หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 183

บทที่183 ร.ป.ภ.ตายกันหมดแล้วหรอ

ในฉับพลันทุกคนรอบๆก็นิ่งอึ้งไปเพราะคำพูดของอวี๋ซือซือ

"เฟยเฟย มันด่าเธอดอกทองนะ"

หลินเฟยเฟยหันควับมองขวางผู้หญิงปากมากนางนั้น ผู้หญิงคนนั้นรีบหุบปากทันที เธอจึงหันกลับไปจ้องที่อวี๋ซือซืออีกครั้ง ในใจเธอคิดว่าถ้าอวี๋ซือซือเป็นเพื่อนกับเป้ยฉ่ายเวยได้ล่ะก็ ทั้งคู่ก็น่าเลวพอๆกัน

"ร.ป.ภ.ล่ะ ร.ป.ภ.ตายกันไปหมดแล้วหรอ ฉันจ่ายเงินให้พวกแกปีละตั้งมากมาย แต่แกกลับปล่อยให้ผู้หญิงแพศยาสองคนนี้มาทำร้ายแขกอย่างนั้นรึ"

ทันใดนั้นชายสามสี่คนก็วิ่งพรวดเข้ามา หัวหน้าของชายเหล่านั้นมีป้ายที่หน้าอกเขียนว่าผู้จัดการ เขาคอยผงกศีรษะและสอบถามหลินเฟยเฟย "คุณหนูเฟยเฟยเกิดเรื่องอะไรหรือครับ"

"เกิดอะไรขึ้นเรอะ คุณตาบอดหรือยังไง ถึงไม่เห็นว่าฉันถูกทำร้ายในร้านของคุณน่ะ ถ้าหากวันนี้พวกคุณหาคำอธิบายมาให้ฉันไม่ได้ คุณอย่าหวังที่จะเปิดสถาบันความงามแห่งนี้ต่อไปอีกเลย"

หลินเฟยเฟยสยายผม นั่นเผยให้เห็นแก้มอวบอิ่มของเธอ สายตาเธอจดจ้องไปที่อวี๋ซือซือและเป้ยฉ่ายเวย แทบทนไม่ไหวที่จะกัดกินพวกหล่อนเสีย

ผู้จัดการเหลือบไปมองที่อวี๋ซือซืออย่างคิดว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเขาเลย คนที่เข้ามาที่นี่ล้วนเป็นคนมีเงินและมีอิทธิพล ทะเลาะเบาะแว้งกัน เขาเป็นแค่คนทำงานจะไปกล้าหืออือที่ไหน

“คุณหนูเฟยเฟยครับรายการที่คุณหนูจะทำในวันนี้บริษัทเราขอมอบให้เป็นของขวัญคุณหนูเห็นว่าเป็นอย่างไรครับ”

“ไปให้พ้น ฉันน่ารวยน้อยไปหน่อย คุณถึงไม่เห็นว่าฉันถูกคนทำร้ายน่ะ ถ้าวันนี้พวกคุณไม่ช่วยฉันจัดการมันล่ะก็ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่”

ครอบครัวเธอทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างรวยน้อยซะที่ไหน แต่ว่าการที่วางตัวเป็นกลางระหว่างที่ผู้หญิงสองคนทะเลาะกัน นั่นเท่ากับว่าหักหน้าตระกูลหลิน

“นั่น…” ผู้จัดการแทบร้องไห้ หลินเฟยเฟยเธอรู้ว่าพ่อเธอรวย แม้ว่าไม่ได้ร่ำรวยเท่าอภิมหาเศรษฐี แต่ก็รวยมากพอที่จะชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้ เขาไม่กล้านิ่งนอนใจ

หลินเฟยเฟยดูเหมือนจะดูออกถึงความกังวลใจของผู้จัดการ เธอกล่าวอยากเยือกเย็น “กลัวอะไร ผู้หญิงสองคนนี้เป็นหญิงแพศยาหน้าไม่อาย ไม่รูไปขโมยการ์ดที่ไหนมาถึงได้เข้ามาที่นี่ได้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เดี๋ยวฉันรับผิดชอบเอง”

เมื่อได้ยินคำนี้จากหลินเฟยเฟย ผู้จัดการก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ที่แท้ก็เป็นแค่ผู้หญิงนั่งดริ้งค์สองคน ไม่เคยเกิดเคสเช่นนี้มาก่อน ผู้จัดการส่งสายตาให้กับลูกน้องสองสามคนและพูดขึ้นว่า “จับตัวผู้หญิงสองคนนั้นไว้ให้ผม”

“ครับ ผู้จัดการ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสี่นายพุ่งเข้าชาร์จอวี๋ซือซือและเป้ยฉ่ายเวย

หนานฉิงและคนอื่นๆพากันยืนมองอยู่รอบๆอย่างลุ้นระทึก ทางที่ดีควรจะจัดการกับความจุ้นจ้านของอวี๋ซือซือตัวแสบ คราวหน้าเธอจะได้ไม่ต้องมาเผือก

“ซือซือ ทำไงดี” เป้ยฉ่ายเวยเห็นชายทั้งสี่กำลังจะพุ่งเข้ามา ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ซือซือคงจะไม่ต้องตกที่นั่งลำบาก

“จะกลัวทำไม ฉันอยู่นี่ แค่อย่าคิดอะไรไร้สาระก็พอ” อวี๋ซือซือรู้ว่าเป้ยฉ่ายเวยต้องกำลังโทษตัวเองอยู่แน่นอน

“ต้องขอโทษคุณหนูทั้งสองด้วย ใครให้คุณไปมีเรื่องกับคุณหนูหลิน พวกเราช่วยไม่ได้จริงๆ” ผู้จัดการพูดพลางชี้ให้คนของตัวเองจับพวกเธอไว้

เมื่อสี่คนแปดมือกำลังจะสัมผัสถูกเสื้อผ้าของพวกเธอ อวี๋ซือซือก็หันหาผู้จัดการและแสยะยิ้ม “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบเบ่งอำนาจรังแกคนอื่น แต่ว่า ฉันแซ่อวี๋”

แซ่อวี๋รึ ผู้จัดการไม่เข้าใจ แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีและตะโกนขึ้นอย่างว่องไว “หยุด หยุดเดี๋ยวนี้”

ร.ป.ภ.ทั้งสี่หันมองหน้าเขาด้วยความสับสน

ผู้จัดการมีท่าทีประหลาดใจ เขาถูมือพลาง พร้อมพูดขอร้องด้วยความเมตตา

“คุณหนูอวี๋ที่แท้ก็เป็นคุณหนูนั่นเอง น้ำท่วมวัดราชมังกรแล้วคนกันเองทำไมถึงจำกันไม่ได้ ผมมีตาหามีแววไม่ หวังว่าคุณหนูอวี๋จะยกโทษมหันต์ของผมใจครั้งนี้ให้ด้วยนะครับ”

ผู้คนรอบๆมึนงงสับสนกันท่าทีที่เปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือของผู้จัดการ

นั่นทำให้หลินเฟยเฟยยิ่งหัวเสียไปใหญ่ เธอเดินกระทืบเท้าไปสองก้าวเพื่อดึงเสื้อผู้จัดการพร้อมถามว่า “คุณทำบ้าอะไร คนหาเรื่องก็คือหล่อน รีบจับหญิงแพศยาสองคนนี้ไว้สิ”

ผู้จัดการผลักมือหลินเฟยเฟยออก ในใจเขาก็พลางกล่าวทักทายบรรพบุรุษของหลินเฟยเฟยไปด้วย ระเบิดครั้งนี้เหมือนกับการเผชิญหน้ากับยักษ์ เท่ากับเปิดโคมไฟขึ้นมา --- หาเรื่องซะแล้ว

ใบหน้าของเขายิ้มเหมือนกับดอกเบญจมาศ “คุณหนูอวี๋ครับ ไม่ทราบผู้หญิงคนนี้ทำให้คุณขุ่นเคืองใจหรือไม่ ผมจะรีบเชิญเธอออกไปจากที่นี่”

หลินเฟยเฟยไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้โยนทิ้ง น้องหนานไม่ได้บอกว่าผู้หญิงสองคนนี้เป็นเด็กนั่งดริ้งค์อย่างนั้นหรอ ทำไมผู้จัดการถึงได้ก้มหัวโค้งคำนับพวกหล่อนอย่างนั้นล่ะ

อวี๋ซือซือโบกมือ ผู้จัดการรีบหุบปาก เธอเดินไปข้างหน้าสองก้าวและหยุดลงตรงหน้าหลินเฟยเฟย เธอยกมือขึ้นจับเส้นผมที่อยู่ข้างใบหน้าขึ้นมาและพูดด้วยความเมตตา

“น้องสาว คราวหน้าสืบประวัติให้รู้ที่มาที่ไปก่อนค่อยพูดนะ เจอของจริงเข้าจะได้ไม่หน้าแตก”

พูดไปเธอก็จ้องหนานฉิงไปด้วยสายตาเยาะเย้ย เธอกระซิบที่ข้างหูหลินเฟยเฟย และตบไหล่หล่อนพร้อมกระดิกนิ้วเรียกผู้จัดการ

ผู้จัดการรีบวิ่งเข้าไปหา “คุณหนูอวี๋มีอะไรรับสั่งครับ”

“สาวๆสองสามคนนั้นเห็นรึยัง” อวี๋ซือซือชี้ที่สาวๆข้างหนานฉิง

ผู้จัดการพยักหน้า “เห็นแล้วครับ”

“โยนพวกมันออกไป ค่าเสียหายฉันจะจ่ายให้”

“มิกล้ามิกล้า” ผู้จัดการรีบรับปาก ทั้งหมดเป็นเศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับตระกูลอวี๋ ตระกูลหนานแตะต้องไม่ได้ คนอื่นๆโยนออกไปได้ เขาจ้องไป ร.ป.ภ.ที่กำลังยืนงงเป็นไก่ตาแตกและตะโกน “หูหนวกหรือไง ไม่ได้ที่คุณหนูอวี๋บอกหรือยังไง”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่เหมือนตื่นขึ้นจากฝัน การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วมาก คนหนึ่งดึงทั้งสองไม่ว่าผู้หญิงเหล่านั้นจะร้องไห้โวยวายพวกเขาก็ไม่หยุดพาเดินไปที่บันได

สาวๆสองสาวคนหันไปมองหนานฉิงเพื่อขอความช่วยเหลือ “น้องหนานช่วยพี่ด้วย”

“น้องหนานพวกเราทำนี่ก็เพื่อช่วยน้องหนานนะ”

“น้องหนาน ทำกับพวกเราแบบนี้ไม่ได้นะ”

หนานฉิงใช้ทั้งสองมือจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย เธอเก็บกดสีหน้าอันก้าวร้าวเอาไว้ภายใต้รอยยิ้ม เธอรู้ว่าตัวเองพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ทันใดนั้นสายตาเธอก็จ้องไปบนร่างของเป้ยฉ่ายเวย

เธอเยื้องกรายเข้าใกล้เป้ยฉ่ายเวย จับมือหล่อนเอาไว้ พร้อมพูดด้วยความวิตกอย่างจริงจัง “เวยเวย ฉันรู้ว่าเธอดีที่สุด เธอช่วยพูดกับผู้จัดการให้ฉันหน่อยนะ ไม่อย่างนั้นพวกสาวๆก็คนจะถูกโยนออกไปแน่”

“เธอดูสิทุกคนก็เป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น อีกอย่างเสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย ถ้าหากว่าถูกโยนออกไปแบบนี้ จะต้องโดนหัวเราะเยาะตายแน่ ฉันรู้ว่าเธอจิตใจดี ทนให้เรื่องเป็นแบบนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม”

ใจเป้ยฉ่ายเวยไม่ได้รู้สึกสงสารเลยสักนิด ตอนที่พวกหล่อนรุมหาเรื่องเธอและซือซือ พวกหล่อนก็ควรจะพร้อมรับกับผลกรรมที่ตามมา แต่เมื่อเห็นแววตาวิงวอนของหนานฉิง

กลไกความรู้สึกผิดในใจเธอเริ่มทำงานขึ้นอีกครั้ง “ฉัน…”

“หนานฉิงเธอไม่ต้องดึงหล่อน พวกเธอจำใส่หัวเอาไว้ คนออกคำสั่งคือฉัน” อวี๋ซือซือผลักหนานฉิงไปทางด้านข้าง และใช้สายตาจ้องไปที่หญิงสาวที่กำลังโกรธจนดิ้นพล่าน

เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะจ้องหนานฉิงอย่างไม่ประสงค์ดีนัก หนานฉิงดูเหมือนจะรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร หล่อนจึงได้เอ่ยปากหยุดเธอเอาไว้ “เธอควรจะรู้สึกสำนึกขอบคุณความเป็นเพื่อนที่ดีของพวกหล่อนนะหนานฉิง ไม่อย่างนั้นพวกหล่อนก็คงจะไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว