บทที่ 207 ความโกรธของชายหนุ่ม
——ฟึบ
ที่เขี่ยบุหรี่ปลิวไปยังตำแหน่งที่ถังฉีตงนั่งอยู่
ถังฉีตงอย่างกับรู้ล่วงหน้า หลบไปพรางหัวเราะคิกคักไป ไม่ลืมที่จะพูดเหน็บแนม “ฉันไม่ได้พูดผิดอะไรซักหน่อย นายก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นอยากให้นายกินแทบแย่ ถึงยังไงหน้าตาก็ไม่ได้แย่นะ คงไม่ได้กินยากอะไรหรอกใช่ไหม?”
เขาแค่อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้เป้ยฉ่ายเวย ถ้าเป็นเขานะ ไอ้เลวจางเจิ้งกวางนั่นได้ถูกกระทืบจนแบนเป็นแพนเค้กไปแล้วแน่
ฉูเจ๋อหยางไม่ได้สนใจคำพูดแอบจิกกัดของเขา พูดขึ้นเสียงนิ่งว่า “ช่วงนี้ได้ข่าวอื่นๆของลิ่วเอ่อร์บ้างไหม”
เมื่อพูดเรื่องงานถังฉีตงจึงตอบกลับไป “ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไร มันยังอยู่ที่ร้านเหล้านั้นตลอด ไม่รู้ด้วยว่าทำอะไรอยู่”
“ตระกูลเสิ่นตอบอะไรมาบ้าง” แม้ตอนนี้ลิ่วเอ่อร์จะไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แต่ว่าถ้ายังไม่รีบกำจัดเนื้อร้ายไปที่อาจจะงอกมาเมื่อไหร่ก็ได้ไป เป้ยฉ่ายเวยอาจจะเกิดอันตรายได้ตลอดเวลา เขา รู้จักมักคุ้นกับลิ่วเอ่อร์มาหลายปี เขาจึงรู้ดีว่าลิ่วเอ่อร์เล่ห์เหลี่ยมเยอะขนาดไหน
ถังฉีตงเล่นโทรศัพท์ คิดไป จากนั้นก็พูดขึ้น “ไม่มี เหมือนตระกูลเสิ่นไม่ค่อยสนใจเรื่องของลิ่วเอ่อร์เท่าไหร่ ถึงยังไงลิ่วเอ่อร์ก็เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาคงยังไม่ค่อยกองหนุนเท่าไหร่ ตระกูลเสิ่นคงไม่ยอมออกหน้าเพื่อลิ่วเอ่อร์หรอก”
บรรยากาศเงียบลงถนัดตา
ร่างของฉูเจ๋อหยางยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ก้มมองวิวของเมืองจิ่นอัน มองลงไปข้างล่างตึกก็เห็นคนเท่ามดตัวเล็กๆ ยิ่งอยู่สูงเท่าไหร่ภาระหน้าที่ที่แบกไว้ก็ยิ่งหนัก เมื่อพลาดท่าหกล้มลงไปไม่แค่จะแตกละเอียดเป็นผุยผง อาจจะต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอีกด้วย
ทุกๆการตัดสินใจของเขามีความเป็นไปได้มากที่อาจจะกระทบคนอื่น ดังนั้นต่อให้ในใจจะแคร์ใครบางคนมากก็ตาม ก็ต้องข่มความรู้สึกเอาไว้ไม่แสดงอะไรออกไป ต้องไม่เผยความรู้สึกใดๆออกมาให้เหมือนการเก็บน้ำไว้ไม่ให้รั่วออกมาแม้แต่หยดเดียว
“เธอเป็นยังไงบ้าง”
ถังฉีตงรู้ในทันทีว่าเธอที่ฉูเจ๋อหยางถามถึงหมายถึงใคร เขาไม่ค่อยอยากจะตอบ แต่ก็เพื่อไว้หน้าเพื่อน จึงเอ่ยปากตอบอย่างไม่เต็มใจนัก “จะเป็นยังไงซะอีกล่ะ ดูภายนอกอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ข้างในไม่รู้ว่าจะเหลืออะไรอยู่บ้าง”
ดวงตาสีเข้มของฉูเจ๋อหยางฉายแววแข็งกร้าขึ้นมาเล็กน้อย ผู้หญิงคนนั้นดื้อมากแค่ไหน เขารู้ดี เธอยอมขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนอื่น แต่ไม่ยอมเอ่ยปากของความช่วยเหลือกับเขาเลย ช่างดูเป็นการประชดประชันที่ดูยิ่งใหญ่เสียจริง
“นายจะปล่อยจางเจิ้งกวางไปหรอ?”ไม่ใช่ว่าที่ ผู้หญิงของตระกูลหนานคนนั้นมาที่นี่เพราะจุดประสงค์นี้หรอกหรอ
ตาเข้มของฉูเจ๋อหยางเหม่อมองไปยังเส้นขอบฟ้า ไม่ได้ตอบคำถามของเขา
ถังฉีตงไม่ได้ถือสาอะไร พูดขึ้นว่า “แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนายล่ะ หลี่จื่อเชียนทำคะแนนแซงนายไปเยอะแล้ว อีกไม่นานธรณีประตูของเวยเวยคงโดนเขาพังเข้าไปได้สักวัน”
เขารู้ว่าเพื่อนสนิทคิดยังไงกับเวยเวย แต่นิสัยของเพื่อนเขานี่มันชักจะเข้าถึงยากเกินไปแล้ว ชอบแอบไปทำอะไรแบบเงียบๆ ไม่ชอบป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ แต่ว่านะแอบรักแอบเป็นห่วงอยู่ตรงนี้ก็คงจะเสียเปรียบเอามากอยู่
ใครจะไปจำคนใจดีที่คอยแอบช่วยเหลืออยู่เงียบๆได้กัน อีกอย่างเธออาจจะไม่รู้ว่าคนที่คอยช่วยเหลือตัวเองเป็นใครไปตลอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ เป็นผู้ชายที่ดูเย็นชาแท้ไม่สนอะไรแท้ๆ แต่ทำไมชอบเล่นอะไรแบบนี้นะ
ตั้งนานก็ไม่เห็นว่าเพื่อนจะตอบอะไรเขากลับมามา ถังฉีตงจึงอดไม่ได้ที่เอ่ยขึ้น “นายไม่สนจริงๆแล้วใช่ไหม? จะทำเป็นไม่มีอะไรจริงๆหรอ งั้นนายก็สั่งให้คนของนายกลับมาเหอะ นายทั้งช่วยทั้งทำร้ายเธอไปด้วยแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นคงรับไม่ได้หรอก”
ฉูเจ๋อหยางพูดขึ้นเสียงแข็งแค่สองคำว่า “ออกไป”
ถังฉีตงลูบจมูกด้วยท่าทีกวนโอ๊ย “ได้ ได้ ฉันไปก็ได้”
เอะอะๆก็อารมณ์เสีย เขาไปก็ได้วะ
หลังจากเสียงปิดประตูเงียบลงไป ในห้องนี้ก็มีแค่เขาคนเดียว ทันใดนั้นเองที่ฉูเจ๋อหยางใช้หมัดต่อยกระจกใสอย่างแรง จนกระจกแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ตรงหน้าเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว
ตอนที่ 291-460 หายไปไหน...