หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 194

บทที่194 รองเท้าพัง

“ไม่เป็นไร คุณไปทำอะไรเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้” เป้ยฉ่ายเวยพูดติดตลก ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเจี่ยงเสี่ยวเล่อรู้สึกผิดกับเธอ

ในความเป็นจริงแล้วเธออยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องมีคนคอยอยู่เป็นเพื่อน

“อื้อ ถ้าอย่างนั้นฉันไปล่ะ” เจี่ยงเสี่ยวเล่อเข้าไปในฝูงชน ไม่นานก็หายไปจากสายตาของเป้ยฉ่ายเวย

เพื่อนข้างกายหายไปทีละคน บริเวณนั้นไม่มีผู้คนที่เธอรู้จัก แม้จะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไร แต่เป้ยฉ่ายเวยก็ยังคงรู้สึกอึดอัดใจ

เธอเดินตรงไปที่มุม พยายามเลี่ยงการปรากฏกายของตนเอง

ยังเดินไปได้ไม่ไกล ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาจากด้านหลัง “เวยเวย”

“จื่อเชียน คุณก็มาด้วยหรอ” เป้ยฉ่ายเวยรู้สึกว่าตัวเองพูดจาไม่เหมาะสมหลังจากที่พูดออกไปแล้ว นี่ก็เป็นเรื่องปกติที่จื่อเชียนจะมาร่วมงานแบบนี้

“ทำไมคุณไม่รับสายผม” หลี่จื่อเชียนเดาว่าเป้ยฉ่ายเวยน่าจะมา ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเธอจริงๆ ครึ่งเดือนมานี้เขาทั้งห่วงทั้งคิดถึง พอเห็นเธอก็เลยถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“จื่อเชียน ขอโทษ ก่อนหน้านี้ฉันกลับไปต่างจังหวัด เลยอาจจะไม่มีสัญญาณ” ตอนที่เธอพูดโกหกแล้วครั้งหนึ่ง ก็ต้องเตรียมที่จะโกหกอีกต่อไปนับครั้งไม่ถ้วน ตอนนี้เป้ยฉ่ายเวยเป็นอย่างนี้ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ว่าเธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

“เราไปคุยกันข้างๆเถอะ” หลี่จื่อเชียนสังเกตเห็นว่าคนรอบๆราวกับจะชอบเหลือบมองเป้ยฉ่ายเวย และด้วยนิสัยละเอียดอ่อนของเขา เขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เธอรู้สึกอึดอัด

“อื้อ” เป้ยฉ่ายเวยไม่ทันได้สังเกต เธอแค่คิดว่าคนเยอะพูดอะไรไม่ค่อยสะดวก

เธอจึงเดินตามหลี่จื่อเชียนไปที่สวนด้านหลังคฤหาสน์

“เวยเวย ผมคิดว่าคุณไม่สนใจผมแล้ว”

“จะเป็นไปได้ยังไง จื่อเชียนคุณคิดมากไปแล้ว” เป้ยฉ่ายเวยพูดอย่างงุ่มง่าม เธอเคยคิดเช่นนี้ ยิ่งตอนที่ทำตามข้อตกลงของฉูเจ๋อหยางเสร็จสิ้นแล้ว นอกจากซือซือแล้ว ไม่ว่าใครหรือเรื่องอะไรของเมืองจิ่นอัน เธอก็จะตัดขาดให้หมด

หลี่จื่อเชียนพูดสิ่งที่อยู่ลึกภายในใจ พูดกับเธอโดยไม่มีอะไรปิดบัง “ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้างในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา สำหรับผมผมคิดถึงคุณทุกวันทุกเวลา”

“จื่อเชียน เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรอว่าจะปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ” เป้ยฉ่ายเวยกำมือเล็กน้อย และพยายามทำน้ำเสียงสบายๆ

มุมปากของหลี่จื่อเชียนเผยให้เห็นรอยยิ้มอันแสนขมขื่น “ผมรู้ เวยเวยคุณวางใจเถอะผมจะไม่บังคับคุณ แค่ไม่อยากเห็นคุณเจ็บ”

สายเกินไปแล้ว หัวใจของเธอแตกสลายจนเกินจะเยียวยาแล้ว แม้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่แต่ก็เพียงแต่ร่างกายแต่ไร้วิญญาณ เธอเข้าใจคำว่าหัวใจสลาย แต่ก็ไม่สามารถกระโจนหาผู้ชายอีกคน

เธอเคยคิดว่ามันโอเค แต่ผลกลับกลายเป็นว่า ใครก็ไม่สามารถทนกับชายเย็นชาคนนั้นได้

เป้ยฉ่ายเวยก้มหน้ามองนิ้วเท้าของตัวเองและพูดเบาๆ “จื่อเชียน ฉันอยู่แก่ใจแต่แรกแล้ว สบายใจเถอะฉันไม่เป็นไร”

“คุณไม่เป็นไรจริงๆหรอ” หลี่จื่อเชียนแอบพูดเบาๆ ทำไมน้ำเสียงของคุณฟังดูเศร้าจัง

เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากถกเรื่องนี้กับหลี่จื่อเชียนอีกต่อไปแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้ง “อื้อ ฉันสบายดี วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของหนานฉิง เราเข้าไปข้างในกันเถอะ”

หลี่จื่อเชียนจ้องมองรอยยิ้มสมบูรณ์แบบบนใบหน้าของเธอ ใจเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้พยายามเซ้าซี้กับการปกปิดของเธอ เขาพยักหน้าพร้อมพูดว่า “ตกลง”

เธอที่เป็นเช่นนี้ ทำให้เขาปวดใจ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าจะต้องปกป้องเธอให้ได้

หัวใจของเป้ยฉ่ายเวยค่อยๆสงบลง เธอพูดกับเขาเพียงคำเดียวเบาๆ “ขอบคุณ”

หลี่จื่อเชียนดูเหมือนจะเข้าใจ รอยยิ้มของเขาค่อยๆกว้างขึ้น

ฉากนี้สะท้องเข้าสู่สายตาของบุคคลหนึ่ง ฉูเจ๋อหยางซึ่งยืนอยู่บริเวณประตูทางเข้าแสดงท่าทางไม่แยแส จนกระทั่งเขาเห็นร่างอันบอบบางนั้นท่ามกลางฝูงชน และยังมีหลี่จื่อเชียนอยู่ข้างๆ สายตาเย็นชานั้นยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอไม่บอกลา ที่แท้ทั้งคู่ก็แอบไปกินกันมา เป้ยฉ่ายเวยคุณเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายอย่างนี้ได้อย่างไร

“อาเจ๋อ เป็นอะไรไปคะ” หนานฉิงสังเกตเห็นความเย็นชาบนใบหน้าเขาจนเธอต้องถามขึ้นอย่างเป็นกังวล

เธอสังเกตการกระทำของอาเจ๋อทุกฝีก้าว แม้ว่าเขาจะจ้องมองอย่างผ่านๆ แต่ก็ถูกเธอจับได้อยู่ดี เพราะว่าเธอใส่ใจ นั่นเป็นสาเหตุให้เธอใส่ใจเป็นพิเศษ

เธอยังคงเพลิดเพลินไปกับสายตาทุกคู่ที่จับจ้องอย่างชื่นชม นี่เป็นเพราะชายที่อยู่ข้างกายเธอเท่านั้น เขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติคู่ควรกับเธอ

“ไม่มีอะไร” ริมฝีปากบางเฉียบของฉูเจ๋อหยางมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยแขนออก ด้วยสายตาที่ประหลาดใจของหนานฉิง เขาคว้าเอวเธอเอาไว้และกระซิบเบาๆ “วันเกิดไม่ใช่หรอ ถ้าอย่างนั้นก็มีความสุขซะหน่อย”

ความสุขก็มาในทันที หนานฉิงอึ้งไปอยู่พักหนึ่ง เมื่อรู้ตัวว่าฉูเจ๋อหยางกำลังโอบเอวเธออยู่ ถ้าหากว่ารอบตัวไม่ได้เต็มไปด้วยผู้คนแล้วล่ะก็ เธอคงต้องกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น

เธอแทบจะจำไม่ได้ว่าอาเจ๋อไม่ได้โอบเธอแบบนี้นานแค่ไหนแล้ว ยิ่งอยู่ในงานสำคัญแบบนี้ด้วย นั่นหมายความว่าอาเจ๋อยกโทษให้กับสิ่งที่เธอทำแล้วใช่หรือไม่

รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าเธอในทันที ทันใดนั้นเธอก็เหลือบมองเป้ยฉ่ายเวยที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนมุมปากเธอโค้งขึ้นราวกับว่าเป็นการอวดถึงชัยชนะ

เป้ยฉ่ายเวยเธอเห็นแล้วใช่ไหม สุดท้ายคนที่อาเจ๋อชอบก็คือฉัน เธอก็แค่เป็นโสเภณีชั้นต่ำ อาเจ๋อเล่นเล่นเสร็จแล้วก็โยนทิ้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว