หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 177

บทที่177 ทานกล้วย

หนุ่มคมเข้มยังเตรียมการยังไม่ทันเสร็จ เขาก็เห็นว่าเป้ยฉ่ายเวยกำลังจ้องมองไปที่ทิศทางของประตู

อยู่ๆเขาก็รู้สึกตัวเบาๆ ทั้งตัวกลิ้งลงไปกับพื้น กล้วยในปากก็หักครึ่งท่อน

หนุ่มชวนฝันที่นั่งถัดจากเป้ยฉ่ายเวยก็ไม่รอดเขาถูกบีบอัดอย่างแรงจนน่ากลัว เขาพยายามค่อยๆลุกขึ้นจากโซฟา หลีกหนีจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย

ทั้งคอกนั้นคับแน่นไปด้วยร่างของอันสูงใหญ่ทรงพลังของฉูเจ๋อหยาง อากาศ ณ ที่นั่นเหมือนถูกสูบออกไปจนหมดสิ้น บรรยากาศกลายเป็นน้ำแข็ง

ใครจะไปคิดว่าฉูเจ๋อหยางจะโผล่มาที่นี่ได้

เป้ยฉ่ายเวยระมัดระวังตัว เธอหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากอวี๋ซือซือ อวี๋ซือซือก็ไม่ได้ดีไปกว่าเธอเท่าไหร่ ถังฉีตงซึ่งกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องกำลังนั่งแทรกไปข้างๆหล่อน

“สนุกจังนะ”

ถังฉีตงเชยคางเธอเล็กน้อยและชี้ไปยังชายสี่คนที่มีสไตล์แตกต่างกันซึ่งกำลังยืนเรียงเป็นแถว

“ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจผิดกันน่า เข้าใจผิดทั้งนั้น เวยเวยเธอว่าจริงไหม” อวี๋ซือซือยื่นมือจะไปลากเป้ยฉ่ายเวยมา

เป้ยฉ่ายเวยก็อยากจะไปนั่งติดกับอวี๋ซือซือ มือยังไม่ทันยื่นมาถึง เธอก็สัมผัสได้ถึงโซฟานุ่มๆด้านข้าง ชายเย็นชาคนนั้นนั่งลงถัดจากเธอ เขานั่งคั่นกลางพวกเธอ

เธอเห็นภาพหลอนขึ้น เธอเองและซือซือประหนึ่งเป็นคู่รักที่ถูกพรากออกจากกัน ถูกมารดาผู้เป็นราชินีใจร้ายทุบตีอย่างโหดเหี้ยม

ฉูเจ๋อหยางแสดงบทบาทของคนร้าย มันเหมือนเอามากๆ

ถังฉีตงเหยียดมือออกวางบนโซฟา ถ้าคนอื่นเห็นก็ดูเหมือนเขากำลังโอบอวี๋ซือซืออยู่ เขาถามประชดประชัน “หุ่นเขาแซ่บเหมือนผม หน้าหล่อเหมือนผม หรือว่าดอกไม้ที่บ้านสู้ดอกไม้ริมทางไม่ได้ห๊ะ?”

“เรื่องของคุณ หุ่นคนอื่นไม่แซ่บตรงไหน” อวี๋ซือซือไม่กลัวโทษประหาร

เป้ยฉ่ายเวยเห็นอวี๋ซือซือกล้าหาญไม่กลัวเกรง ในใจเธอก็เกิดแรงฮึกเหิมขึ้นมา ความรู้สึกอะไรก็ทิ้งไว้ที่เบื้องหลัง เธอถามขึ้นอย่างใจเย็น “คุณมาทำอะไร”

“มาดูคุณกินกล้วย”

ฉูเจ๋อหยางเน้นและลากเสียงทั้งสองคำ “กินกล้วย” แน่นอนว่าหูเป้ยฉ่ายเวยแทบจะระเบิดอย่างไม่ต้องสงสัย ความกล้าทั้งหมดของเธอกระเจิงหายไปหมดสิ้น เมื่อเห็นว่าหนุ่มคมเข้มยังมีกล้วยค้างอยู่ในปาก หน้าเธอยิ่งแดงระเบิดระเบ้อ

เธอต้องฟังผิดไปแน่ๆ ฉูเจ๋อหยางคงไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ว่าความคิดของเป้ยฉ่ายเวยก็ไม่สามารถดึงกลับไปให้เป็นเรื่องอื่นได้อีกแล้ว

ไม่ได้การแล้ว เลือดกำเดาเธอจะไหล พ่อหนุ่มคมเข้มนั่นกับฉูเจ๋อหยาง ภาพนั้นเผ็ดร้อนมาก เธอแย่แล้ว แย่แล้ว

น้ำเสียงฉูเจ๋อหยางคนเมาลดเสียงต่ำ เขาใช้ระดับเสียงที่ฟังพอได้ยินกันเพียงสองคน ค่อยๆพ่อนออกมาที่ข้างหู “ถ้าหากว่าคุณอยากลองล่ะก็ ผมไม่ถือที่คืนนี้จะกลับไปแกะห่อให้คุณลอง”

แกะห่อเรอะ นี่แนวความคิดอะไร

เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้าแน่ๆ ไม่อย่างนั้นจะไปคิดตามคำพูดของฉูเจ๋อหยางนั้นได้อย่างไร เธอไม่กล้าขึ้นเสียง จึงได้แต่คำรามในลำคอและกัดฟันแน่น “ฉูเจ๋อหยาง คุณเพ้อเจ้ออะไร”

ใครจะไปแกะห่ออะไร ไอ้บ้าโรคจิต!

ฉูเจ๋อหยางใช้ปลายนิ้วเย็นๆแตะไปที่แก้มสีกุหลาบของเธอโดยไม่ตั้งใจและถามอย่างซุกซน “ผมเพ้อเจ้อ แต่ทำคุณตัวร้อนแล้วนะ”

เป้ยฉ่ายเวยตัวสั่น มือน้อยของเธอจับไปที่ต้นขาบนกระโปรงด้วยอาการประหม่า เธอหน้าแดงพร้อมปฏิเสธ “ในคอกนี้มันแออัดเกินไปก็เท่านั้น”

“ไว้กลับไปจัดการกับคุณ” นัยน์ตาลุ่มลึกของฉูเจ๋อหยางเหมือนความสงบนิ่งก่อนพายุ เธอกล้ามาสถานที่เช่นนี้ลับหลังเขา แถมยังเลือกผู้ชายสองคนมานั่งเป็นเพื่อนอีก

ช่างกล้าหาญมากจนต้องตบมือให้

เป้ยฉ่ายเวยแกล้งโง่และทำเป็นอธิบายด้วยความบริสุทธิ์ใจ “ฉันก็ไม่รู้เขาจะพาพวกเรามาที่นี่ สองคนนี้ฉันก็ไม่ได้เรียกมา”

เธอสาบานได้ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรเลย พวกเขาทั้งนั้น

“คุณไม่ได้ปฏิเสธ” เสียงของฉูเจ๋อหยางแข็งขึ้นบ้าง แค่เขาเดินเข้ามาและเห็นภาพ ความโกรธที่ระงับไว้ก็ประทุขึ้น

เป้ยฉ่ายเวยเขิน เธอกำมือแข็งเป็นก้อนหินและพูดอย่างไม่มีทางเลือก “คุณก็เห็นว่ามือฉันเจ็บอยู่ จะไปปฏิเสธได้อย่างไร จะให้เอาเฝือกไปตีเขาหรือยังไง”

นัยน์ตาฉูเจ๋อหยางมืดสลัว เขาจ้องการแสดงออก “ที่แท้จริง” ของเธอ แลพูดอะไรสักอย่างที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ “ผู้ชายข้างนอกไม่สะอาด”

“หึ๊?” อะไรคือผู้ชายข้างนอกไม่สะอาด มีแค่ผู้ชายในบ้านที่สะอาดหรอ แต่ว่าในบ้านเธอก็ไม่ได้มีผู้ชายคนไหน

แต่บางครั้งก็มีอยู่คนหนึ่ง เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัว เธอมโนไปถึงไหนเนี่ย ฉูเจ๋อหยางออกจะเยือกเย็นขนาดนั้น เขาจะหมายถึงเรื่องนี้ได้ยังไงกัน

แต่โรคติดต่อมันก็ไม่ได้ติดกันทางเดียว ยังมีทางอื่นอีกนะ

เมื่อคิดเช่นนี้เป้ยฉ่ายเวยก็ขนลุก เธอกำลังคิดว่าต้องไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลดูดีหรือไม่ ช่างเถอะ ไปก็อายเขาเปล่าๆ ถ้าหากเจอคนรู้จักเข้าเธอจะเอาหน้าไว้ที่ไหน

เป้ยฉ่ายเวยลืมนิสัยของคุณชายเจี่ยงเสี่ยวเล่อที่ชอบพาพวกเธอไปยังที่รโหฐาน พวกผู้ชายเหล่านั้นจะต้องมีใบอนุญาต ทุกปีพวกเขาจะต้องไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

ฉูเจ๋อหยางรู้สึกพอใจมากที่เป้ยฉ่ายเวยแสดงท่าทีสำนึกผิด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหายโกรธ

สำหรับหัวหน้าทีมเจี่ยงเสี่ยวเล่อ เมื่อเขาเห็นว่าสายตาของผู้ที่เข้ามาไม่สู้ดีนัก โอ้ ไม่ ยังมีอีกคู่ เขารีบไล่แม่โคนมสองตัวข้างกายในอ้อมแขนให้ออกไปอย่างไว เขากลัวว่าจะถูกคนเกลียดเข้า

เขาลดเสียงลงถาม “เฉียวเจิ้นสินคุณจะฆ่าผมให้ตายเลยใช่ไหม ทำไมถึงได้พาเจ้าปีศาจสองตัวนี้มาที่นี่”

“ไม่เชื่อฟัง” เฉียวเจิ้นหลีใจเย็นผลักกรอบแว่นขึ้นเหนือสันจมูกของเขา ปรากฏรอยยิ้มขึ้นในแววตาเปล่งประกายขึ้นหลังกรอบเลนส์นั้น

“เชื่อฟังบ้านพ่อง ครั้งก่อนเรื่องอัดเสียงผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลย คุณมึงยังจะตามมาหลอกหลอนกันอีกหรอ” เจี่ยงเสี่ยวเล่อโมโหจนหน้าแดง เมื่อที่จะปิดบังความสงสัยนี้ เขารีบหนีกลับไปหารังเก่าของตัวเอง ยังจะตามมาอีก

จะฆ่ากันให้ตายเลยหรือยังไง

“หนูน้อยหมวกแดง…” มีคนทักเบาๆด้วยความไม่พอใจ

“ผมบอกให้คุณมึงหุบปากหยุดเรียกผมแบบนี้แล้วไง คุณอยากให้ผมระเบิดหายตัวไปตอนนี้เลยใช่ไหม” เจี่ยงเสี่ยวเล่อได้ยินไม่ชัดว่าเขาพูดว่าอะไร ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปที่ฉูเจ๋อหยางอย่างระวังตัวราวกับว่าถ้ามีแค่ลมหอบหนึ่งพัดมา เขาจะรีบเผ่นหนีในทันที

เฉียวเจิ้นหลียืนขึ้นอย่างใจเย็น ในสายตาอันลึกลับของเจี่ยงเสี่ยวเล่อ เขาหนีบคนไว้ใต้รักแร้และหันไปพูดกับอีกสองคนว่า “เรื่องนี้ถือว่าผมเป็นหนี้พวกคุณ กลับไปผมจะสั่งสอนเขาให้เอง”

“ชิบหาย เฉียวเจิ้นหลีคุณมึงบ้าไปแล้วหรือไง ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ ผมไม่ใช่กระสอบทรายนะ” เจี่ยงเสี่ยวเล่อระเบิดใส่ทุกคน เขาทั้งดึงทั้งทึ้งมือเฉียวเจิ้นหลี และยังเตะอีกไม่ยั้ง

โวยวายยิ่งกว่ายายแก่ขี้โมโห

เป้ยฉ่ายเวยและอวี๋ซือซือนิ่งอึ้งไป

“ลงบัญชีคุณ” ถังฉีตงยิ้มและพยักหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว