หลงรักทนายคนเลว นิยาย บท 214

บทที่ 214 เป็นชู้

แสงอาทิตย์ข้างนอกยังคงแยงตาอยู่ แต่หัวใจของเป้ยฉ่ายเวยกลับว่างเปล่าไปหมด สิ่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่อย่างเดียวคือความคิดที่จะพารุ่ยรุ่ยไปทำการผ่าตัดที่ต่างประเทศ

ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ส่งเสียงดังครืดๆขึ้นมา เป้ยฉ่ายเวยมองไปยังรุ่ยรุ่ยที่ยังหลับสนิทอยู่ จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นเบาๆเดินออกไปอย่างเงียบๆ ตามด้วยค่อยๆปิดประตูลง เดินไปรับโทรศัพท์ตรงทางเดิน

“คุณโทรมามีอะไร” ” เสียงของเป้ยฉ่ายเวยไม่นิ่งเลย ปลายนิ้วที่สั่นเกร็งเผยให้เห็นความลนลานในใจของเธอได้ชัด

เสียงของชายหนุ่มยังคงทุ้มเหมือนเดิม ถามขึ้น “คุณอยู่ที่ไหน”

“ฉันออกมาทำธุระข้างนอก คุณเรียกหาฉันมีอะไรหรือเปล่า” เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆฉูเจ๋อหยางถึงได้โทรมาหาเธอ เธอและเขาไม่ได้พูดกันมานานแล้ว อย่าว่าแต่เจอกันเลย

การที่เธอรับโทรศัพท์เขา มันทำให้เธอรู้สึกราวกับผ่านไปหลายปี ราวกับความรู้สึกในใจของเธอที่มีต่อเขาไม่เคยลดลงเลย แค่รอเวลาที่จะล้นทะลักออกมาก็เท่านั้น

“ออกมา” ชายหนุ่มออกคำสั่ง

เป้ยฉ่ายเวยไม่อยากจะยอมรับว่าทุกคำพูดทุกการกระทำของเขายังคงมีผลต่อตัวเอง ถึงความจริงมันจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ เธอพยายามกดความสั่นไหวในหัวใจเอาไว้ พูดขึ้นเสียงเรียบนิ่ง “มีเรื่องอะไร คุณพูดมาในนี้เถอะ”

ฉูเจ๋อหยางไม่คาดคิดว่าเป้ยฉ่ายเวยจะปฏิเสธ คิ้วเรียวสวยได้รูปก็บิดเบี้ยวขึ้นมาทันที เป้ยฉ่ายเวยเพิ่งจะเอาเงินห้าล้านไปแลกเป็นเงินสดที่ธนาคารมา เขาเพิ่งได้ข่าว การกระทำที่ดูรีบร้อนของเธอ ทำให้ใจของเขาหนักอึ้งไปโดยปริยาย

มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีมาก่อน มันเหมือนกับหัวใจของเขาถูกใครบีบเอาไว้ในมือ ไร้เรี่ยวแรงดิ้นรน

เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้ ดังนั้นเลยโทรมาหาเธอเองโดยตรง

“คุณก็รู้ว่าถ้าผมอยากรู้ว่าคุณอยู่ไหนผมก็รู้ได้ ขอเวลาสิบห้านาที”

เป้ยฉ่ายเวยคิดไม่ถึงว่าฉูเจ๋อหยางยังคิดจะตามหาเธออีก ใจของเธอกระตุกวูบ ถามขึ้นอย่างเครียดๆว่า “ฉูเจ๋อหยางคุณคิดจะทำอะไรกันแน่!”

ถ้าให้ฉูเจ๋อหยางรู้ที่อยู่ของตัวเอง แบบนั้นก็ไม่เท่ากับว่าเป็นการเปิดเผยเรื่องที่มีรุ่ยรุ่ยอยู่หรอกหรอ

ผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลมากกว่าสี่ปีก่อนขึ้นเยอะมาก

“ในยี่สิบนาที ถ้าไม่เห็นคุณกลับมา คุณคงรู้ดีว่าจะเดิอะไรขึ้น” ฉูเจ๋อหยางพูดจบก็ไม่ให้โอกาสเป้ยฉ่ายเวยได้ตอบอะไร เขาก็ตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว

เป้ยฉ่ายเวยมองโทรศัพท์ที่เสียงดับไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่อยากจะกรีดร้อง ฉูเจ๋อหยางสมควรไปตายซะ ไม่ให้โอกาสเธอตอบอะไรแม้แต่น้อย ตัดสายไปซะดื้อๆ

กลับไปภายในยี่สิบนาที? คงไม่ใช่ว่าเขารอเธออยู่ข้างล่างนะ

ในใจของเป้ยฉ่ายเวยบอกว่าไม่ต้องกลับไป แต่เมื่อลองนึกถึงนิสัยที่พูดจริงทำจริงของฉูเจ๋อหยาง ก็ทำใจสงบไม่ได้เลยสักนาที เธอกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับไปหาผู้ชายคนนั้นดูว่าเขาต้องการทำบ้าอะไรกันแน่

เธอไม่สบายใจที่จะให้รุ่ยรุ่ยอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียว จึงโทรหาเพื่อนสนิท ยังดีที่ช่วงนี้เพื่อนว่างอยู่พอดี จึงรีบตอบรับคำขอของเธออย่างกระตือรือร้น

เป้ยฉ่ายเวยเรียกแท็กซี่กลับไปอย่างรีบร้อน ในเวลายี่สิบนาทีกลับจากโรงพยาบาลไปอพาร์ทเม้นเป็นอะไรที่ยากมาก โชคดีที่ตลอดทางรถไม่ติดไฟแดงเยอะ แต่ทว่าก็ยังช้าไปสิบนาทีอยู่ดี

เมื่อกลับมาถึงห้องของตัวเอง ก็เห็นผู้ชายที่เธอชังน้ำหน้า นั่งสงบนิ่งรออยู่บนโซฟากลางห้อง

“ฉูเจ๋อหยาง ปั่นหัวฉันเล่นนี่สนุกไหม?” เป้ยฉ่ายเวยเดินพุ่งเข้าไปอย่างโมโห ตะโกนถามขึ้นเสียงดัง เธอโกรธจนจะบ้าแล้ว เธอตัดสินใจที่จะหลบออกห่างจากผู้ชายคนนี้ แล้วทำไมเขาต้องกลับมายุ่งกับเธออีก

ไม่ใช่ว่าไปไหนมาไหนกลับหนานฉิงไปแล้วหรอ แล้วตอนนี้แจ้นมาหาเธอ มันหมายความว่ายังไงกัน

นัยน์ตาเยือกเย็นของฉู๋เจ๋อหยางปรายตามองเธอที่หอบแฮ่กๆ พูดขึ้นเสียงนิ่งว่า “ดูคุณรีบมาก”

เป้ยฉ่ายเวยชะงักไป ไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด มองเข้าไปในดวงตาลุ่มลึกของเขาอีกครั้ง ลมหายใจที่หอบแรงก็ค่อยๆผ่อนลง ความโมโหบนใบหน้าก็ค่อยๆจางลงแต่ก็ไม่หายไปทั้งหมด ถามขึ้นว่า “คุณยุ่งอะไรด้วย มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวไปทำธุระต่อ”

ธุระงั้นหรอ ธุระกับผู้ชายคนอื่นสินะ แววตาของฉูเจ๋อหยางทอประกายความเยือกเย็น สันกรามกระตุกเกร็งน้อยๆ ริมฝีปากบางเม้มจนกลายเป็นเส้นตรง พูดขึ้นเสียงเย็นว่า “เหอะ เป้ยฉ่ายคุณนี่ปล่อยตัวเก่งจริงๆ”

“ฉันปล่อยตัวอะไร ฉูเจ๋อหยางฉันว่าคุณน่าจะป่วยแล้ว ถ้าป่วยก็ไปหาหมอไป” อยู่ๆเป้ยฉ่ายเวยก็ถูกพูดกระแนะกระแหนใส่ เธอไปทำอะไรถึงว่าเธอเป็นแบบนั้นกัน

อีกอย่างถ้าเธอจะเป็นแบบนั้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา ตัวเองก็มีแฟนแล้ว ยังจะเข้ามายุ่งอีก

เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองรู้สึกคับอกคับใจอยู่ฝ่ายเดียวเด็ดขาด

“ห้าล้านยังไม่พอให้คุณใช้ชีวิตอย่างสบายๆได้อีกหรอ ถึงได้รีบร้อนคิดคบกับหลี่จื่อเชียนเร็วขนาดนี้ เป้ยฉ่ายเวยผมคงประเมินคุณต่ำไปจริงๆ”

เป้ยฉ่ายเวยมองฉูเจ๋อหยางที่ลุกขึ้นจากโซฟา ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหาตัวเองอย่างรุกราน เธอก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ ลมหายใจเริ่มถี่กระชั้นขึ้นมา

ทันใดนั้นเธอก็ได้สติว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ฉูเจ๋อหยางมีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอแบบนี้ เธอไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธออ่อนแอ เธอจึงหยุดฝีเท้า จากนั้น็ เงยหน้าขึ้นมองตาเขาอย่างท้าทาย “ฉูเจ๋อหยาง คุณอย่าลืมไปสิว่าในตอนนี้คุณเป็นแฟนของใคร คุณไม่มีสิทธิ์มาตัดสินอะไรฉันทั้งนั้น”

ตอนนี้ฉูเจ๋อหยางกำลังคิดว่าเป้ยฉ่ายเวยมองคนแค่ภายนอก สายตาที่มองเธอก็ไม่เป็นมิตรอีกต่อไป พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ไม่มีงั้นหรอ? เป้ยฉ่ายเวย คุณนี่เห็นแก่เงินจริงๆ”

เป้ยฉ่ายเวยไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าอยากยั่วโมโหฉูเจ๋อหยาง หรือเป็นเพราะอยากระบายความกระฟัดกระเฟียดในใจของตัวเองออกมา พูดขึ้นว่า “ใช่ ฉันเห็นแก่เงิน ฉันเป็นแบบนั้นแล้วจะทำไม ไม่ได้หรอ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับทนายใหญ่ฉูเจ๋อหยางกัน”

ยังไงก็ถูกเข้าใจผิดไปแล้ว งั้นก็ไม่มีอะไรมาอธิบายแล้ว ต่อให้เธออธิบายไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร เขาจะเชื่อไหม?

ไม่ นิสัยที่อะไรเล็กๆน้อยๆก็ชอบเอาคืนของเขา คงไม่เชื่อคำอธิบายของเธอหรอก คงจะคิดแค่ว่าเธอกำลังเถียงข้างๆคูๆอยู่ล่ะสิ

อีกอย่างเธอก็ต้องพารุ่ยรุ่ยไปจากที่นี่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้แล้วทำให้เขายอมปล่อยเธอไป งั้นก็ให้เขาเข้าใจผิดต่อไปแบบนี้แหละ

สายตาคมเข้มของฉูเจ๋อหยางอึมครึม มุมปากปรากฏเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย พูดขึ้นชัดๆเน้นๆทีละคำกับเธอว่า “เป้ยฉ่ายเวย คุณนี่ต่ำตมจริงๆด้วย”

เป้ยฉ่ายเวยกำหมัดแน่นในทันที พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล จึงทำได้แค่แสดงออกว่าอยากจะเอากำปั้นกระแทกหน้าของเขาเต็มทน

จากนั้นก็แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดนั้น พูดขึ้นว่า “ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะ ที่ทำให้คุณผิดหวัง ฉันมันก็เป็นผู้หญิงแบบนี้แหละ ไม่ได้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเท่าแฟนคุณหรอก”

“จริง คุณเทียบเธอไม่ติดหรอก” เมื่อฉูเจ๋อหยางได้ยินเธอพูดออกมาจากปากเอง หน้าอกก็ราวกับถูกชกเข้าเต็มๆ ไม่ปกปิดแววตารังเกียจในดวงตาเลยสักนิด

มือของเป้ยฉ่ายเวยกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ เจ็บแต่ไม่รู้ตัว ในที่สุดเขาก็ยอมรับแล้วว่าหนานฉิงสำคัญแค่ไหน ส่วนตัวเธอเองต่ำต้อยแค่ไหน ดีแล้วที่เธอไม่ได้อธิบายอะไรออกไป

ไม่อย่างนั้นคนที่จะทำให้ตัวเองต้องอับอายก็คงจะเป็นเธอ

เจ็บปวดจนอยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ว่าคนหัวดื้อแบบเธอ จะไม่ยอมให้เขาดูออกเลยแม้แต่น้อย “ถูกต้อง ฉันเทียบเธอไม่ติดอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วคุณเรียกฉันมาทำไม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลงรักทนายคนเลว