หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 213

บทที่ 213 โอกาสรอดชีวิต

ชายหนุ่มจ้องมองมือของลิ่วเอ่อร์ จากนั้นก็ควักปืนที่อยู่ข้างหลังขึ้นมาทันที วินาที่ยกปื้นขึ้นมา เขาก็พบว่าทางลิ่วเอ่อร์ไม่ได้มีท่าทีจะยกปืนขึ้นยิงเขาเลย และยังคงใช้สายตาเรียบนิ่งน่ากลัวจ้องมองมาที่เขา

เมื่อเห็นสายตาของลิ่วเอ่อร์ ชายหนุ่มก็รู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ จึงลั่นไกปืนโดยไม่ทันตั้งตัว กระสุนลูกหนึ่งถูกยิงออกมาจากปลายกระบอกปืน

ลิ่วเอ่อร์ไม่ได้เตรียมตัวจึงหลบไม่ทัน และอาจเป็นเพราะชายหนุ่มคนนั้นลนลานเกินไป กระสุนลูกนั้นเลยไม่ได้ปะทะกับกลางหน้าผากของลิ่วเอ่อร์ แต่กลับแล่นเฉียดผ่านแก้มด้านซ้ายไป

เพราะแบบนี้ ใบหน้าทางด้านซ้ายของลิ่วเอ่อร์จึงถูกกระสุนยิงเข้าให้ วินาทีต่อมาเลือดก็กระฉูดออกมาเต็ม

ความเจ็บที่แทรกซึมตามมาทำให้ลิ่วเอ่อร์ขมวดคิ้วมุ่น ในหัวสมองว่างเปล่าไปหมด แต่ก็ยังดีที่ยังคงประคองสติได้อยู่ สติของเขาไม่ได้หายไปไหน จากนั้นก็ฝืนความเจ็บแสบยกปืนขึ้นลั่นไยคนนั้น

แค่เสียงปังเสียงเดียว กลางหน้าผากของชายคนนั้นก็มีลูกกระสุนฝังอยู่ในนั้นแล้ว ดวงตาของเขาเบิกกว้างจ้องมองลิ่วเอ่อร์แล้วล้มลงไป

ผ้าที่คลุมใบหน้าของลิ่วเอ่อร์อยู่ถูกลมกระสุนยิงเสียดจนปลิวออก เลือดสดๆที่อาบอยู่บนครึ่งใบหน้าของเขา ช่วยปกปิดรอยแผลเป็นบนหน้าเอาไว้ได้

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ฝืนความเจ็บ เดินเซๆเข้าไปหาเสิ่นชีชี ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”

เสิ่นชีชีพยักหน้าขาวซีดของตัวเอง เธอไม่เคยเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในเหตุการณ์การปะทะกันด้วยปืนแบบนี้มาก่อน ตอนนี้มันกดดันไปหมดจนพูดอะไรไม่ออก จึงทำได้แค่พยักหน้าราวกับหุ่นยนต์

ลิ่วเอ่อร์เผยแววตาอบอุ่นออกมา จากนั้นก็ค่อยๆล้มลงไป

“นี่ คุณจะตายแล้วหรอ นี่คุณอดทนหน่อยสิ!”

เมื่อเสิ่นชีชีมองที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดของลิ่วเอ่อร์ ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาแต่ไหน วิ่งเข้าไปประคองลิ่วเอ่อร์ไว้ในอ้อมกอด ถามขึ้นอย่างร้อนรน

แผลของลิ่วเอ่อร์ไม่ใช่แค่เล็กๆ ตอนนี้เขาก็หมดสติไปแล้วเหมือนกัน กลยุทธ์ทุกข์กายนี่ก็โหดร้ายเอาการอยู่ ไม่ใช่แค่กับอดีตลูกน้องของเขา กับตัวเขาเองก็ยังดูไร้ความปรานีเลย

เสิ่นชีชีร้องเรียกลิ่วเอ่อร์อยู่นานก็ไม่เห็นว่าเขาจะตื่นขึ้นมา วิ่งเข้าไปที่รถอย่างลนลาน หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสิ่นลั่ง

“ชีชี นี่แกแอบไปขับรถเล่นอีกแล้วใช่ไหม? มันอันตรายไม่รู้หรือไง แต่ช่างเถอะ แกรีบกลับมาได้แล้ว พี่จะถือซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน แต่ถ้าแกยังดื้ออยู่อีก พี่จะไม่เกรงใจแกแล้วนะ”

เสียงของเสิ่นลั่งดังขึ้นมาตามสาย แม้คำพูดจะดูเหมือนดุด่า แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับค่อนข้างอ่อนโยน เหมือนอย่างที่ตามใจน้องสาวประจำ

“พี่คะ พี่รีบส่งคนมาที่ถนนเส้นนอกเร็ว หนูมีเรื่องแล้ว”

หลังจากที่เสิ่นชีชีได้คุยกับเสิ่นลั่ง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ดังขึ้น

เมื่อเสิ่นลั่งได้ยินก็ร้อนใจในทันที เขาค่อนข้างที่จะรู้จักน้องสาวตัวเองเป็นอย่างดี น้องสาวที่ในเวลาปกติจะทั้งดื้อทั้งแสบ ถ้าไม่ได้เจอเรื่องอะไรที่รุนแรง จะไม่ดูตกใจกลัวจนกลายเป็นแบบนี้

“ชีชี แกใจเย็นๆ และอย่าเพิ่งกลัว ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น บอกพี่มาซิ”

เสิ่นลั่งพยายามใช้น้ำเสียงอ่อนโยนมาพูดปลอบน้องสาว แต่จริงๆแล้วในใจกลับร้อนรนมากๆ

เสิ่นชีชีสะอึกสะอื้นบอกเรื่องที่เกิดขึ้นไป

เมื่อเสิ่นลั่งได้ยินว่ามีคนจะลักพาตัวน้องสาวตัวเอง ในตอนที่แววตาชะงักนิ่ง แต่ไม่นานก็ฉายแววอำมหิตออกมา แต่หลังจากได้ยินที่น้องสาวพูดว่าไม่เป็นอะไรแล้ว ถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ชีชี แกฟังพี่นะ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เสิ่นลั่งพูดจบก็กดวางสาย

เสิ่นชีชีกลับมานั่งอยู่ข้างๆลิ่วเอ่อร์อย่างช่วยอะไรไม่ได้ ดวงตาคู่สวยเห็นลิ่วเอ่อร์ที่ไม่มีสติ มือไม้ของเธอก็อ่อนไปหมด

ยังดีที่ไม่ต้องรอนาน สักพักก็มีเสียงเบรกรถดังขึ้นมา จากนั้นประตูรถหรูก็ถูกเปิดออกมา เสิ่นลั่งลงจากรถเป็นคนแรก จากนั้นก็เป็นกลุ่มบอดี้การ์ที่ตามลงมา

เมื่อเห็นว่าเสิ่นลั่งมาถึงแล้ว เสิ่นชีชีก็วิ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่ชาย เริ่มร้องไห้ขึ้นเสียงดังอีกครั้ง เธอกลัวมากจริงๆนะ

เสิ่นลั่งพูดลอบประโลมน้องสาวที่ดูหวาดกลัว พร้อมทั้งส่งสายตาให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเขาไปตรวจสอบ

บอดี้ดาร์ดรับทราบในทันที เดินมาหยุดอยู่ตรงลิ่วเอ่อร์ ลองตรวจดูลมหายใจของเขา จากนั้นก็พูดกับเสิ่นลั่งว่า “คุณเสิ่นครับ บนตัวของคุณคนนี้มีลูกกระสุนเสียดผ่านอยู่สองจุด แต่ก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตครับ”

เสิ่นชีชีกลับมาเป็นคุณหนูอารมณ์ร้าย พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ไอ้โง่ ตอนนี้เขาหมดสติไปแล้ว ไม่อันตรายถึงชีวิตอะไรล่ะ ฉันขอสั่งพวกแกให้ช่วยชีวิตคนๆนี้ไว้ให้ได้!”

บอดี้การ์ดพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “คุณหนูวางใจได้เลยครับ แค่ส่งเขาไปโรงพยาบาลก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ดูจากบาดแผลบนใบหน้าของเขาแล้ว เขาอาจจะเสียโฉมได้นะครับ”

เสิ่นชีชีผละออกจากอ้อมกอดของเสิ่นลั่ง พูดขึ้น “พาฉันไปโรงพยาบาลกับเขาด้วย ไม่ว่าจะต้องจ่ายเงินเยอะแค่ไหนก็ต้องรักษาเขาให้หาย”

และไม่สนด้วยว่าเสิ่นลั่งจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เสิ่นชีชีขึ้นไปบนรถเฟอรารี่แล้ว จากนั้นส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดพาลิ่วเอ่อร์ขึ้นมาบนรถ

จากอารมณ์ของน้องเขา ตอนนี้เขาคาดเดาอะไรไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงทำได้แค่บอกให้บอดี้การ์ดพาพวกเขาไปส่งโรงพยาบาล

หลังจากที่บอดี้การ์ดขับรถจากไปแล้ว เสิ่นลั่งก็โทรศัพท์แจ้งตำรวจ ถึงอย่างไรที่นี่ก็มีคนตาย ยังไงก็ต้องให้ทางตำรวจมาตรวจสอบ

เสิ่นลั่งเรียกบอดี้การ์ดที่ไว้ใจได้สองคนเข้ามาหา ขมวดคิ้วพูดขึ้น “ที่จิ่นอัน ยังมีคนกล้าทำกับชีชีแบบนี้ด้วย ฉันสงสัยว่าโจรพวกนี้คงไม่ใช่นักโทษแหกคุกออกมาลักพาตัวคนไปเรียกค่าไถ่ แต่น่าจะเป็นเพื่อจุดประสงค์อื่น ถ้าทางตำรวจทำเรื่องอะไรเสร็จ พวกแกต้องไปสืบหาเรื่องนี้มาให้ได้”

หนึ่งในสองคนนั้นนั้นรีบพูดขึ้นว่า “คุณเสิ่นครับ พวกเราดูแลคุณหนูไม่ดีเอง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมจะรับผิดชอบสืบหาให้ได้ครับ”

เสิ่นลั่งพยักหน้าน้อยๆ “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสืบหาอะไรทั้งนั้น ชีชีเป็นยังไงฉันรู้จักดี มันไม่ใช่ความผิดของพวกแกหรอก ผู้ชายคนนั้นที่ช่วยชีชีไว้ ฉันไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่ เรื่องนี้พวกแกก็ต้องคอยสังเกตและก็ตรวจสอบด้วย”

บอดี้การ์ดถามขึ้นว่า “คุณเสิ่นก็รู้สึกว่าผู้ชายที่ช่วยคุณหนูเอาไว้ดูน่าสงสัยใช่ไหมครับ?”

เสิ่นลั่งครุ่นคิด จากนั้นก็พูดว่า “ที่นี่เป็นแถบชานเมือง เขาจะบังเอิญมาเจอชีชีที่กำลังถูกลักพาตัวได้ยังไง อีกอย่าง เขาฆ่าคนไปสามคนคง ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆที่จะทำแบบนั้น ได้ เพราะฉะนั้นพวกแกต้องคอยจับตามองคนนี้เอาไว้อย่างใกล้ชิด”

บอดี้การ์ดพยักหน้า พูดว่า “พวกเรารู้แล้วครับว่าควรทำอย่างไร คุณเสิ่นครับ ที่คุณหนูมีเรื่องมันเป็นสัญญาณเตือนอะไรพวกเราสักอย่าง ในช่วงนี้ คุณก็ควรต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยด้วยนะครับ”

เสิ่นลั่งโบกมือพูดขึ้นว่า “พวกแกไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก ที่จิ่นอันไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับตระกูลเสิ่นหรอก พวกแกก็ไม่ต้องเครียดกันเกินไป ฉันคิดว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่คนมีอำนาจอะไรที่ลงมือทำ ดังนั้นไม่ต้องไปทำให้คนอื่นเขาแตกตื่นกันล่ะ”

บอดี้การ์ดสองคนสบตากัน จากนั้นก็ค่อยๆก้าวถอยหลังออกมา คำพูดของเสิ่นลั่งถือเป็นคำสั่ง พวกเขาต้องเริ่มไปไล่ตามสืบข้อมูลของโจรสามคนนี้กับลิ่วเอ่อร์ตั้งแต่ตอนนี้ เลย

เสิ่นลั่งขมวดคิ้วครุ่นคิด พูดขึ้นเบาๆกับตัวเองว่า “ถ้านี้เป็นกลยุทธ์ทุกข์กาย แบบนั้นผู้ชายคนนี้คงจิตใจอำมหิตน่าดู แต่ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นแบบที่ฉันคิด ฉันขาดแคลนคนแบบนี้อยู่พอดี ไม่แน่อาจจะช่วยอะไรฉันได้ แต่ว่าเรื่องของชีชี ฉันไม่ยอมปล่อยไปแน่ ต้องหาโอกาสฟ้องมันสักครั้งถึงจะพอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว