บทที่182 หญิงแพศยาด่าใคร
เป้ยฉ่ายเวยเม้มจนปากแดงแต่ก็ไม่เถียง มือข้างหนึ่งเหมือนกับจะจิกลงที่โซฟา
เป้ยฉ่ายเวยทนได้ แต่ว่าอวี๋ซือซือดูเหมือนจะไม่ เธอพูดอย่างไม่เกรงใจ “พวกเธอตื่นมากินขี้กันแต่เช้าเลยนะ มิน่าปากถึงได้เหม็นขนาดนี้”
สาวๆหลายคนหน้าเปลี่ยนสีและจ้องมองอวี๋ซือซือด้วยความโมโห “ทำไมผู้หญิงคนนี้พูดจาหยาบคายแบบนี้”
“ใช่แล้ว เธอคงจะไม่รู้ใช่ไหมว่าพ่อของหนานฉิงเป็นใครถึงได้กล้าหยาบคายแบบนี้”
“ฮ่า พ่อหล่อนเส้นใหญ่หรือยังไง หรือว่าพ่อเธอเองที่เส้นใหญ่ ทำไมต้องเอาฐานะตัวเองมาข่มคนอื่น” อวี๋ซือซือแสดงออกท่าทางน่ารังเกียจ น่าขัน หนานฉิงไม่ได้อยู่ในสายตาเธอแม้แต่น้อย แล้วพวกสาวๆกลุ่มนี้จะทำให้เธอหวั่นเกรงได้อย่างนั้นหรือ
“นังนี่…” ผู้หญิงข้างๆโผไปข้างหน้าและต้องการจัดหนานฉิงสักหมัด
หนานฉิงไม่ได้สนใจท่าทางอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาว ตาคู่นั้นจ้องไปที่เป้ยฉ่ายเวยอย่างเมินเฉย เธอคงจะไม่ได้อยากถือสาหาความกับอวี๋ซือซือ คนที่เธอต้องการเล่นงานก็คือเป้ยฉ่ายเวย
“เวยเวย ทำไมเธอไม่พูดล่ะ เป็นเพราะว่าเธอโมโหคำพูดเพื่อนฉันหรอ”
เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้หลบ จะว่าไม่หลบก็ไม่เชิง เธอรู้ดีว่าที่หนานฉิงทักเธอนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรออกมาก็จะเป็นเรื่อง ซือซือจะต้องออกโรงแทนเธอแน่
เธอได้แต่เงยหน้ามองสายตาอันร้ายกาจของหนานฉิงและพูดอย่างไม่มีทางเลือก “หนานฉิง ฉันไม่ได้โกรธ หวังว่าเธอก็จะไม่เก็บเอาไปใส่ใจ”
พูดจบเธอก็หันไปพูดกับเพื่อนข้างๆว่า “ซือซือ เราไปกันเถอะ”
อวี๋ซือซือเห็นสายตาวิงวอนของเป้ยฉ่ายเวย พยักด้วยความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ “ไป ไป แถวนี้มลพิษเยอะอยู่ไปก็เสียสุขภาพ”
คนอื่นไม่รู้ตัวตนของอวี๋ซือซือ เมื่อเห็นหญิงสาวที่สวยกว่าตนเอง ใจก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความอิจฉาริษยา “ผู้หญิงคนนี้ต้องไปทำความสะอาดปากซะหน่อยนะ”
“หมาแมวสามารถเข้ามานั่งเล่นที่นี่ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ใช่แล้ว น้องฉิงเดี๋ยวต้องให้ผู้จัดการที่นี่มาอธิบายให้เราฟังหน่อยแล้ว พวกเราไม่ได้จ่ายเงินหลายแสนต่อปีเพื่อที่จะมาสุงสิงกับพวกคนระดับล่างหรอกนะ”
“แกพูดว่าอะไร ไหนพูดอีกทีซิ หึ๊?” อวี๋ซือซือสวมรองเท้าแตะและเดินไปตรงหน้าเสี่ยวเชี่ยนซึ่งทำเสียงแหลมใส่
เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้มีปฏิกิริยาใดอยู่พักหนึ่งเมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาของอวี๋ซือซือเขยิบเข้ามาใกล้ ดวงตาเหยี่ยวคู่นั้นฉายประกายแห่งความป่าเถื่อนทำให้เธอรู้สึกกริ่นเกรงขึ้นมาและถอยเท้าหนีไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวพร้อมพูดติดอ่าง “แก แกจะทำอะไร”
น้ำเสียงอวี๋ซือซือเยือกเย็น “ขี้ขลาด”
พวกผู้หญิงหน้าโง่ ไม่มีอะไรทำก็ชอบเกาะกลุ่มกันหาเรื่องคนอื่น นี่คงจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกหลอกใช้อยู่
เป้ยฉ่ายเวยลดศีรษะต่ำลง เธออยากจะเดินเลี่ยงหนีหนานฉิงไป แค่เพียงก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเท่านั้น แขนเธอก็ถูกดึงอย่างแรง เธอถูกบีบบังคับให้หยุดอยู่ตรงนั้น
“เวยเวย จะไปแล้วหรอ ไหนบอกว่าไม่โกรธไง”
เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกได้ว่าผิวอันบอบบางที่แขนถูกเล็บอันแหลมคมของเธอจิกไว้ เธอจึงเอ่ยขึ้นเสียงอ่อยๆ “ปล่อย”
หนานฉิงนิ่งไปบ้าง เธอแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน นางแพศยากล้าหืออย่างนั้นหรอ
เธอเผลอกำมือแน่น แต่สีหน้าและท่าทางกลับแสดงออกถึงความอ่อนแอ “เวยเวย เธอยังโกรธเรื่องฉูเจ๋อหยางอยู่ใช่ไหม ฉันรู้ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนเรียนกันมาหลายปี เธอต้องเป็นอย่างนี้ด้วยหรอ”
คำพูดของหนานฉิงสองแง่สองง่ามราวกับว่าเป้ยฉ่ายเวยแอบหลงรักแฟนของตัวเอง ตอนนี้เลยไม่ ตอนนี้หล่อนจึงไม่พอใจที่เธอพูดแทงใจดำ
เมื่อคนรอบๆได้ยิน สายตาที่พวกเขามองเป้ยฉ่ายเวยก็เปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งขยะแขยง คลื่นไส้ รังเกียจ และยังเหยียดหยาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...