลิ่วเอ่อร์ไม่ได้ขยับไปไหน ปล่อยให้เป้ยฉ่ายเวยเดินผ่านไป “คุณเป้ยรีบไปไหนกัน คุณไม่อยากรู้เรื่องราวระหว่างผมกับทนายฉูหรอ?”

ตอนที่เขากลับออกมาจากงานนั่นเขาได้ทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงที่มากับฉูเจ๋อหยางแล้ว ผู้หญิงคนนี้คงจะเป็นคู่นอนของฉูเจ๋อหยางแน่ๆ

ดูจากอารมณ์คนตรงหน้าแล้ว ที่แท้ฉูเจ๋อหยางก็มีรสนิยมแบบนี้นี่เอง ชอบปราบม้าพยศให้เชื่อง

ดูร้อนแรงถ้าเขาสนใจแล้วทำอะไรได้บ้าง

เป้ยฉ่ายเวยพูดออกไป พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่สนเรื่องของพวกคุณหรอก”

พูดพร้อมกับออกเท้าเดินกลับไปทางงานเลี้ยง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว