หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 209

บทที่ 209 ค่อยๆทำให้เธอใจอ่อน

เป้ยฉ่ายเวยนิ่งไป จากนั้นก็พยักหน้ายอมรับคำถามของจื่อเชียน

รุ่ยรุ่ยเพิ่งจะตื่น ยังคงงัวเงีย แต่ก็รู้ว่าสายตาของผู้ชายตรงหน้าที่มองมายังแม่ของตัวเองมันแปลกๆ จึงถามขึ้นอย่างต่อต้านว่า “แม่ครับ ลุงคนนี้ใครหรอครับ?”

“เพื่อนแม่เอง รุ่ยรุ่ยลูก เรียกว่าคุณลุงหลี่นะ” เป้ยฉ่ายเวยลูบผมเส้นเล็กๆของลูก แล้วพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน

“อ้อ คุณลุงหลี่สวัสดีครับ” รุ่ยรุ่ยทักทายออกไปอย่างเชื่อฟัง

หลี่จื่อเชียนมองหน้าเด็กน้อยแล้วตอบกลับอย่างอ่อนโยนว่า “ครับผม ลุ่ยรุ่ยนี่เป็นเด็กดีจังเลยนะ”

“รุ่ยรุ่ยรอแม่อยู่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวแม่มา” เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าหลี่จื่อเชียนคงอยากรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แต่ว่ายังมีรุ่ยรุ่ยอยู่ด้วย เธอจึงคิดว่าออกไปพูดข้างนอกคงจะดีกว่า

รุ่ยรุ่ยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง คุณลุงคนนี้ดูท่าแล้วไม่เลวเลย แต่ยังไงก็ต้องจับตามอง ถึงอย่างไรซะช่วงนี้ก็มีโรคจิตเยอะอยู่เหมือนกัน

หลี่จื่อเชียนเดินตามเป้ยฉ่ายเวยออกไปด้วยความสับสน ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเด็กก็คนนั้นเป็นลูกของเวยเวยกับฉูเจ๋อหยางแน่ๆ ดังนั้นเวยเวยเลยเก็บความลับนี้เอาไว้อย่างระมัดระวังตลอดจนถึงปัจจุบันนี้สินะ

เขาไม่รู้ว่าควรเอ่ยถามอะไรดี มิน่าล่ะที่เธอไม่ยอมรับรักเขาสักที ที่แท้เธอกับฉูเจ๋อหยางก็มีลูกด้วยกันจนลูกโตขนาดนี้มาตั้งนานแล้ว แล้วฉูเจ๋อหยางก็รู้เรื่องด้วยใช่ไหม?

“จื่อเชียน ฉันรู้ว่าตอนนี้นายคงทำใจยอมรับลำบาก แต่ว่ารุ่ยรุ่ยเป็นลูกของฉันจริงๆนะ”

เป้ยฉ่ายเวยพาเขาเดินมาถึงใต้ต้นไม้ในสวน

ใบไม้สีเขียวที่ดูอร่ามตาปลิวไสวอยู่ใต้แสงอาทิตย์ แผ่สยายเป็นร่มเงา ลมอ่อนๆพัดผ่านมาจนใบไม้เกิดเป็นเสียงดังวี้ดวิ้ว

“เขารู้ไหม?” หลี่จื่อเชียนรู้สึกว่าเสียงที่เปล่งออกไปมีแต่ความเจ็บปวด คิดไม่ถึงเลยว่าไปๆมาๆแล้วผลมันจะเป็นแบบนี้ ความรู้สึกหน่วงๆที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้หมักหมมอยู่ในใจ

เป้ยฉ่ายเวยส่ายหัว “ไม่รู้ รุ่ยรุ่ยเป็นลูกของฉัน ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นรู้หรอก”

คำที่เธอพูดกลับแตกต่างจากที่เขาคิด ลูกเป็นของเธอแค่คนเดียวไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับผู้ชายคนนั้น

“เพราะฉะนั้นความลับของเธอก็คือลูกงั้นหรอ? เวยเวยทำไมไม่บอกฉัน” จากนิสัยของฉูเจ๋อหยางแล้วถ้าเขารู้ว่ามีเด็กคนหนึ่งเป็นลูกของเขา เขาคงไม่ยอมอยู่เฉยโดยไม่ทำอะไรแน่

มีความเป็นไปได้ที่เด็กคนนี้อาจจะถูกเขาแย่งตัวไปได้

เป้ยฉ่ายเวยแค่นยิ้ม “เหมือนอย่างที่นายคิดนั่นแหละ ถ้าฉูเจ๋อหยางรู้ว่ามีรุ่ยรุ่ยอยู่ ฉันคงรักษาลูกเอาไว้ไม่ได้นานขนาดนี้ อีกอย่างคนรักของเขาก็คือหนานฉิง ต่อให้รู้หรือไม่รู้แล้วมันจะได้อะไร”

“แล้วถ้าเขารู้เข้าล่ะ เวยเวยเธอเป็นแบบนี้มันไม่เหนื่อยเกินไปหรอ”

ไม่แปลกใจเลยที่เธอขยันทำงานมาตลอด จนไม่ยอมหยุดพัก ที่แท้ก็เป็นเพราะลูกนี่เอง หลี่จื่อเชียนอยากจะพูดอะไรอีกหน่อย แต่เมื่อเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเป็นแม่ของเธอคำที่จะพูดกลับพูดออกมาไม่ได้

“เขาไม่รู้หรอก” เป้ยฉ่ายเวยตอบกลับอย่างมั่นใจ เพราะว่าเดี๋ยวเธอก็จะพารุ่ยรุ่ยหนีไปแล้ว

“เวยเวย ถึงเธอจะไม่อยากให้เขารู้ แต่ว่าเธอแค่คนเดียวจะเลี้ยงดูลูกได้ยังไง” ในใจของหลี่จื่อเชียนมีความหวังเพิ่มขึ้นมา ถ้าเวยเวยไม่อยากให้ฉูเจ๋อหยางรู้เรื่องลูก เขาก็จะมีโอกาสได้ดูแลเด็กคนนั้นกับเธอใช่ไหม?

เอาตามจริงตอนแรกที่รู้ว่าเวยเวยมีลูกกับฉูเจ๋อหยาง ในใจเขาไม่สามารถยอมรับมันได้เลย แต่ว่าตอนนี้เมื่อลองกลับมาคิดดูอีกครั้งกลับรู้สึกดีใจขึ้นมา ความลับอันยิ่งใหญ่ของเวยเวยเปิดเผยออกมาแล้ว และไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องปิดบังเขาอีก

หมอกหนาที่กั้นกลางระหว่าเขาและเธอเอาไว้ก็ค่อยๆสลายลงแล้ว มีลูกแล้วยังไง ขอแค่เวยเวยยินยอม เขาก็เต็มใจจะดูแลทั้งสองแม่ลูก

แค่คิดว่าต้องไปจากเวยเวย ใจของเขาก็รู้สึกหน่วงราวกับมีก้อนหินมาทับไว้ เขาถามใจตัวเอง ว่าถ้าเวยเวยมีลูกแล้วเขาจะยอมรับได้ไหม?

แน่นอนว่าคำตอบคือได้อยู่แล้ว ในเมื่อเขาเองก็ไม่สนว่าเธอจะมีหรือไม่มีลูก และตัวเขาเองก็รักเธอด้วย แล้วใยต้องไปพัวพันกับปัญหานี้ด้วย

อีกอย่างเจ้าก้อนซาลาปานั้นดูๆแล้วคงจะน่าเอ็นดูไม่เบา

ให้เขาดูแลสองแม่ลูกยังจะดีกว่าปล่อยให้เธอลำบากคนเดียว เมื่อคิดได้แบบนี้ ใจของเขาดันรู้สึกโล่งขึ้นมา

“เวยเวย ให้ฉันดูแลพวกเธอนะ”

เป้ยฉายเวยตกใจกับดวงตาเป็นประกายของหลี่จื่อเชียน “จื่อเชียน นายพูดอะไรเนี่ย”

ให้เขามาดูแลเธอกับลูกของฉูเจ๋อหยางเนี่ยนะ จื่อเชียนจะบ้าไปแล้วหรอ เธอคิดว่าหลังจากจื่อเชียนได้รับรู้เรื่องลูกของเธอแล้วจะยอมถอดใจซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะยิ่งเป็นการเพิ่มเชื้อเพลิงให้เขา

“เวยเวย เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันเต็มใจจะดูแลเธอและลูกนะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จื่อเชียนขยายกว้างขึ้น

แววตาของเป้ยฉ่ายเวยฉายแววสับสนขึ้นมา พูดขึ้นอย่างมีน้ำโหนิดๆว่า “จื่อเชียน ฉันคิดว่านายคงเข้าใจผิด ฉันดูแลรุ่ยรุ่ยคนเดียวได้”

ดวงตาที่ทอประกายของหลี่จื่อเชียนอ่อนแสงลงทันที เขาตบหน้าผากตัวเองอย่างหงุดหงิด ทำไมเขาถึงได้ฉวยโอกาสอย่างนี้ จู่ๆก็พูดออกมากระทันหันว่าอยากดูแลเธอกับลูก ไม่แปลกใจที่เป้ยฉ่ายเวยคงจะคิดว่าเขาพูดพรวดพราดสุมสี่สุมห้า

พูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดว่า “ขอโทษนะเวยเวย ฉันผิดเอง ว่าแต่เธอรีบร้อนกลับมาไม่ใช่หรอ ตกลงใครป่วยหรอ”

ไม่ใช่คุณยาย งั้นก็เหลือค่เด็กคนนั้น.....

พูดถึงเรื่องป่วย เป้ยฉ่ายเวยก็หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความกลัดกลุ้ม “รุ่ยรุ่ยเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว ที่ฉันกลับมาวันนี้ก็เพื่อเตรียมตัวพาเขาไปผ่าตัดที่ต่างประเทศ”

“เธอจะพาลูกไปต่างประเทศคนเดียวหรอ” หลี่จื่อเชียนมองใบหน้าที่บ่งบอกว่าตัดสินใจดีแล้วของเป้ยฉ่ายเวย ก็รู้สึกทำใจไม่ได้ ที่แท้เวยเวยก็วางแผนที่จะไปตั้งนานแล้ว

เธอไม่อยู่ที่นี่เพื่อฉูเจ๋อหยาง และเธอก็ไม่อยู่ที่นี่เพื่อเขาเหมือนกัน

“อื้ม เรื่องโรงพยาบาลฉันก็ติดต่อไว้แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าอาการรุ่ยรุ่ยกำเริบกะทันหัน ฉันก็คงไม่ได้กลับมาที่นี่” เป้ยฉ่ายเวยก้มหน้าลงมองปลายเท้า ในใจหนักอึ้งไปหมด

เวลานี้หลี่จื่อเชียนก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี อยากให้เธออยู่ก็ไม่มีเหตุผลให้รั้งเธอไว้ อยากจะอยู่ข้างเธอแต่ก็ไม่มีข้ออ้างใดๆมาใช้ กว่าจะได้รู้ความลับของเธอมันไม่ใช่เรื่องง่าย หรือว่าเขาทั้งสองจะเป็นเหมือนตอนเรียนมหาลัย ที่เขาทำได้แค่มองเธอเดินจากเขาไปอย่างนั้นหรอ?

ไม่ เขาทำไม่ได้

“เวยเวย ฉันรู้ว่าเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร แต่เธอก็ควรคิดถึงลูกนะ อย่างเหตุคับขันวันนี้ที่เธอต้องเจอ เธอคิดว่าแค่เธอคนเดียวจะจัดการได้หรอ ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องรุ่ยรุ่ยกับคนอื่นแน่นอน”

หลี่จื่อเชียนกล่าวต่อในตอนที่สายตาของเธอยังคงสับสนอยู่ “ฉันแค่อยากช่วยเธอ ถ้าจะไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองจิ่นอันฉันรับรองว่าจะไม่มีปัญหาแน่นอน หรือถ้าเธอจะไปต่างประเทศจริงๆ อยากจะหลบหนีจากสายตาคนอื่น ยังไงเธอก็ต้องการคนช่วยปกปิดเรื่องราวของเธอไม่ใช่หรือไง”

เป้ยฉ่ายเวยรู้ว่าที่หลี่จื่อเชียนพูดมามันถูกหมด แต่เธอก็ต้องไป ต้องปกปิดฉูเจ๋อหยาง ปกปิดทุกคน แล้วยังต้องเตรียมรับมือกับหนานฉิงอีก ตอนแรกก็ว่าจะให้ซือซือช่วย แต่ว่าตอนนี้เธอกับถังฉีตงตัวติดกันเกินไปแล้ว

เธอไม่กล้ายืนยันว่าถังฉีตงจะไม่รู้เรื่องอะไรจริงไหม จากนั้นจื่อเชียนก็ยื่นข้อเสนอใหญ่มาให้เธอ

แต่ว่า “ฉันติดนายไว้เยอะแล้ว คืนไม่ไหวหรอก”

“ถ้าเธอเห็นฉันเป็นเพื่อนจริงๆ ทำไมจะคืนไม่ไหวล่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมันก็เป็นแบบนี้แหละ ถามหน่อยถ้าฉันมีเรื่องเธอก็จะนั่งมองเฉยๆไม่ทำอะไรหรอ?” หลี่จื่อเชียนตัดสินใจแล้วว่าควรทำให้เป้ยฉ่ายเวยใจอ่อนก่อน ตอนนี้เขารู้ความลับของเธอมากกว่าที่ฉูเจ๋อหยางรู้อีก

ถือโอกาสใช้เวลานี้ สร้างมิตรกับเด็กคนนั้นให้สนิทกันมากขึ้น ทำให้เวยเวยค่อยๆยอมรับเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว