หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 172

บทที่172 แย่แล้วมีคนบุกเข้ามา

“พี่หมาแย่แล้ว” ชายที่ถูกให้ไปตามลิงวิ่งตะโกนมาด้วยความตื่นตระหนก

หมาป่ายกเท้าขึ้นถีบชายคนนั้นอย่างไม่สบอารมณ์ “มึงพูดจาให้รู้เรื่องหน่อยได้ไหม ใครแย่แล้ว”

ชายคนนั้นรู้ตัวแล้วว่าตัวเองพูดผิดไปเขาจึงพยายามแก้ไขคำพูด “ครับ พี่หมากผมแย่แล้ว ผมแย่แล้ว”

“มีอะไรรีบว่ามา” หมาป่าเหลือบไปเห็นสายตาที่มองมาของลิ่วเอ่อร์เขาจึงรีบถาม

“เกิด เกิดเรื่องแล้ว…” ชายคนนั้นพูดยังไม่ทันจบ

ด้านนอกก็มีเสียงครวญครางแว่วมา หลังจากนั้นชายสองคนก็วิ่งพล่านเข้ามาส่งข่าว “เฮียเอ่อแย่แล้ว มีคนบุกเข้ามา”

หมาป่าเห็นว่าสีหน้าของลิ่วเอ่อร์เริ่มจะไม่ดี เขาจึงลุกขึ้นและคว้าตัวน้องชายผู้ตื่นตระหนกไว้และคำรามอย่างบ้าคลั่ง “ไอ้หน้าไหนที่มันกล้า”

ชายคนนั้นชี้ไปทางประตูและพูดโดยไม่สามารถพ่นล่มหายใจออกมาได้ “คนนั้น คือ คือ ฉู ฉู---”

“มันเป็นแค่เศษสวะ” เมื่อหมาป่าเห็น เขาก็เตะเท้าออกไป

ห้องโถงที่เคยอึกทึกตอนนี้กลายเป็นเงียบถนัด มีแค่เพียงเสียงอู้อี้ของดีเจเท่านั้น

ฝูงชนพากันหลบหลีกจนเกิดเป็นทางเดินขึ้นตรงกลาง

ให้ร่างกำยำของชายคนนั้นค่อยๆเข้าใกล้ ดวงตาอันชั่วร้ายของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น คนทั้งหมดพากันร่าถอยไป

ฉูเจ๋อหยางเหมือนเป็นเทพแห่งสรรพสิ่ง เขาเยือกเย็นไม่แคร์ความเป็นความตาย ดวงตาน้ำแข็งจ้องไปที่ลิ่วเอ่อร์และพูดช้าๆอย่างเยือกเย็น “ได้ยินว่า คุณหาผมอยู่”

เขาเพิ่งจะพูดจบ

--ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น มีเสียงวัตถุบางอย่างตกลงบนพื้น ผู้ชายที่ชื่อลิงล้มลงกับพื้นโดยไม่ส่งเสียงอะไรแม้แต่น้อย

บรรยากาศตึงเครียด

“มึงกล้าแตะต้องพี่น้องของกู” เมื่อหมาป่าเห็นลิงกลายเป็นเช่นนี้ ดวงตาเขากลายเป็นสีแดงในทันที เขากำหมัดหนักมุ่งโบกไปยังใบหน้าของฉูเจ๋อหยาง

มุมปากฉูเจ๋อหยางโค้งงอ ร่างกายไม่ไหวติง ด้านหลังปรากฏเงาของบุคคลหนึ่ง โผล่ออกมารับหมัดของหมาป่าอย่างสบายๆ จากนั้นก็เตะเข้าที่กระดูกสะบักหัวเข่าของหมาป่า

จากนั้นไม่นาน หมาป่าก็คุกเข่าลงตรงหน้าผู้ชายคนนั้น

“พบกันครั้งแรก ไม่ต้องส่งของกำนัลกันขนาดนี้ก็ได้” ถังฉีตงพูดด้วยรอยยิ้ม

“กำนัลแม่มึงสิ” หมาป่าทั้งโกรธทั้งอาย เขาดิ้นรนเพื่อที่จะลุกขึ้นจากพื้นต้องการที่จะสู้ตายกับพวกเขา

ผู้คนรอบตัวหลายสิบคนต่างกระตือรือร้นที่จะก้าวไปข้างหน้า

ลิ่วเอ่อร์ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาไม่ได้กล่าวอะไร เขาผลักผู้หญิงข้างกายออกและลุกขึ้น หมาป่าต้องการที่จะออกมาด้านหน้า เขาจึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “หมาป่าอย่าโมโห ตอนนี้เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย ทนายฉูรู้ดีกว่าผม ฆ่าคนนั้นโทษถึงประหารชีวิต”

หมาป่านิ่งไป ไม่นานเขาก็เข้าใจสิ่งที่ลิ่วเอ่อร์พูด “ก็ได้ เฮียเอ่อร์เฮียต้องจัดการให้พี่น้องเราด้วยนะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ทราบว่าทนายฉูเห็นว่าอย่างไร”

ลิ่วเอ่อร์มองฉูเจ๋อหยางอย่างเย็นชา ทนายฉูใช้คนแค่สองสามคนก็กล้าบุกรุกเข้ามาในถิ่นของเขา ทนายฉูช่างไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

“ใครบอกว่าเขาตายแล้ว จอมเผด็จการ” ถังฉีตงตะโกนให้เรียกให้คนที่อยู่ในเงามืดออกมา

คนที่ถูกเรียกว่าจอมเผด็จการโผล่ออกมาอย่างนุ่มนวล จมูกเป็นสันของเขามีแว่นดำแขวนอยู่ มองอย่างนี้ก็เหมือนกับชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง เขาเดินไปที่ข้างกายของลิง เขาไม่กระพริบตาก็เหยียบลงบนฝ่ามือของลิง

นาทีต่อมา บดขยี้

แต่เดิมลิงซึ่งเหมือนหมานอนตายซาก จู่ๆก็ครางออกมาด้วยความเจ็บปวด “โอ้ย...เจ็บ...ชิบ...หาย...สัด”

จอมเผด็จการดันกรอบแว่นขึ้นด้วยความคุ้นชิน และพูดขึ้นลอยๆ “ดูเอา มันยังไม่ตาย”

“ฉูเจ๋อหยาง มึงมาทำคนของกูเรื่องอะไร” ลิ่วเอ่อร์ก้าวเท้าลงมาเผชิญหน้ากับฉูเจ๋อหยาง สีหน้าแววตาของเขาดูเหมือนจะโกรธเกลียดฉูเจ๋อหยางเข้าไปถึงรูขุมขนเข้าไปในกระแสเลือด

ท่าทีของฉูเจ๋อหยางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ความสงบนิ่งของเขาดูเหมือนจะหยุดทุกสิ่งรอบตัว “ผมคิดว่าของขวัญรอบที่แล้วคุณคงยังไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ คราวนี้ผมเลยมาส่งให้ด้วยตัวเอง”

ลิ่วเอ่อร์นึกถึง “ของขวัญ” ที่ฉูเจ๋อหยางมอบให้เขาเมื่อคราวก่อน เขาไม่สามารถรักษาอาการสงบนิ่งได้อีกต่อไป เขาแสดงท่าทางดุร้ายออกมา ฉูเจ๋อหยางอายที่จะพูดถึงเรื่องนี้

วันนั้นเขาบังเอิญส่งพัสดุกลับมาจากต่างจังหวัด ระหว่างทางได้ถูกกลุ่มต่อต้านยาเสพติดฆ่าตาย สินค้าล๊อตนั้นไม่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

หากว่าเขาไม่ได้ขนมันด้วยตัวเอง นั่นเกือบจะทำลายความร่วมมือกันระหว่างเขากับคุณเสิ่น เขายังไม่ได้ไปคิดบัญชีกับฉูเจ๋อหยางเลย ทนายฉูยังมีหน้ากล้าเดินเข้าประตูมาอีก

“ฉูเจ๋อหยาง วันนี้มึงกล้ามาที่นี่ มึงคงเตรียมตัวมาแล้วใช่ไหมว่าจะไม่ได้กลับออกไปอีก”

“มึงบอกเองว่าเป็นบ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมายไม่ใช่เรอะ” ถังฉีตงเสริมไปอีกประโยคซึ่งไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไร “อาเจ๋อผมต้องการฟ้องเรื่องการคุกคามจากคนของพวกเขา”

ฉูเจ๋อหยางปากงุ้มและพูด “ตกลง” ลิ่วเอ่อร์โมโหจนหน้าดำหน้าแดง ใบหน้าเขากระตุกด้วยความโกรธ

หมาป่าซึ่งอยู่ข้างๆถูกถีบให้ถอยห่างไปเขาจึงก็อดกลั้นไว้ไม่ไหวจนกระทั่งพูดออกมา “เฮียเอ่อร์พูดอะไรหน่อยสิ ขอแค่เฮียร์สั่งมาพวกเราพี่น้องพร้อมที่จะลงมือสั่งสองไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอนพวกนี้อยู่แล้ว”

ถ้าทำอย่างนั้นได้ลิ่วเอ่อร์ก็คงจัดการกับฉูเจ๋อหยางด้วยตัวเองไปแต่แรกแล้ว แต่ด้วยบทเรียนที่เขาได้รับจากคราวก่อน เขาจึงไม่กล้าลงมือ ยังมีรวมถึงผลกระทบเรื่องการส่งสินค้าลอตล่าสุดซึ่งยังไม่จบอีก

จะทำอะไรเอิกเกริกในเมืองจิ่นอันไม่ได้ เขาได้แต่พยายามระงับความโกรธและเอ่ยปากถาม “ฉูเจ๋อหยางมึงทำร้ายคนของกู ไมว่ายังไงมึงก็ต้องให้คำอธิบายมา”

ฉูเจ๋อหยางพยักหน้าและขยิบตาให้กับจอมเผด็จการ “เอาของขวัญออกมา”

จอมเผด็จการพยักหน้าและรับของบางอย่างจากคนที่ด้านหลังและโยนมันลงกันพื้น

มันเป็นพัสดุที่ปิดผนึกอยู่ ใหญ่กว่าสิ่งที่ลิ่วเอ่อร์ส่งไปถึงสองเท่า คราวนี้ไม่มีใครกล้าขยับ

ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างในเป็นวัตถุอันตราย ไม่มีใครกล้าก้าวออกไปข้างหน้า ไม่มีใครรับประกันได้ว่ามันจะทำอันตรายต่อคนหรือไม่

“ทำไม ไม่กล้าเปิดเรอะ” ฉูเจ๋อหยางยิ้มเยาะที่มุมปากและกล่าวอย่างช้าๆชัดๆ “ผมแสดงความจริงใจแล้ว”

ลิ่วเอ่อร์เหลือบไปมองหมาป่า สีหน้าหมาป่าไม่ค่อยดีนัก เขายกเท้าขึ้นเตะน้องชายที่อยู่ใกล้เขาที่สุดและออกคำสั่ง “ไปเปิดมันซะ”

“พี่ใหญ่ ผม…” เขายังไม่อยากตายนะ

คนอื่นๆพากันโล่งอก

“ถ้ามึงไม่เปิด กูจะฆ่ามึงตอนนี้นี่แหละ” หมาป่าแสดงท่าทางดุร้าย

ชายคนนั้นจ้องดวงตาที่ดุร้ายของหมาป่าและหดหัว เขากัดฟันเดินไปที่กล่องกระดาษนั้น ตายเป็นตายวะ ถ้าหากว่าไม่ใช่วัตถุอันตราย ก็ยังจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้

นอกจากคนของฉูเจ๋อหยางจะไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆแล้ว คนอื่นๆล้วนหายใจติดขัดตัวสั่นเทาแทบจะกองลงไปอยู่ตรงพื้นด้วยความตื่นเต้น

ลิ่วเอ่อร์จ้องมองฉูเจ๋อหยางซึ่งมีสีหน้าจะยิ้มก็ไม่ยิ้มสีหน้ากลับอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ เขาเอ่ยปากพูดอย่างดุร้าย “คงไม่ต้องบีบๆนวดๆมืออีกต่อไปแล้วสินะ”

ชายคนนั้นนั่งยองๆลงบนพื้น เขาดึงมีดสั้นออกมาจากข้างตัว จากนั้นพยายามแกะส่องอยู่สองสามครั้ง กล่องกระดาษก็เปิดออก เขายังไม่กล้ามองและยังกรีดร้องออกมาเสียงหลงและม้วนตัวไปทางด้านข้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว