หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 166

บทที่166 ไม่ใช่แค่น่ารักแต่ว่ายังรู้ความ

เมื่อรุ่ยรุ่ยได้ยินน้ำเสียงเย็นชาจากฉูเจ๋อหยาง ร่างเขาสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยปากตะโกนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “ลุงฉู ผมปู้ติง ลุงยังจำผมเด็กผู้น่ารักและตลกได้ไหมครับ”

เสียงพ่อช่างน่ากลัวนัก ไม่ได้ทะเลาะกับแม่มาใช่ไหมนะ มิน่าเขาถึงรู้สึกว่าเมื่อครู่น้ำเสียงของแม่แปลกๆ

หึหึ เขาโทรถูกเบอร์แล้ว

พอได้ยินชื่อ สมองฉูเจ๋อหยางก็มีใบหน้าน้อยๆน่ารักของรุ่ยรุ่ยโผล่ขึ้นมา ไม่รู้ทำไมความเย็นชาในแววตาก็ค่อยๆจางหายไป “อื้อ จำได้ ดึกแล้วยังไม่นอนอีกรึ”

ตอนนี้น่าจะราวสี่ทุ่มแล้วนะ เด็กควรจะนอนตั้งแต่หัวค่ำไม่ใช่รึ เมื่อเขาถึงนึกถึงพ่อแม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อเด็ก ใจเขาก็อ่อนลงในทันที

ถ้าหากว่าฉูเจ๋อหยางรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงแล้วก็คือตัวเขาเอง ไม่รู้ว่าเขาจะว่าอย่างไร

“เฮ่อ จะนอนหลับได้อย่างไร แม่กำลังเศร้า พ่อก็ไม่สนใจ ทำตัวเหมือนเด็กๆกันทั้งคู่ เด็กอย่างผมก็ได้แต่ทุกข์ใจ” รุ่ยรุ่ยตอบอย่างคลุมเครือ แต่เขาก็พูดไม่ผิด

ที่แม่เศร้าก็เป็นเพราะพ่อ ที่พ่อโมโหก็เป็นเพราะแม่ ในฐานะลูกชายของพวกท่านทั้งสอง เขาจะต้องประพฤติตัวให้น่ารักและมีเหตุมีผล และบางครั้งยังต้องคอยปรับความรู้สึกระหว่างพวกท่าน

มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ

“หนูยังเด็ก ไม่ต้องสนใจเรื่องของผู้ใหญ่” ฉูเจ๋อหยางจอดรถข้างทาง เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวนและเสียบไว้ที่ปาก จุดไฟ วงแหวนควันกระจายออกไปเล็กน้อยภายในรถ อารมณ์หงุดหงิดของเขาค่อยๆสงบนิ่งลง

“จะไม่ใช่เรื่องของผมได้อย่างไร พวกท่านอารมณ์ไม่ดีนั่นก็ทำให้ผมอารมณ์ไม่ดีไม่ใช่หรอครับ” รุ่ยรุ่ยพูดอย่างน่าสงสาร

ฉูเจ๋อหยางถามปนเหน็บแนม “จะให้ลุงช่วยอะไร”

แต่ไหนมาเขาก็ไม่ได้เป็นคนจิตใจดีอะไร ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจใครเป็นพิเศษ แต่สำหรับเด็กคนนี้แล้ว เขากลับมีความอดทนอย่างน่าประหลาดใจ เขาไม่ชอบใจที่เห็นเด็กคนนี้ไม่มีความสุข

ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดอันยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเป็นพ่อคน แต่เขาก็รู้สึกว่าบางทีนี่อาจจะเป็นความรู้สึกของคนเป็นพ่อก็ได้นะ

ราวกับว่าเขาและเด็กคนนั้นมีพรหมลิขิตต่อกันอย่างน่าแปลกประหลาด

ครั้งแรกที่เห็น ฉูเจ๋อหยางคิดว่าพ่อแม่ของเด็กทำอย่างไรถึงได้มีลูกเป็นเด็กฉลาดรู้ความเช่นนี้

“น่าจะเพราะว่าพ่อที่น่าผิดหวังของผมชอบทำให้แม่ไม่มีความสุข”

รุ่ยรุ่ยหลอกด่าฉูเจ๋อหยางไปหนึ่งประโยค เขายังคงพ่นคำพูดอันแสนดื้อรั้นออกมาอย่างต่อเนื่อง “ข้างกายพ่อมีคุณน้าคนหนึ่งคบกันด้วยสถานะที่ไม่ชัดเจน หล่อนมักจะรังแกแม่เสมอ แม่ก็ไม่สามารถฉีกหน้าหล่อนได้เพราะความสัมพันธ์บางอย่าง ตอนนี้สถานการณ์มันรุนแรงแล้วควรทำอย่างไร”

เรื่องทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาแอบฟังมาจากคุณป้าอย่างลับๆ

ที่แท้มันก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายชายทำให้เสียเรื่อง ฉูเจ๋อหยางดูดบุหรี่อีกครั้ง และส่งเสียงพึมพำออกมา “ปู้ติง ถ้าหากว่าพ่อแม่หนูแยกทางกัน หนูจะไปอยู่กับใคร”

“กับแม่แน่นอนอยู่แล้ว นิสัยพ่อแบบนี้จะเปลี่ยนได้หรือยังไง” รุ่ยรุ่ยตอบอย่างจริงใจ

ฉูเจ๋อหยางที่ปลายสายวาดสายตาของเขาออกไปไกล ทำไมเขารู้สึกไม่สบายใจเมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของปู้ติง คิดแล้วคิดอีกว่าพ่อที่เด็กพูดถึงก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขา แต่ทำไมเขากลับรู้สึกแปลกๆ

“ที่แท้หนูก็คิดเอาไว้แล้ว คอยปกป้องแม่ก็ดีแล้วล่ะ”

การหย่าร้างมักทำร้ายเด็ก ยังมีเด็กที่พ่อแม่ทิ้งไปเพราะเห็นว่าไร้ค่า คนเป็นพ่อนั่นช่างล้มเหลวจริงๆ

รุ่ยรุ่ยแสร้งทำเป็นพูดอย่างเศร้าสร้อย “แต่ผมไม่อยากให้แม่เสียใจ ดูเหมือนแม่จะยังมีความรู้สึกดีกับพ่ออยู่ แต่ดูเหมือนพ่อจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นกับแม่แล้ว”

ยังรู้สึกดีอยู่รึ ฉูเจ๋อหยางนึกถึงเป้ยฉ่ายเวยที่อยู่ที่โรงพยาบาล เขาจะมีหน้าไปโกรธเธอได้อย่างไร ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ทิ้งหล่อนอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียว หนานฉิงจะเข้าใกล้หล่อนได้อย่างไรกัน

จะว่าไปแล้วเขาโกรธตัวเองต่างหากที่ปล่อยให้เธอถูกทำร้าย

“ลุงฉูยังอยู่รึเปล่าครับ ลุงคิดว่าสถานการณ์พ่อกับแม่เป็นอย่างนี้ยังพอจะช่วยอะไรได้ไหมครับ ที่จริงแล้วแม่ผมสวยและใจดีมาก และยังเป็นหญิงแกร่งอีกต่างหาก มีลุงคนอื่นพยายามจะมาจีบแม่อยู่ด้วย” รุ่ยรุ่ยเห็นฉูเจ๋อหยางไม่พูดอะไรอยู่นาน จึงคิดว่าเขาไม่ได้สนใจแล้ว

“อื้อ ยังอยู่” ฉูเจ๋อหยางได้สติกลับมาและยิ้มขึ้น ในสายตาของเด็กน้อยแม่ของเขาสวยงามที่สุด เขาเข้าใจได้

“ถ้าอย่างนั้นลุงว่าผมควรทำอย่างไรครับ เปลี่ยนพ่อเลยดีไหมครับ ลุงคนอื่นก็ไม่เลวนะ” รุ่ยรุ่ยคิดคำนวณ เมื่อถึงเวลาที่พ่อรู้จักเขาจริงๆ เขาจะแกล้งทำเป็นจำไม่ได้รึเปล่า

“ถ้าหากว่าพ่อของเธอไม่ใช่คนแบบนั้น ผู้หญิงก็ไม่ควรที่จะมีทิฐิจนเกินไป ปรับเปลี่ยนความคิดนิดเดียว อาจจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันนะ”

ฉูเจ๋อหยางรู้ว่าปู้ติงอาจจะฟังไม่เข้าใจ แต่ขณะคุยกับเขาในเรื่องนี้ สิ่งที่ผุดขึ้นในหัวเขาก็คือดวงตาน้อยใจของผู้หญิงตัวน้อยคนนั้น

หล่อนอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียว ต้องร้องไห้อยู่แน่นอน

“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเพราะว่าพ่อปากแข็งเกินไป ผู้ชายที่พูดคำว่ารักไม่เป็นช่างน่าสงสารนัก ข้างนอกมีคนหล่ออยู่มากมาย แม่ผมก็ช่างดีงาม เฮ่อ น่าเป็นห่วงพ่อจริงๆ”

ทำไมฉูเจ๋อหยางรู้สึกว่าน้ำเสียงของปู้ติงกำลังพูดด้วยความเห็นใจเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจแม่ผู้ “ดีงาม” ที่ปู้ติงพูดถึง “ตอนนี้ลุงสงสัยแล้วว่าหนูชอบแม่ของหนูมากที่สุดใช่รึเปล่า”

“แน่นอนสิ แม่เป็นนางฟ้าของผม” รุ่ยรุ่ยคิดและอายนิดหน่อยที่จะพูดออกมา “พ่อก็ยอดเยี่ยมเหมือนกันนะ แต่แค่การแสดงออกของพ่อเย็นชาเกินไปหน่อย”

“นั่นเป็นการแสดงออกของผู้ชายที่มีวุฒิภาวะ” ฉูเจ๋อหยางมีปณิธานลูกผู้ชายอันยิ่งใหญ่อยู่ภายใน หากคิดจะทำอะไร เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่จะพูดพร่ำไปเรื่อย

รุ่ยรุ่ยเตือนด้วยความหวังดี “ในเมื่อพูดเช่นนี้ ลุงว่าผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่ใส่ใจถามสารทุกข์ดิบของเธอหรือว่าจะชอบผู้ชายที่มีให้ทุกอย่างแต่ว่าแม้แต่ชื่อนามสกุลของเขาเธอก็ไม่รู้จักล่ะครับ”

พ่อนะ ทำไมถึงไม่เป็นขนาดนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นแม่จะรู้ความดีของพ่อได้อย่างไร หนังสือบอกไว้ว่าผู้หญิงเป็นสัตว์ที่ชอบใช้อารมณ์ แค่พ่อทำให้เธอรู้ เธอถึงจะรู้ไง

หรือพ่อจะให้แม่เดามั่วเอาเอง

อีกอย่างเขาก็พูดชัดเจนแล้ว ทำไมพ่อถึงยังไม่เข้าใจอีก พ่อนี่โง่จังเลยนะ

ฉูเจ๋อหยางดวงตาเป็นประกาย อยู่ๆเขาก็รู้สึกต้องการเห็นหน้าผู้หญิงตัวน้อยคนนั้นขึ้นมาอย่างลึกลับ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเร่งด่วนเล็กน้อย “เรื่องของผู้ใหญ่หนูยังไม่ต้องสนใจไปก่อน ดึกแล้วเข้านอนได้แล้ว ถ้ามีเวลาลุงจะขอนัดพบพ่อแม่ของหนูสักหน่อย”

เมื่อได้ยินว่าจะนัดเจอพ่อแม่ของเขา รุ่ยรุ่ยก็รีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ลุงฉูไม่ต้องรบกวนลุงหรอกครับ ไว้ค่อยคุยกันใหม่ ราตรีสวัสดิ์ครับ”

“คลิก” รุ่ยรุ่ยวางสายไป นัดพบพ่อแม่ เขาจะไปหาพ่อแม่คู่หนึ่งมาจากที่ไหนล่ะ ทุกคนก็รู้จักกันหมดแล้วใช่ไหมล่ะ จะแสดงตัวต้องรอให้ถึงเวลาสุกงอมอีกสักหน่อย

ฉูเจ๋อหยางถูกวางสายใส่แต่เขาก็ไม่ได้โกรธ เขาทิ้งโทรศัพท์ไปข้างๆและโยนบุหรี่ในมือลงพื้น เขาคิดถึงเส้นทางที่จะไป และเหยียบคันเร่งเพื่อถอยหลัง

ขับกลับไป

เมื่อได้ยินเสียงดังอู้อี้อยู่ภายในห้อง อวี๋ซือซือจึงเปิดประตูเข้าไปถาม “รุ่ยรุ่ยพูดกับใครอยู่ครับ”

“เปล่าครับ คุณป้าผมจะนอนแล้วครับ” รุ่ยรุ่ยโผล่ศีรษะออกมาเล็กน้อย

“อื้อ รีบเข้านอนได้แล้วนะคนดี” อวี๋ซือซือยักไหล่และปิดประตู ช่างเถอะ เธออาจจะหูแว่วไปเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว