บทที่ 160 สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความตาย
ฉูเจ๋อหยางหลับไปไม่นานนัก แค่งีบหลับไปไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมาแล้ว
ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของผู้หญิงในอ้อมกอด ดวงตาคมเข้มก็ก้มมองริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ ริมฝีปากคู่นั้นเสียดสีเข้ากับแขนของเขาตามลมหายใจเข้าออกของเธอ
ทำให้เขาอ่อนน้วยแทบบ้า
เขาก็ผู้ชายปกติทั่วไป แล้วยังก็เพิ่งตื่นด้วย เพราะงั้นฉูเจ๋อหยางจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองง่ายเป็นพิเศษ
เป้ยฉ่ายเวยกำลังฝีน เธอฝันว่าตัวเองกลายร่างเป็นปลา แหวกว่ายอย่างอิสระในท้องทะเลกว้าง แต่ทันใดนั้นเองก็เกิดน้ำวนดึงดูดเธอเข้าไปในนั้น
พื้นที่ตรงหน้าอกราวกับโดนอะไรสักอย่างดึงดูดไป เธอที่อยู่ในร่างปลาก็รู้สึกใกล้จะหายใจไม่ออก
มันไม่สอดคล้องกับตรรกะของปลาเลย เป็นปลานะจะจมน้ำตายได้ยังไง
จากนั้นเป้ยฉ่ายเวยก็คิดได้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ จึงลืมตาขึ้นสู่โลกแห่งความจริงอย่างกะทันหัน ถึงได้พบว่าปากนุ่มของตัวเองถูกใครบางคนครอบครองเอาไว้อยู่ ทั้งดูดดึงดุนดัน จนเกิดเสียงที่น่าอายออกมา
เมื่อมองดีๆ ที่แท้ก็เป็นฉูเจ๋อหยางที่กำลังดูดกลืนริมฝีปากของเธออย่างรุนแรงราวกับปากเธอเป็นเจลลี่
เธอกำลังจะร้องถามด้วยความโกรธ จึงลืมไปเลยว่าปากตัวเองยังถูกเขาครอบครองอยู่ ทันทีที่อ้าปากขึ้นลิ้นอุ่นๆของเขาก็แทรกผ่านริมฝีปากเธอเข้ามาในทันที เกี่ยวพันลิ้นของเธออย่างไม่จบไม่สิ้น อย่างกับอยากจะดูดกลืนวิญญาณของเธอไปด้วย
ในหัวของเป้ยฉ่ายเวยว่างเปล่า คำที่อยากจะพูดก็ลืมไปหมดสิ้น ปิดตาลงอย่างช่วยไม่ได้ ตอบรับจูบร้อนแรงราวพายุกระหน่ำที่เขามอบให้อย่างเก้ๆกังๆ
ไม่ทันมองเห็นดวงตาที่ฉายแววขำขันของชายหนุ่ม
ตอนแรกฉูเจ๋อหยางไม่พอใจที่ต้องจูบเองคนเดียว ดีที่เธอตื่นขึ้นมาพอดี ก็ถือซะว่าทำตามสัญญาของเขาครั้งก่อนก็แล้วกัน
เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกตัวอย่างสะลึมสะลือว่ากางเกงถูกใครบางคนดึง จากนั้นมือที่ร้อนผ่าวของฉูเจ๋อหยางไล้วนจากเอวเล็กของเธอไปจนถึงแผ่นหลัง ในพริบตาต่อมา หน้าอกก็รู้สึกโล่งๆ ก้อนนุ่มนิ่มทั้งสองข้างก็เด้งออกมาทันที
อุณหภูมิในร่างกายค่อยๆเพิ่มขึ้นสูง จากตอนแรกที่นอนหันข้าง ต่อมาก็ถูกพลิกให้นอนหงายอยู่ใต้ร่างของเขา
กลับมามีสติได้ไม่ถึงวิ ก็ถูกจูบอีกครั้งจนเวียนหัว เธอถูกถอดออกจนหมด
ลมหายใจที่มั่นคงของฉูเจ๋อหยางเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงขึ้น ยกมือขึ้นจะดึงผ้าห่มบนร่างของเธอออก
เป้ยฉ่ายเวยที่สะลึมสะลืออยู่นั้นก็รู้สึกตัวในทันที ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน เธอเกือบจะลืมไปได้ยังไงกัน รีบกอบกุมผ้าห่มไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ไม่ ไม่ให้เขาเห็นรอยนั้นหรอก
เสียงทุ้มของฉูเจ๋อหยางเจือไปด้วยความกระเส่าถามขึ้น “เป็นอะไรไป”
“อย่ามอง” เสียงของเป้ยฉ่ายเวยเวยพูดขึ้นแผ่วเบา
นัยน์ตาของฉูเจ๋อหยางลุ่มลึก ความร้อนรุ่มในนั้นราวกับจะหลอมละลายเธอ แต่สุดท้ายก็ยังเปิดผ้าห่มออกและพูดขึ้นเสียงต่ำชิดริมหูเธอ “งั้นคุณต้องชดใช้ให้ผม”
ใบหน้าของเป้ยฉ่ายเวยแดงแปร๊ด เธอเป็นแบบนี้ แล้วจะไปชดใช้อะไรได้?
ไม่นานฉูเจ๋อหยางก็พาเธอไปยังโลกใบใหม่ อะไรคือความอดทน? ฉูเจ๋อหยางไม่มีเลยสักนิด
ฉูเจ๋อหยางไม่ได้สัมผัสเธอมานานแล้ว แล้วเขาก็ทนข่มความปรารถนาที่กู่ร้องอยู่ข้างในไม่ได้แล้ว แยกขาที่ทั้งขาวทั้งยาวของเธอขึ้นพาดไว้บนบ่า แทรกตัวเข้าไปตรงกลาง
ถ้าเป้ยฉ่ายเวยไม่ตัวอ่อนปวกเปียกแบบนี้ ก็คงทำท่าทางที่ดูน่าอายไม่ได้ ร่างกายโก็งโค้งตามสัญชาตญาณ
เสียงหายใจรัวเร็วและสะเปะสะปะ แววตาที่สับสนจ้องมองผู้ชายที่อยู่เหนือร่าง เธออยากจะบอกว่าเธอไม่ชินกับท่าทางแบบนี้
แต่เธอยังคิดได้ไม่ทันไร ตรงนั้นก็ถูกความแข็งขืนบางอย่างกดเข้ามา วินาทีต่อมาราวกับว่าจะแทงทะลุเข้ามาในร่างของเธอ
ในหัวนึกภาพถึงคืนนั้น ใจก็เริ่มอยากจะถอนตัวออกกลางคัน
เธอรู้เธอพลาดไปแล้ว เธอยอมแพ้แล้วได้ไหม?
ชายหนุ่มกดตัวตนเข้ามาแล้ว จะให้เธอถอยออกง่ายๆได้ยังไง เขากักกันเธอไว้ใต้ร่าง มือใหญ่ทั้งสองข้างจับเอวคอดของเธอไว้ ความแข็งแรงของร่างกายกดย้ำตามลงมา
เป้ยฉ่ายเวยไม่ชินกับความแข็งขืนของตัวตนเขา จึงเริ่มงอนิ้วเท้าที่กระจุ๋มกระจิ๋มเข้าหากัน
ชายหนุ่มที่อดยากมานานยิ่งหมือนสัตว์ป่าดุร้ายที่หิวกระหาย ทุกการตอกย้ำลึกเข้าไปถึงจุดอ่อนไหวของเธอ ราวกับอยากจะเข้าไปสัมผัสทั้งร่างของเธอ
“เบา...หน่อย... จะ.....”เป้ยฉ่ายเวยที่โดนกระทำบอกเสียงกระท่อนกระแท่น ทำได้แค่กัดริมฝีปากเอาไว้ ส่งเสียงออกไปอย่างยากลำบาก
เธอช่างไม่รู้เลยว่าเสียงที่เหมือนแมวตัวเล็กๆของเธอยิ่งกระตุ้นความป่าเถื่อนในตัวของชายหนุ่ม ฉูเจ๋อหยางที่ตอนแรกถนอมเธอ ตอนนี้กลับขยับรัวไม่หยุดอย่างบ้าคลั่ง
เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกราวกับตัวเองเป็นเรือลำน้อยกลางทะเลใหญ่ ทำได้แค่ทนถูกคลื่นซัดสาดใกล้จะพังทลายลง
เสียงสะอื้นเล็กๆดังขึ้น “ฉู..เจ๋อ..หยาง..คน..อ่า..เลว...”
เธอจะตายแล้ว ไอ้คนเลว อย่ารุนแรงขนาดนี้ได้ไหม
ฉูเจ๋อหยางหยุดขยับ ขาของเป้ยฉ่ายเวยก็ถูกวางลง เธอคิดว่าเขาจะรู้แล้วว่าเธอเจ็บถึงได้ใจดีแบบนี้ แต่น่าเสียดายที่เธอประเมินเขาต่ำไป
มองเขาที่พลิกตัวเธอให้หันข้าง สองขาถูกรวบเข้าแนบชิด ความรุนแรงก็แทรกลึกมาอีก
ฉูเจ๋อหยางใจดีอยู่อย่างเดียวคือ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปเป็นท่าไหน ก็ไม่ทำให้มือข้างที่เป็นแผลของเธอกระทบเข้ากับส่วนอื่น
เดี๋ยวก็ให้เธอนอนราบกับเตียง เดี๋ยวก็อุ้มเธอมานั่งบนตัว เดี๋ยวก็ให้เธอหันหลังให้
สุดท้ายเป้ยฉ่ายเวยก็คิดได้อยู่อย่างเดียวนั่นก็คือเธอต้องอยู่ห่างจากฉูเจ๋อหยางผู้ชายที่หน้าเนื้อใจเสือแบบนี้
หลังจากพลิกไปพลิกมาอยู่หลายครั้ง ฉูเจ๋อหยางก็ถอนตัวออก ยอมปล่อยเธอไปถึงอยากจะทำต่อ
เป้ยฉ่ายเวยนอนตัวอ่อนปวกเปียกอยู่บนเตียง
ชายหนุ่มข้างกายลุกขึ้นจากเตียงอย่างวางมาด เป้ยฉ่ายเวยหมดเรี่ยวแรงหันมองตาม ทำได้แค่หลับตาลงพร้อมใบหน้าแดงๆ
ฉูเจ๋อหยางคึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เธอชักจะคิดถึงฉูเจ๋อหยางคนเย็นชาซะแล้วสิ
ไม่นานเสียงอาบน้ำก็ดังมาจากห้องน้ำ เป้ยฉ่ายเวยเหนื่อยจนไม่อยากขยับไปไหน ถึงในห้องจะปิดผ้าม่านไว้แล้ว แต่เธอก็ยังทั้งโกรธทั้งอายอยู่ดี
ให้ตาย เธอจะไม่มีหน้าไปเจอใครแล้วนะ
ในตอนที่เธอทั้งเศร้าทั้งสงสารตัวเองอยู่นั้น ฉูเจ๋อหยางก็เดินออกมาจากห้องน้ำยื่นมือจะดึงผ้าห่มออก
ป้ายเวยฉ่ายที่เดิมทีก็เหมือนปลาตายอยู่แล้วก็รีบสะดุ้งตื่นจากความตาย มองเขาอย่างระแวง เสียงอึกๆอักๆพูดขึ้น “จะทำอะไร”
ฉูเจ๋อหยางที่ผ่านศึกมาแล้วหลายยก เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “คุณคิดจะนอนอยู่แบบนี้หรือไง”
เป้ยฉ่ายเวยเหลือบเห็นผ้าเช็ดตัวในมือของเขา ใบหน้าก็เห่อร้อน ดึงผ้าเช็ดตัวมาไว้กับตัวพูดขึ้น “ฉันทำเองได้”
ฉูเจ๋อหยางเลิกคิ้ว ตอนนี้เขาอารมณ์ดีมากๆ จึงไม่ขัดขวางการกระทำของเธอ
เป้ยฉ่ายเวยคิดไม่ถึงเลยว่าฉูเจ๋อหยางจะยังละเอียดอ่อนแบบนี้ ปัดผ้าขนหนูแล้วค่อยส่งมาให้ จากนั้นฉูเจ๋อหยางรับผ้ากลับไปแล้วก็เดินไปยังห้องน้ำ
เป้ยฉ่ายเวยไม่กล้าวางใจ จึงใส่เสื้อผ้าอย่างเงอะงะอยู่บนเตียง
กางเกงชั้นในสีดำถูกเธอถือไว้ในมือ เป้ยฉ่ายเวยเบิกตากว้างจ้องมองสิ่งที่อยู่ในมือราวกับว่าที่ถืออยู่คือระเบิดจึงรีบโยนออกห่างจากตัว
หาเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่ได้แต่ละชิ้นนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะรู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมาก็ช่างยากเย็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว